นับเป็นการทำงานที่ค่อนข้างท้าทายอีกเรื่องของ คณะทำงานแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของกองทัพภาคที่ 4 สนธิกำลังหน่วยงานเกี่ยวข้องโดดลงไปสางปัญหา วิลล่าหรูผุดเรียงราย “บนเขา“ หลายจุด ในพื้นที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างเช่น อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี อย่างเงียบ ๆหลายเดือนแล้ว

เชิงผา ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือน พ.ค. 67 จากที่ เดลินิวส์ ได้หยิบยกนำเสนอข่าว เศรษฐินีนักธุรกิจฝรั่งเศส ใช้ปืนจบชีวิตตัวเอง ริมสระว่ายน้ำวิลล่า บนเนินเขา ใน ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย ชนวนเหตุป่วยเป็นมะเร็งมานานแล้ว แต่ก่อนคิดสั้นทำพินัยกรรมยกมรดกบางส่วน ให้ “แม่บ้านชาวไทย” คนสนิทที่ดูแลอย่างใกล้ชิดมาหลายสิบปี มรดกทรัพย์สินเศรษฐินีนักธุรกิจฝรั่งเศส มูลค่ามากถึง 100 ล้านบาท นอกจากอสังหาริมทรัพย์แล้วยังมีธุรกิจที่ทำอยู่บนเกาะสมุย

นอกจากสื่อจะสนใจ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ก็จำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบหลักฐานด้านธุรกิจ ทั้งเรื่อง การถือครองอสังหา ริมทรัพย์ และ ธุรกิจ เสียภาษีผู้ประกอบการอย่างไรบ้าง ประเด็นตรวจสอบมรดกยังบานปลาย จนทำให้ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะ สมุย ขยับออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐ ตรวจสอบความไม่ชอบมาพากล

1.การถือครองทรัพย์สิน (ที่ดิน) ในประเทศไทย 2.การดำเนินกิจการธุรกิจ และ3.การจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อครอบครองวิลล่าของ “ชาวต่างชาติ” เพราะในปัจจุบันสภาพภูมิทัศน์ภูเขาตามธรรมชาติเสน่ห์ความสวยงามภูเขาของสมุยกำลังเปลี่ยนไป บนภูเขาหลายลูก วิลล่าหรูหรา ผุดราวกับดอกเห็ด กลายเป็น “เขาแหว่ง”

ยังดีที่หน่วยงานของ กอ.รมน.ภาค 4 ชุดทำงานแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติฯ ตามเก็บข้อมูลอยู่เช่นกัน พล..ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 นอกจากประสานหลายหน่วยงานเข้าไปร่วมสางปัญหา ยังลงไปดูพื้นที่ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะ6 จุดใหญ่” ตามบนเขา ถูกบุกรุกกว่า 1,000 ไร่ มีวิลล่าหรูนับ 100 หลัง มูลค่ารวมกันไม่ต่ำกว่า 1หมื่นล้าน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ครอบครองของ “ทุนต่างชาติ” มีทั้งยุโรป เอเชีย

ก่อสร้างอาคารอยู่บนที่สูงลาดชันเกินกว่าร้อยละ 50 ใช้ “นอมินี” บังหน้า รูปแบบเดียวกับคดี เมื่อต้นเดือน มิ.ย. 67พล...จิรภพ ภูริเดช ผบช.. นำกำลัง ตำรวจ ปอศ. ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ ล้างบางเครือข่ายนอมินีต่างชาติ ใน จ.ภูเก็ต ตรวจค้น บริษัทรับทำบัญชี บริษัทซื้อขายอสังหาฯ หลายแห่ง จับกุมผู้ต้องหา 231 ราย ในฐานะนิติบุคคล 96 ราย, บุคคล 135 ราย ชาวต่างชาติประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต 98 ราย (ส่วนใหญ่ชาวรัสเซีย) และ นอมินีชาวไทย 37 ราย

แต่ปัญหาบนเกาะสมุย น่าจะหนักยิ่งกว่าภูเก็ต วิลล่าหรูบนภูเขาสร้างเสร็จแล้วจำนวนมาก ทำให้ กอ.รมน.ภาค 4 ต้องเก็บหลักฐานรอบคอบ อีกทั้งยังมี กลุ่มสูญเสียประโยชน์ พยายามกดดันการทำงานเจ้าหน้าที่และสื่อ ไม่เว้นปั่นกระแสในโลกโซเชียลว่า กลั่นแกล้งร่วมกันทำลายภาพลักษณ์ท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ทั้งที่จริงหลายหน่วยงานเข้ามามีส่วนร่วม อาทิ กรมป่าไม้, กรมการปกครอง, กรมสรรพากร, ตร.ปทส., ตร.ภาค 8, ดีเอสไอ และ สำนักตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ

ตอนนี้ทยอยแจ้งข้อหา “วิลล่าหรู” ตามบนเขาที่กระทำผิดชัดเจน เร่งประเดิมติดประกาศรื้อถอนชุดแรก!!

ปัญหา “นอมินี” ให้นายทุนต่างชาติ ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังไม่ได้มีแค่ เกาะภูเก็ต เกาะสมุย เชื่อว่ายังมีลักษณะเช่นนี้อีกหลายแห่งทั้งภาคเหนือ ตะวันออก และภาคใต้ อาศัยช่องโหว่กฎหมายทำธุรกิจในไทยเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน สวมหมวกอีกใบเป็น “ผอ.รมน.” โดยตรง ต้นเดือน ส.ค.จะลงมาปฏิบัติภารกิจ จังหวัดชายแดนใต้

หากเสร็จสิ้นภารกิจชายแดนไทยมาเลย์แล้ว นายกฯ ลองถามไถ่ พล..ศานติ แม่ทัพภาค 4/ผอ.รมน.ภาค 4 ที่ส่งทีมงานเข้าไป ลุยแก้ปัญหาใหญ่บนเกาะสมุย กำลังเจออุปสรรคใดบ้างหรือไม่? หรือตัดสินใจแวะตามไปดูความคืบหน้ายิ่งเป็นเรื่องดี ในเมื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง ชูเสน่ห์ความงดงามธรรมชาติเป็นอีกจุดขายสำคัญ

ต่างชาติอยากบินมาเที่ยวแค่พักวิลล่าบนเขา หรืออยากสัมผัสเกาะที่มีธรรมชาติสมบูรณ์ทั้งป่า ภูเขา ท้องทะเล ถ้ารัฐบาลแก้ปัญหาสำเร็จเป็นรูปธรรม เชื่อว่า “สมุยโมเดล” จะนำไปใช้ในพื้นที่อื่น ช่วยเพิ่มศักยภาพท่องเที่ยวไทยได้แน่นอน.

………………………..
เชิงผา

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…