อย่างที่รู้ ๆ กัน ไม่ใช่เฉพาะบรรดามัมหมี หรือด้อมน้องเนย ชาวไทยเท่านั้นที่ถูก “ตก” แต่กลายเป็นว่า บรรดาด้อมชาวจีน ชาวเกาหลีใต้ ถึงกับลงทุนพากันบินมาดูความน่ารักของ “น้องเนย” แบบห้างแตก ก็มีมาแล้ว

เรียกได้ว่ากระแส “น้องเนย”ในเวลานี้ดังเป็นพลุแตก ด้วยความชาญฉลาดในการใช้กลยุทธ์Mascot Marketing” ของเข้าของและทีมงาน อย่าง “เหนือชั้น” ที่เรียกได้ว่า นอกจากจะช่วย “ฮีลใจ” ของชาวด้อมแล้ว ยังส่งผลต่อยอดขายของร้าน Butterbear ตามไปด้วยเช่นกัน

อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ ผลประกอบการของร้าน Butterbear หลังเปิดมาได้ 1 ปี พบว่า บริษัท บัตเตอร์แบร์ จำกัด มีรายได้รวม 7.4 ล้านบาท กำไร 2.7 แสนบาท

นอกจาก “น้องเนย” จะดังเป็นพลุแตก นาทีนี้ใครต่อใครก็อยากได้ “น้องเนย” มาช่วยสร้างกระแส ดูอย่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือททท. เองก็ “ตก” น้องเนย มาร่วมทำกิจกรรมโปรโมทเมืองไทยไปเรียบร้อยแล้ว

แม้ว่าก่อนหน้านี้ททท. จะดึงเอา “ลาบูบู้” มาสคอตชื่อดังจาก ร้านป๊อปมาร์ท จากแดนมังกร ที่สร้างกระแสอาร์ตทอยจน “ตกเงิน” คนไทยไปได้ไม่น้อย มาร่วมทำกิจกรรมในเมืองไทย

เป้าหมายสำคัญของททท. ก็ต้องการ “โปรโมท” เมืองไทย ผ่านการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยของ “ลาบูบู้” เพื่อนำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียชื่อดังของจีน

ทั้งหลายทั้งปวง ก็เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจีน ให้กลับมาเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ เพราะอย่าลืมว่า เวลานี้ “ท่องเที่ยว” ได้กลายเป็นพระเอกสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ส่วนการจับกระแสความสำเร็จของกลยุทธ์เหนือชั้นจากมาสคอตสุดคิวต์ “น้องเนย” ครั้งนี้ ก็เช่นกัน เป็นการดึงดูดเพื่อให้บรรดาพ่อหมี มัมหมี ด้องน้องเนย ทั้งไทยทั้งเทศ มาตามรอย

ททท.มั่นใจมากว่า การจัดกิจกรรมเที่ยวตามรอยน้องเนยครั้งนี้ จะช่วยทำให้เกิดเงินสะพัด สร้างรายได้ราว 100 ล้านบาท จากการเดินทางของเหล่าแฟนคลับน้องเนยประมาณ 1 แสนคน

“นิธี สีแพร” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. บอกว่า หากททท.สามารถดึงแฟนคลับของน้องเนยที่มีอยู่กว่า 10 ล้านคน มาได้สัก 10-15% มาร่วมกิจกรรม “สุขทันทีกับหมีเนย” ทั้งการเดินทาง การกิน การเที่ยว การชอปปิง ก็สร้างเงินสะพัดได้ไม่น้อย
กิจกรรม “สุขทันทีกับหมีเนย” จะอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ไกลมาก โดยเน้นไปที่กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้ ๆ อย่าง สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา นครปฐม อยุธยา

เพราะ… “น้องเนย” อายุ เพียง 3 ขวบ เท่านั้น ยังเดินทางไกล ๆ ได้ลำบาก ก็นะ…เรื่องนี้ต้องเป็นไปตามคอนเซปต์ของสาวน้อยชื่อดัง หากไปไกลมาก อาจหลุดคอนเซปต์

เมื่อลงพื้นที่…ก็จะมีการถ่ายทำหนังสั้นหรือทำคลิปเพื่อโปรโมทให้เหล่าแฟนคลับหรือมัมหมีตามรอย ทั้งการไปรับประทานอาหาร ไปเที่ยว ไปชอปปิง

ขณะเดียวกัน ก็มีกิจกรรม Luckydraw ลุ้นรับรางวัล พิเศษ เพื่อร่วมกิจกรรมแฟนมีตติ้งกับน้องเนย!!

หรือ…อาจเป็นรางวัลประเภท บัตรส่วนลดร้านอาหาร โรงแรมต่าง ๆ เพียงแค่แชร์ภาพ การเดินทางท่องเที่ยวตามรอยน้องเนย ที่ปรากฎในสื่อต่าง ๆ ของททท. อะไรเทือกนี้ เป็นต้น

กิจกรรมนี้จะมีอายุประมาณ 3-6 เดือน โดยช่วง 3 เดือนแรก จะมีการเปิดตัวที่ชัดเจน เพื่อกระตุกกระตุ้นบรรดาแฟนคลับน้องเนย ให้รับรู้กิจกรรม

เบื้องต้นก็เชื่อว่า จะมีการใช้จ่ายในกิจกรรมนี้ประมาณคนละ 5,000-7,000 บาท และหลังจากทำกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้และความสุขแก่มัมหมีในประเทศแล้ว จะประเมินสถานการณ์เพิ่มเติม ก่อนพาน้องหมีเนยไปเอาใจนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะ มัมหมีจีน

แม้กลยุทธ์ Mascot Marketing น้องเนย ครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมาย ในอีกด้าน ที่แบรนด์ บัตเตอร์แบร์ ต้องเผชิญความท้าทาย คือเรื่องของการรักษาฐานแฟนคลับให้แข็งแรงในระยะยาว

อย่าลืมว่า ที่ผ่านมา หลาย ๆ แบรนด์ ในเมืองไทย ก็ใช้กลยุทธ์ มาสคอต นี้มาก่อน หลายรายประสบความสำเร็จ มีความปัง ในช่วงต้น กลายเป็นไวรัลในโซเชียลฯ แต่อยู่ได้ไม่นาน กระแสของเริ่มแผ่วลง

ตรงนี้!! ถือเป็นเรื่องยาก ที่ต้องทำอย่างไร? เพื่อรักษากระแสให้อยู่ได้อย่างยาวนาน ซึ่งต้องรอดู…ฝีมือของแบรนด์ ต่อไป!!.

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”

อ่านบทความทั้งหมดคลิกที่นี่