@การบ้าน การเมือง ประเทศไทย ภายใต้”รัฐบาลผสม” ที่มี”พรรคเพื่อไทย” เป็น”หัวเรือใหญ่” และมี”เศรษฐา ทวีสิน” เป็น”นายท้ายเรือ” ยังคงเดินหน้าฝ่า”มรสุม” ด้วยความ”โครงเคลง” มรสุมทาง”การเมือง” คือประเด็นการ”ชี้ชะตา” ของ”เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน” จาก”ศาลรัฐธรรมนูญ” จากกรณีแต่งตั้ง”พิชิต ชื่นบาน” เป็น”รัฐมนตรี” ที่แม้ว่าจากการติดตามความ”เคลื่อนไหว” ของ”นักกฎหมาย” และ”นักการเมือง” การตัดสินของ”ศาลรัฐธรรมนูญ” น่าจะ”มีคุณ” กับ”เสี่ยนิด” มากกว่า”มีโทษ” แต่เมื่อเรื่องยัง”คาราคาซัง” อยู่ก็ยังไม่มีอะไรที่ไว้วางใจได้ และประเด็นทาง”การเมือง” ที่เป็น”มรสุม” ลูกที่สอง คือเรื่องของ”พรรคก้าวไกล” ที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” กำหนดวันที่ 7 สิงหาคม 2567 เป็นวัน”ตัดสิน” เพื่อ”ชี้ชะตา” ของ”พรรคก้าวไกล” ซึ่งทั้ง”นักกฎหมาย” และ”นักการเมือง” ต่างเชื่อว่า”มีโทษ” มากกว่า”มีคุณ” กับ”พรรคก้าวไกล” แม้จะมี”รูรอด” จากการถูก”ยุบพรรค” และมีคนถูก”ตัดสิทธิ์” ทาง”การเมือง” แต่ เสียงส่วนใหญ่ เชื่อว่า”ศาลรัฐธรรมนูญ” ไม่เลือกที่จะออก”ประตูนั้น” และ”มรสุม”ทาง”การเมือง” ทั้งสองลูก ก็ไม่”เป็นคุณ” กับ”ประเทศไทย”และ”มรสุม” ทาง”การเมือง”ลูกที่สาม ที่กำลัง”โหมกระหน่ำ” คือความ”ขัดแย้ง” ในพรรคร่วมรัฐบาล จากเรื่องการ”แก้กฎหมาย” ให้”กัญชา” กลับไปเป็น”ยาเสพติด” ที่มองไกลเหมือนไม่มีอะไร แต่ใน”เบื้องลึก” พรรคภูมิใจไทย ไม่”ยินยอม” มีการเดินเกม”ต่อรอง” และ”แลกเปลี่ยน” เรื่องนี้อย่า”ประมาท” กับ”เสือยิ้มง่าย” อย่าง”เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีวะกุล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่รั้งตำแหน่ง”รองนายกรัฐมนตรี และ”เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย” การที่จะเอา”กัญชา” กลับไปเป็น”ยาเสพติด” ไม่ง่ายอย่างที่คิด ……
@รวมทั้งเรื่อง”ปุ๋ยคนละครึ่ง” ที่เป็น โครงการเพื่อ”ช่วยเกษตรกร”ที่เสนอโดย “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เสนาบดีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จาก”พรรคพลังประชารัฐ” ที่ หลายพรรคไม่เห็นด้วย และมองว่าเป็นการ” เอื้อนายทุน” มากกว่าช่วย”ชาวนา” นี้คือ”รอยร้าว” ที่ เริ่มเกิดขึ้นแล้ว หลังที่ “รัฐบาลผสม”ชุดนี้ บริหารประเทศมาเพียง 10 เดือน และ ต่อแต่นี้ไปจะมีเรื่อง”ขัดแย้ง” ระหว่าง”พรรคร่วม” ติดตามมาอีก”หลายกระบุงโกย” และแม้แต่ใน”พรรคเพื่อไทย”เอง” วันนี้ก็มีรอย”ปริร้าว” จาก”คน”กันเอง” นี้คือเรื่องของ”สนิมเกิดแต่เนื้อในตน” ที่เป็น”มรสุม” ทางการเมือง ซึ่งหาก”เศรษฐา ทวีสิน” รอดพ้นจากคำ”พิพากษา”ของ”ศาลรัฐธรรมนูญ” ก็ยัง”ไม่ง่าย” ในการนำ”เรือเพื่อไทย” ในการ”ฟันฝ่า” พายุ คลื่นลม ที่ โหดกระหน่ำ ที่ สำคัญ วันนี้ชื่อของ”เสี่ยนิด”เศรษฐา ทวีสิน” ขายไม่ได้ทั้งในเรื่องของ”การเมือง” และเรื่อง”เศรษฐกิจ” ความ”เชื่อมั่น”ต่อ” เสี่ยนิด” กำลัง”ลดน้อยลง” ทุกวันๆ ไม่เหมือนกับตอน”หาเสียง” และตอนรับตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” ใหม่ๆ…..เช่นเดียวกับ”มรสุม”ด้าน”เศรษฐกิจ” ที่เป็นเหมือน”สึนามิ” ลูกใหญ่ ที่ “โหมกระหน่ำ” ที่เรียกว่า”วิกฤติฐานราก” เช่น “หนี้ครัวเรือน 16 ล้านๆ สินเชื่อทั้งระบบ 13.6ล้านๆ หนี้เสีย 1.14 ล้านๆ ที่ สำคัญ ณ วันนี้ โรงงานในประเทศ “ปิดตัว” หรือ”เจ๊งบ๊ง” ไปแล้ว 2,000 โรง “วิกฤตเศรษฐกิจ” ครั้งนี้”ใหญ่หลวง” ที่เกินกว่าการ”แจกเงิน” ให้ประชาชนคนละ 10,000 บาท ตาม โครงการ”ดิจิตัลวอลเล็ต” จะสามารถ”ปะผุ” เรือรั่วลำนี้ได้ และ”วิกฎติเศรษฐกิจ” ครั้งนี้ก็เป็น”วิกฤตของรัฐบาล” ที่ต้องหา”ทางออก” โดยเร็ว ก่อนที่ เรือลำนี้จะ จมลง …..
@ หนึ่ง”ทางออก” ของ”เศรษฐา ทวีสิน” คือการให้”ฟรีวีซา” กับ”นักท่องเที่ยว”จากทั่วโลก ให้เดินทาง”เข้าประเทศไทย” ถึง 93 ประเทศ เพราะที่ผ่านมา 10 เดือน ที่”รัฐบาล” เข้ามาบริหารประเทศ เปิดให้มี”ฟรีวีซ่า” ไปแล้วหลายประเทศ แต่จำนวน”นักท่องเที่ยว” และ”เม็ดเงิน” ที่มากับการท่องเที่ยว ก็ยังไม่”เข้าเป้า” ประเด็น”ฟรีวีซ่า” ทางหนึ่งเป็นการ”กระตุ้นเศรษฐกิจ” โดยอาศัย”การท่องเที่ยว” เพื่อหา”เม็ดเงิน” เข้าประเทศในยามที่”เศรษฐกิจ”ของไทย”ชักหน้าไม่ถึงหลัง” นั้นคือมองใน”ส่วนดี” แต่อีกประเด็นที่ต้อง”สังวรณ์”และ”พึงระวัง” รวมทั้งหาทาง”ป้องกัน”และ”รับมือ” คือการเปิดโอกาสให้กลุ่ม”อาชญากรข้ามชาติ” และผู้ที่”ฉวยโอกาส” เดินทางเข้า”ประเทศไทย” ด้วยจุดประสงค์อย่างอื่นๆ ที่เป็น”ภัยความมั่นคง” เป็น”ภัยเศรษฐกิจ” เพราะวันนี้”ประเทศไทย” คือ”แดนสวรรค์” ของ”คนร้าย” ของ”อาชญากร” ของคน”ว่างงาน” จาก”ต่างประเทศ” ที่เข้ามาใช้”ประเทศไทย” ในการ”ก่ออาชญากรรม”แม้แต่ 6 ศพ” ของ”ชาวเวียดนาม” ที่มา”ฆ่ากันตาย” กลางโรงแรม”กลางกรุง” ก็เป็นการ “เลือก” ประเทศไทย” ในการ”ก่อเหตุ” และอีก”มากมายหลายคดี” ที่ “คนต่างชาติ” เข้ามาใช้”พื้นที่ของประเทศไทย” ในการ”ก่อเหตุ” ซึ่งหาก”รับมือไม่ได้” และ”ป้องกันไม่ดี” จะเป็นการ”ทำลายการท่องเที่ยว” ที่”เสียมากกว่าได้” ก็เป็นได้ นี้ไม่ใช่”มองโลกในแง่ร้าย” แต่เตือนกันด้วยความ”หวังดี”…..
@อีกเรื่องที่เป็นเหมือน”โซ่ตรวน” ที่”คล้องคอ”ประเทศไทย และคนไทย คือเรื่อง”น้ำมันแพง.ค่าไฟแพง,สินค้าแพง” แต่”ค่าแรงถูก” 10 เดือน ผ่านไปแล้ว สำหรับ”รัฐบาลผสม” ที่มี”เพื่อไทย”เป็น”แกนนำ” แต่แนวทางในการ”แก้ปัญหา” ยังคง”มะงุมมะงาหรา” หา”ประตูออก”ไม่ได้ เมื่อ”น้ำมันดีเซล” ลิตรละ 34 บาท เบนซิน” 47 บาท” ภาคการผลิต ภาคการขนส่ง ก็ต้อง”ขึ้นราคาสินค้า” และการ”ขึ้นราคา”ก็บวกในสินค้าที่”ผลิต” และในค่าขนส่ง ดังนั้น” สินค้า” จึง”ขยับ” ขึ้นตามราคาของ”น้ำมัน” ตลอดเวลา คนที่”รับกรรม” ต้อง”แบบภาระ” คือ”ประชาชน” ที่กลายเป็นผู้ที่”ผอมแห้งแรงน้อย”ลงทุกวัน เมื่อ”เงินในกระเป๋า”ไม่มี “กำลังซื้อจึงหดหาย” สิ่งที่ตามมาคือ”ร้านค้าทยอยปิดตัว” ร้านอาหาร เจ๊งกันเป็นแถว เดินไปทางซ้ายเจอคำว่า”เซ้งร้าน” เดินไปทางขวาเจอคำว่า”ให้เช่า” แม้แต่”ร้านค้ารถเข็น” และคนขายของ”แบกะดิน” คนขาย”ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้” ก็ หมดอาชีพ อยากให้ “เศรษฐา ทวีสิน” และ”ครม.เศรษฐกิจ” ลงพื้นที่แบบ”เงียบๆ” เพื่อที่จะได้”สัมผัสข้อเท็จจริง” ไม่ใช่การลงพื้นที่แบบ”อึกทึกคึกโครม” ที่เป็นการ”สร้างฉากสร้างภาพ” ทาง”การเมือง” เพราะที่ท่านเห็นเป็น”ของปลอม”……
@เรื่องการ”แพร่ระบาด”ของ”ปลาหมอคางดำ” จากเรื่องที่คิดว่า”เล็กๆ” วันนี้กลายเป็นเรื่อง”ระดับประเทศ” ไปแล้ว เป็นเรื่องของ”ภัยแทรกซ้อน” ที่อาจจะทำให้”รัฐบาลคางเหลือง”จากเรื่องของ”ปลาหมอคางดำ” แน่นอนไม่ใช่”ความผิด” ของ”รัฐบาลชุดนี้” เพราะการ”นำเข้า”ปลาหมอคางดำ” เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่”กรมประมง”ก็ต้อง”รับผิดชอบ” ที่ไม่ได้”ควบคุม” บริษัทที่”นำเข้า” ซึ่งมีเพียง”บริษัทเดียว” ดังนั้นการที่”ปลาหมอคางดำ” หลุดลงในแหล่งน้ำธรรมชาติ” และมีการ”แพร่พันธุ์” ไปทั่วประเทศจาก”น้ำท่วม” ที่เกิดขึ้นทุกปี “บริษัทที่นำเข้า” ต้อง”รับผิดชอบ” เพราะในการ”ทำลายปลาหมอคางดำ” ไม่”รอบคอบรัดกุม” จะทำ”ไขสือปฏิเสธ” ความรับผิดชอบต่อ”หายนะ” ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ก็อยู่ที่”รัฐบาล” จะดำเนินการอย่างไร เพราะ”เจ้าสัว” รายนี้ไม่ธรรมดา…..ส่วน กรมประมง ที่สังกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ต้อง”คิดอ่าน” หาวิธีในในการแก้ปัญหาที่”วิกฤติ” ในครั้งนี้ให้”รอบคอบ” และ”รวดเร็ว” แค่การ”ปล่อยปลากะพงขาว” ลงไปเพื่อจัดการกับ”ปลาหมอคางดำ” ไม่ใช่”ทางออก” ที่”ถูกต้อง” เพราะ”ปลากะพงขาว” อยู่ใน”น้ำนิ่ง” และ”น้ำเน่า”ไม่ได้” ส่วน”ปลาหมอคางดำ” อยู่ได้ และ”เจริญพันธุ์” อย่างรวดเร็ว เกิน”ขีดความสามารถ”ของ”ปลากะพงขาว” ที่จะ”จับตาย” ปลาหมอคางดำ ที่ สำคัญ “ปลากะพงขาว” ที่นำไปปล่อยใน”แม่น้ำ ลำคลอง” ยังถูก”ชาวบ้านทอดแห” นำขึ้นมาเป็น”อาหาร” อีกต่างหาก…..
@ที่ จ.สงขลา วันนี้”ปลาหมอคางดำ” ถูกพบใน”ทะเลสาบสงขลา” แล้ว และยังพบอีกว่า”ปลาหมอคางดำ” เจริญเติบโตได้ดี และชอบที่จะอยู่ใน”น้ำกร่อย”อย่าง”ทะเลสาบสงขลา” นี้คืองานหนักของ”เจริญ โอมณี” ประมงจังหวัดสงขลา ที่ต้อง”คิดอ่าน” เพื่อ”จัดการ”กับ”ปัญหา” ที่เกิดขึ้น เพราะ”ทะเลสาบสงขลา” เป็น”แหล่งอาหาร” เป็นที่”ทำมาหากิน” ของ”ชาวประมง” ที่อยู่ รายรอบของพื้นที่ “ทะเลสาบ” แห่งนี้ และ นี้คือความ”กังวล” ของคนในพื้นที่……ที่ สำคัญ อีกไม่กี่เดือน ก็จะเป็น”หน้าฝน”ของ”ภาคใต้” ซึ่งจะเป็น”ฤดูกาล” ที่จะมี”น้ำท่วม” และ”น้ำหลาก” โดยเฉพาะในพื้นที่”คาบสมุทรสทิงพระ” อ.ระโนด,กระแสสินธุ์,สทิงพระ ,สิงหนคร” ถ้ายังแก้ปัญหา”ปลาหมอคางดำ”ไม่ได้” แม่ปลา ,ลูกปลา,ไข่ปลา” ก็จะถูก”กระแสน้ำ” พัดพาไปยังพื้นที่ต่างๆ น่าจะเป็นการ”แพร่พันธุ์” ครั้งใหญ่ในภาคใต้ของ”ปลาหมอคางดำ” ที่ต้องทำให้”เกษตรกร” ผู้มีอาชีพ” เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา” ประสบกับ”หายนะ”ครั้งใหญ่ที่ยิ่งกว่า”คางเหลือ” แน่นอน……
@แม้ว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก”องค์กรกาชาดระหว่างประเทศ “ หรือ” ไอซีอาร์ซี” ที่มีการ”ปิดสำนักงาน”ที่ “หาดใหญ่” จ.สงขลา หลังจากที่”ถอยร่น” มาจาก”ปัตตานี” เกือบ 2 ปี โดยอ้างว่า”สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายอแดนภาคใต้”ดีขึ้น มีการ”บังคับใช้กฎหมาย” มากขึ้น”และภารกิจไม่คุ้มกับงบประมาณ” แต่ก็อย่าเพิ่ง”เชื่อใจ” องค์กรจาก”ประเทศตะวันตก” เหล่านี้ เพราะถึงจะไม่มี”สำนักงาน” ก็อาจจะส่ง “เจ้าหน้าที่” มา”ปฏิบัติการ” ในสิ่งที่”เขาต้องการ” ได้ตลอดเวลา ….. และถึงแม้จะไม่มี”ไอซีอาร์ซี” คอย”กวนหมวน” อยู่ในพื้นที่ของ”สามจังหัดชายแดนภาคใต้” แต่ก็ยังมีอีกหลายองค์กรจาก”ชาติตะวันตก” และ”สหภาพยุโรป” ที่ยังมี”หน่วยงาน” อยู่ในพื้นที่ของ “สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ในการ”เชื่อมกับ”ภาคประชาสังคม” เพื่อทำ”กิจกรรม” ที่องค์กรเหล่านี้ต้องการซึ่งมีหลาย”กิจกรรม” ที่มีลักษณะ”หมิ่นเหม่” ต่อ”ความมั่นคง” และมีความพยายามที่จะ”แทรกแซง” สถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่อย่างไรก็ตามการ”ถอยร่น” ของ”ไอซีอาร์ซี” ก็เป็นผลดีกับ”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ส่วนคนที่”เสียประโยชน์” ก็น่าจะเป็น”นายพลผู้เฒ่า” ที่เป็นที่”ปรึกษา” และเป็น”ล็อบบี้ยิตส์” ให้กับ”ไอซีอาร์ซี” เงินเดือนๆละ 200,000 หดหาย……
@สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ วันนี้ยังคงมองไม่เห็น”ทิศทาง” ที่จะเดินไปสู่ความสงบ เห็นได้จากการ”ต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน” ในครั้งนี้ มีการอ้างถึงความต้องการของคนในพื้นที่ถึง ร้อยละ 65 ว่าต้องการให้มีการใช้ “พรก. ฉุกเฉิน” ต่อไป และสิ่งที่ตามมา ถ้า “สถานการณ์” ยัง”รุนแรง” โดยมีทั้งการ”ก่อเหตุ” จาก” กองกำลังติดอาวุธ”ของ”บีอาร์เอ็น” และการ”ปิดล้อมตรวจค้น” ของ” เจ้าหน้าที่สามฝ่าย” อย่างที่เป็นอยู่อาจจะมี”จุดตรวจ,ป้อมยาม” เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่มีการ”ปรับลด”ลงไปแล้วจำนวนหนึ่ง เพราะเข้าใจว่าเหตุการณ์ใน “จังหวัดชายแดนภาคใต้” ดีขึ้นแล้ว เรื่องนี้” พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค” แม่ทัพภาคที่ 4 / ผบก.กอ.รมน.ภาค 4 “ ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะการเพิ่มขึ้นของ”จุดตรวจ จุดสกัด” ด้านหนึ่งเป็นการ”เพิ่มความปลอดภัย”ของประชาชน แต่อีกด้านหนึ่งหมายถึงความ”ล้มเหลว” ของ”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ใน”ภารกิจ”ของการดับ”ไฟใต้” ที่ ผ่านมาแล้ว 20 ปี ใช้”งบประมาณ”ไปแล้วไม่น้อยกว่า 600,000 ล้าน แต่”ไฟใต้” ยัง”ปะทะเชื้อ”อยู่ทุกวัน……
@ที่เห็นชัดถึงความ”ล้มเหลว” อีกด้านหนึ่งของ” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” คือเรื่องการ”ป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ” เช่น”ป่าไม้” ในพื้นที่ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ “ทหาร”,และ” หน่วยอนุรักษ์ป่า” ของ จ.ยะลา ได้ ตรวจพบการทำลายป่าสงวนแห่งชาย “เทือกเขาสันกาลาคีรี” แนวชายแดน” ไทย-มาเลเซีย” บริเวณ หลักเขตที่ 45 A บ้านคลองปุด หมู่ 7 ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา มีการ “ตัดไม้ทำลายป่า” มีการ”ขายไม้” และเอาที่ดินมาทำ”สวนทุเรียน” จำนวน 2 แปลง เนื้อที่กว่า 7 ไร่ และ เหมือนเดิมคือ”ไม่มีผู้ต้องหา”.ส่วนที่ จ.สงขลา สำนักป้องกันป่า สข 6 อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ก็ ตรวจพบ การ”ตัดไม้ทำลายป่า” ใน” บ้านน้ำเชี่ยว” ต.เขาแดง และ”ป่าควนเจดีย์” ซึ่งเป็น”ต้นน้ำคลองเทพา”พบมีการ”ทำลายป่าต้นน้ำ”ไปถึง 12 ไร่ จากกากติดตามเส้นทางในการนำไม้ลงจาก”เทือกเขา” พบว่าไม้ท่อนจำนวนมาก ถูกนำไปขายให้กับ”ลานไม้ 5 แห่ง ในพื้นที่ของ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และ”ลานไม้” ทั้ง 5 แห่ง ก็พบว่า นำไม้ไปขายให้กับ”โรงไฟฟ้าชีวะมวล” ในพื้นที่……
@ก็ เคยพูดหลายครั้ง เรื่อง”เชื้อเพลิง” สำหรับ”โรงไฟฟ้าชีวะมวล” จำนวน 15 โรง ในพื้นที่ของ ของ จ.ยะลา ปัตตานี” และ”4 อำเภอของ จ.สงขลา ถึงปัญหาของ”เชื้อเพลิง” เพราะ รู้ว่า วันนี้”สวนยางแก่” ไม่มีให้”โค่น” แล้ว “ไม้ยางพารา” ที่จะใช้เป็น”เชื้อเพลิง” ให้”โรงไฟฟ้า” จึง”ขาดแคลน” ส่วนการ”ส่งเสริม” ให้”เกษตรกร” ในพื้นที่”ปลูกไผ่”ซึ่งเป็น”พืชเศรษฐกิจ” เพื่อขายให้กับ”โรงงานไฟฟ้า” ที่เป็นโครงการของ”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เหมือนกับการ”ส่งเสริม” ให้มีการ”ปลูกหญ้าเนเปียร์” ก็ไม่มี”เกษตรกร” ให้ความสนใจ ดังนั้น “โรงไฟฟ้าชีวะมวล” จึง”ขาดแคลน” เชื้อเพลิง ที่ใช้ในการ”ผลิตกระแสไฟฟ้า” สุดท้ายจึงมี”นายทุน”สั่งการให้”มอดไม้” บุกรุก”ป่าสงวนแห่งชาติ” เพื่อ”ตัดไม้ทำลายป่า” นำไม้ไปขายให้กับ”โรงงานไฟฟ้าชีวะมวล” อย่างที่เกิดขึ้นแล้วในขณะนี้ และ ปัญหานี้จะแก้อย่างไร ใครจะเป็นคนแก้ แต่เท่าที่รู้จาก”คนวงใน” มี “โรงงานไฟฟ้าชีวะมวล” บางโรง ในพื้นที่ นำเอา”ถ่านหิน” มาเป็น”เชื้อเพลิง” เป็นการแก้ปัญหาการ”ขาดแคลน” ไม้ยางพารา กันแล้ว ถามว่าการใช้”ถ่านหิน” เป็น”เชื้อเพลิง” ผิด”ข้อตกลง” หรือไม่ และเป็น”มลภาวะ” หรือไม่ ทั้งหมดคือ”ปัญหา”ของการ”พัฒนา” ที่ขาด”ทิศทาง” ที่”ถูกต้อง” ที่เกิดขึ้นใน”จังหวัดชายแดนภาคใต้”……
@เช่นเดียวกับโครงการ”โคบาลแดนใต้” ที่เป็นอีกหนึ่งโครงการของ”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” ( ศอ.บต.) ที่อยู่ในการ”กำกับดูแล” ของ”กรมปศุสัตว์” ซึ่งเป็น โครงการ”ที่ดีมาก” ถ้ามีการ”ควบคุม” ให้เป็นไปตาม”เงื่อนไข” และ”ข้อตกลง” รวมทั้ง”เกษตรกร” ที่เข้าร่วมโครงการ มีความรู้ ความเข้าใจ ในการ”เลี้ยงโคพันธุ์พื้นเมือง” แต่ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือขาดการ”ควบคุม” ให้เป็นไปตาม”เงื่อนไข” ของ”สัญญา” ที่ ผลสุดท้าย โครงการ”หยุดชะงัก” และมีการ”ตรวจสอบ” ถึงความ”ผิดพลาด” ที่เกิดขึ้น …..และจากการตรวจสอบ ทั้งของ”ศอ.บต. ทั้งของ”กรมปศุสัตว์” และของ”ปปช.” ไม่พบการ”ทุจริต” แต่พบถึงความ”หละหลวม” และความ”ไม่พร้อม” ของ”เกษตรกร” ผู้เข้าร่วมโครงการ ที่เห็นแต่”ส่วนดี” แต่ไม่เห็นส่วนของ”ปัญหา” ที่ตามมาหลังจาก”รับแม่พันธุ์โค”มาแล้ว มีการ “ร้องเรียน” มีการขอ”ยกเลิก” และขอ”จัดซื้อแม่พันธุ์” เอง ที่อาจจะกลายเป็นปัญหาใน”อนาคต” เพราะเลี้ยงแล้ว “ลูกที่ตกมา” ไม่เป็นไปตามที่ต้องการของตลาด…..วันนี้มี”เกษตรกร”ผู้เลี้ยง ที่ จ.ปัตตานี 2 กลุ่ม ที่ไปซื้อ” แม่พันธุ์โคอเมริกันบาร์มันห์” มาเป็นแม่พันธุ์ แทนที่จะเป็นจะ”โคพื้นเมือง” ซึ่งเป็นการ”ไม่ตรงปก” และจะมีปัญหาในอนาคต เรื่องนี้ “กรมปศุสัตว์” ต้องเร่งรัดให้”ปศุสัตว์จังหวัด” เข้าตรวจสอบ และ ชี้แจงให้ “เกษตรกร” รับทราบ ถึง”ผลดี ผลเสีย” ที่จะตามมา อย่ามองแค่ “ซื้อถูก” และได้”โคตัวโต” มาเลี้ยง และนี้คือความไม่เข้าใจและ”มักง่าย” ของ”เกษตรกร” ที่จะสร้าง”ผลเสีย” ให้เกิดขึ้น และในส่วนของ”ศอ.บต.” เอง ก็ต้องทำหน้าที่ ติดตามดูแล เพราะโครงการ”โคบาลแดนใต้” เป็น “นโยบาย” ที่มาจาก” ศอ.บต.”โดยตรง แม้ว่าผู้ที่”รับผิดชอบ” จะเป็น” กรมปศุสัตว์ “ ก็ตาม โดยเฉพาะที่ จ.สตูล ที่”กลุ่มผู้เลี้ยง” มีปัญหา เพราะมีการ”สร้างคอกรวม” อยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นที่”ทำกินของชาวบ้าน” แต่ไม่มี”เอกสารสิทธิ์” และไม่ได้รับความช่วยเหลือจาก”ปศุสัตว์จังหวัด” ในการ”แก้ปัญหา”ที่เกิดขึ้น …..
@เพิ่งตื่น “รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เสนาบดีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพิ่งรับรู้ถึงปัญหา”ราคายางพารา” ที่ราคา”รูดทะราด” อย่างผิดสังเกต จาก “กิโลกรัมละ เกือบ 90 บาท แต่ถูก”กดราคา”ลงมาทุกวัน วันละบาท 2 บาท จาก”พ่อค้าคนกลาง” วันนี้เหลืออยู่ที่ กิโลกรัมละ 50 กว่าบาท ในกรณีที่ “เกษตรกรขายน้ำยางสด” ข่าวว่า มีการส่ง”มือปราบจุจริต” ลงพื้นที่ เพื่อ ลุยตรวจสอบ ตลาดซื้อ-ขาย ยางพารา โดยเน้น บริษัทที่ทำการ”กดราคา” ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ก็จะคอยดู”ฝีมือ” เพราะที่ผ่านมา”ข้าราชการประจำ” ไม่เคยเอาชนะ” พ่อค้าคนกลาง”ได้แม้แต่ครั้งเดียว เห็นแต่ สุดท้าย คือไป”ยกมือไหว้” เพื่อ”ขอร้อง” พ่อค้า ให้ช่วยเหลือ โดยการ”เพิ่มราคารับซื้อให้สูงขึ้น” เป็นการ” แก้ผ้าเอาหน้ารอด” เพื่อสร้าง”ผลงานการเมือง” ทั้งสิ้น……
@เดือดร้อนกันไปทุก”หย่อมย่าน” ซึ่งก็ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจาก”ความจน” หรือเกิดจาก”ผู้ติดยาเสพติด” แต่วันนี้ “เกษตรกร” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ “ปลูกมะพร้าวปลูกปาล์มน้ำมัน” ปลูกกล้วย ปลูกสะตอ” และ อื่นๆ ต่าง ได้รับ”ผลกระทบ” จากการที่”พืชผลทางการเกษตร” ถูก “ลักขโมย” ทั้ง “ลูกอ่อน ลูกแก่” จนสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ที่ จ.สงขลา “สมนึก พรหมเขียว” ผวจ. และ”พล.ต.ต.เชาวลิตร เลี้ยงสุพงษ์” ผบก.ภ.จว. สงขลา มีการ ประชุม นายอำเภอ และ ผู้กำกับ” เพื่อให้ “ร่วมมือกัน” ป้องกันการลักขโมย พืชผลทางการเกษตรไปแล้ว ส่วนจะได้ผลแค่ไหน ต้องติดตาม แต่ในจังหวัดอื่นๆ ยังไม่มีการ”สั่งการ” ให้มีการ”ป้องกัน”และการ”จับกุม” อย่างจริงจัง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สร้างความ”ทุกข์ความเดือดร้อน” ให้กับคนที่เป็น”เกษตรกร” ที่ส่วนใหญ่เป็น”คนจน” สมควรที่ “พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมขวัญ” ผบช.ภ.9 ต้อง “สั่งการ” ให้ ตำรวจในทุกพื้นที่ ทุก สภ. ต้องตั้งชุด”ปฏิบัติการ” ตรวจสอบ จับกุม “มิจฉาชีพ” ให้ได้ และต้อง”สอบสวน”ว่าเป็นคนที่”ติดยาเสพติด” หรือเป็นคน”ว่างงาน” หรือ”ตกงาน” จนต้องยึดอาชีพ”ลักขโมย” พืชผลทางการเกษตร หรือไม่ อย่างไร เพื่อการแก้ปัญหาจะได้ถูกต้อง ที่ สำคัญ “พ่อค้า” ที่เป็น”คนกลาง” ในการ”รับซื้อของโจร” ต้อง ลงโทษ ให้”เข็ดหลาบ”……
@ข่าวว่าเรื่อง”เรือน้ำมันเถื่อน” ที่ถูก”โจรกรรม”ไปจาก”ท่าเรือตำรวจน้ำที่สัตหีบ” และถูกติดตาม”จับกุม”ได้ใน”อ่าวไทย” ในขณะที่”กำลังหลบหนี” และเรือของกลางถูกนำเข้าฝั่ง เก็บไว้ที่ ท่าเรือ “กองกำกับตำรวจน้ำสงขลา” มีความคืบหน้า โดย “พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรวง” จเรตำรวจแห่งชาติ แถลงว่ามีการ”ออกหมายจับ” ตัวการใหญ่คือ” เสี่ยโจ้” หรือ” สหชัย เจียรเสริมสิน” นายทุน”ค้าน้ำมันกลางทะเล” ที่เป็น”คนดัง” ใน”ภาคใต้” และเป็น”ขวัญใจ” ของคนใน”เครื่องแบบ” หลายหน่วยงาน ที่มีหน้าที่ในการ”ป้องกันปราบปราม”น้ำมันเถื่อน” เพราะ”เสี่ยโจ้” เป็นนายทุนที่”มือหนัก” และ”ใจถึง”……แต่ไม่ต้องกลัวว่าการ”จับเสี่ยโจ้” จะทำให้”การค้าน้ำมันเถื่อนในอ่าวไทย” จะถูกทำให้หมดไป เพราะยังมี”นายทุน” คนอื่นๆ และ “ลูกน้อง” ที่เป็น” มือซ้าย มือขาว” ของ”เสี่ยโจ้” ยัง อยู่กัน”ครบครัน” หลังถูกออก”หมายจับ” เสี่ยโจ้” คงจะเก็บตัวเงียบสักพัก ก็เหมือนกับทุกครั้งที่”เสี่ยโจ้” มีเรื่อง เช่นการ”หนีศาล” ที่ จ.ปัตตานี การหนีคดี”ฟอกเงิน” ที่ สงขลา ซึ่งมี”หมายจับคาอยู่” ก็ไม่เห็นว่า”เสี่ยโจ้” จะถูกจับ ก็ขนาดมานั่ง”กินข้าวต้มกุ๋ย” ที่”ห้วยขวาง” ถูก”ตำรวจจับได้” ส่งมารับทราบข้อหาที่ สงขลา สุดท้าย”เสี่ยโจ้” ยัง”ล่องหน” ไปอย่างหน้าตาเฉย นี่คือ”อินทธิฤทธิ์” ของ”เสี่ยโจ้” ที่ครั้งนี้ก็ต้องติดตามว่า”หมายจับ” ของ”ตำรวจ” ที่มีต่อ”เสี่ยโจ้” จะสามารถนำตัว”เสี่ยโจ้” มา รับการ”ลงโทษ” หรือไม่ ที่สำคัญ วันนี้”เสี่ยโจ้” ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย และ”เสี่ยโจ้ ” ก็เป็นคน”สองสัญชาติ” ด้วย…..
@มาดูเรื่องของ”การเมือง” ในพื้นที่ภาคใต้ การ”ขับเคลื่อน” โครงการ”มหกรรมแก้หนี้”ของ” กระทรวงยุติธรรม”ที่มี”พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง “ เป็น”รัฐมนตรี” เพื่อช่วยเหลือ”ลูกหนี้ทั้งระบบ” ให้ได้มีโอกาสในการพบกับ”สถาบันการเงิน” ที่เป็น”เจ้าหนี้” โดยมีหน่วยงานของ”กระทรวงยุติธรรม” เป็น”คนกลาง” ซึ่งพบว่า”มหกรรมแก้หนี้” ที่จัดขึ้นที่ จ.สงขลา และที่ จ.ชุมพร” สร้างความ”ประทับใจ” ให้กับ”ลูกหนี้” เป็นอย่างยิ่ง” เป็น”ผลงาน”ของ”พรรคประชาชาติ” ที่เป็น”รูปธรรม” ที่”จับต้องได้…… เช่นเดียวกับ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ “รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ของพรรค”ภูมิใจไทย” ที่มี”ผลงานการแก้ปัญหาแรงงาน การผลิตคนเข้าสู่แรงงานคุณภาพ การควบคุมแรงงานต่างชาติ ให้อยู่ภายใต้”กฎหมาย” ส่วนในพื้นที่ของ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็มีการ”จับมือ” กับ”โรงเรียนเอกชนสอนศาสนา” เพื่อการ”พัฒนาการเรียนการสอน” ให้”สอดคล้อง”กับความต้องการของ “สถาบันการศึกษา” ในพื้นที่ เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุด……
@ส่วน”พรรคประชาธิปัตย์” ซึ่งเป็น”พรรคฝ่ายค้าน” วันนี้ยังคงทำตัว”เรื่อยๆมาเรียงๆ” เพราะการเป็น”พรรคฝ่ายค้าน” การลงพื้นที่ เพื่อทำ”กิจกรรมทางการเมือง” จึงไม่”หวือหวา “ เหมือนพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีทั้ง”งบประมาณ” และทั้ง”อำนาจ” อยู่ในมือ แต่ใน จ.สงขลา ก็เห็น”กิจกรรม” การ”ลงพื้นที่ พบปะประชาชน เพื่อแก้ปัญหาความ”เดือดร้อน”ของ สส.”น้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผล สส.เขต 6 และ”เดชอิศม์ ขาวทอง” หรือ”นายกชาย” สส เขต 5 และ “เลขาธิการพรรค” และ”เสี่ยถึก” สมยศ พลายด้วง” สส.เขต 3 ที่ยังมี”กิจกรรม” ทางการเมืองให้ปรากฏ……และอีกคนที่”เป็นข่าว” จากการ”อภิปราย” ใน “สภาผู้แทนราษฎร” คือ” สส.เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์” สรรเพชญ บุญญามณี” นักการเมืองอนาคตไกล ทายาทของ”นิพนธ์ บุญญามณี” อดีต “รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย” ล่าสุด “อภิปราย”เรื่องการ”ขูดรีด” ประชาชน”ด้วยการขึ้น”ค่าไฟฟ้า” ของ”รัฐบาล” ทำให้”ได้ใจ”ของ”ประชาชน” ทั้งประเทศ…..แต่เรื่องการ”ขึ้นค่าไฟฟ้า” ข่าวว่า” พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” เสนาบดีกระทรวงพลังงาน มีคำสั่ง ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ”ตรึงราคาเดิม”เอาไว้ก่อน เพราะไม่ต้องการให้”ประชาชน” แบกรับภาระค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยจะไป”แก้ปัญหา”ส่วนหนี้” ของ”การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ก็ต้องหา”ทางออก” ที่เหมาะสม นอกจากนั้น ยัง”เห็นข่าว” รัฐมนตรีพลังงาน ไป”เจรจา” กับ” รัฐมนตรีพลังงานของ”รัสเซีย” เพื่อที่ แนวทาง ซื้อน้ำมันราคาถูก เพื่อแก้ปัญหา”น้ำมันแพง” ที่”พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” ยังไม่สามารถ ดำเนินการกับ”กลุ่มโรงกลั่น” ทั้ง 5 โรงในประเทศ เพื่อทำให้มีการ”ปรับโครงสร้าง” เพื่อให้”น้ำมันมีราคาถูกลง ส่วนการ เจรจา เพื่อ”ซื้อนำมัน”จาก”รัสเซีย” จะ ทำได้ หรือไม่ ก็ต้อง ติดตามกันต่อไป เพราะเป็นเรื่องที่”ไม่ง่าย” แต่ก็เห็นถึงความ”ตั้งใจ” ในการแก้ปัญหา”น้ำมันแพง” ที่เกิดขึ้น…..
@สำหรับการเมืองท้องถิ่น วันนี้ต้อง”จับตา” ความเคลื่อนไหวของ”องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพราะมีการ”ลือกันสนั่นเมือง” ว่า”ไพเจน มากสุวรรณ์” นายก อบจ.สงขลา ตัดสินใจที่จะ”ลาออก” จาก”ตำแหน่ง” ในสิ้นเดือนนี้ เพื่อให้มีการ”เลือกตั้งใหม่” ก่อนหมดวาระ เหมือนกับที่ หลายๆจังหวัด ได้มีการ”ลาออก” และ”เลือกตั้ง” กันใหม่ ส่วน”ไพเจน “ จะลงรับสมัครเป็น”สมัยที่ 2 หรือไม่ ยังไม่มีคำตอบ แต่ที่แน่ๆ “การเมือง”ไม่ว่าจะเป็น”ระดับชาติ” หรือ”ท้องถิ่น” ไม่มีอะไรที่”แน่นอน” และยังไม่มี”มิตรแท้” และ”ศัตรูถาวร” คนที่”ขัดแย้งกัน” แบบ”ไม่เผาผี” วันที่”ผลประโยชน์”ลงตัว ก็กลับมา”จูบปาก กอดคอ” แถลงข่าว อยู่ในทีมเดียวกัน มีให้เห็นกันบ่อยๆ….. แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ
—————————————————————
ไชยยงค์ มณีพิลึก
แก้ปัญหาลูกหนี้. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ทีมงานยุติธรรม จ.นราธิวาส ตัวแทน ศอ.บต. ร่วมประชุมเพื่อบูรณาการ แก้ปัญหาลูกหนี้ กยศ. ณ ห้องประชุมที่ว่าการ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
อาสาฬหบูชา. พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมกิจกรรมเวียนเทียนเนื่องในวันอาสาฬหบูชา พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและบุคลากร เทศบาลนครหาดใหญ่ และประชาชน ณ พระพุทธมงคลมหาราช เขาคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
แห่ผ้าขึ้นธาตุ. อำพล พงศ์สุวรรณ ผวจ.ยะลา ประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย ฉลวย พงศ์สุวรรณ นายกเหล่ากาชาด จ.ยะลา นำส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน นักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่จังหวัดยะลาจำนวนมาก ร่วมแห่ผ้าขึ้นธาตุ วัดนิโรธสังฆาราม อ.เมือง จ.ยะลา
ทำบุญวันเกิด. นิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิด โดยมีสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนใต้ เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ ประธานฝ่ายสงฆ์ ขึ้นกล่าวสัมโมหนียกถา ให้พรเนื่องในวันคล้ายวันเกิด ขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติ ญาติสนิท มิตรสหาย และผู้บริหารท้องถิ่นทุกท่านที่มาร่วมอวยพร พร้อมนำความปรารถนาดี และให้กำลังใจ ซึ่งครอบครัวบุญญามณี
“ยี่สิบสี่ล้าน “ภก.สมโภชน์ หงษ์กิตติยานนท์ ประธานชมรมร้านขายยาแห่งประเทศไทย และคณะผู้ก่อตั้งชมรมฯ มอบเงิน 24.000.000 บาท มอบให้ ศ.นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ ประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ เพื่อสมทบทุนสร้างห้องพักผู้ป่วยวิกฤติ รพ.รามาธิบดีฯ โดยมี ศักดา อัศวกุล ภก.ประสิทธ์ วงษ์นิจศิล ดร.สุวัฒน์ เวชชาภินันท์ ภก.พงศ์รพี สุขเจริญเวช และคณะมาร่วมในพิธี ที่ รพ รามาธิบดี เมื่อวันที่ 16 กรกฏาคม 2567
มอบวัตถุมงคล. อำพล พงษ์สุวรรณ ผวจ.ยะลา มอบวัตถุมงคล หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดวัดช้างให้กับ กฤษ อุตตะเวทิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมี จิรวิทย์ แซ่เจ็ง ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนรวมด้วย
สำนึกรักบ้านเกิด. พ.ต.ท.วรรณรักษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. มอบหมาย นพ.สมหมาย บุญเลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.เป็นประธานเปิดกิจกรรมสร้างจิตสำนุกรักบ้านเกิด ณ ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)อ.เมือง จ.ยะลา
ถวายเทียน. ปราเมศ เห้งสวัสดิ์ นายอำเภอสทิงพระ จ.สงขลา ร่วมกับพุทธบริษัทใน อ.สทิงพระร่วมทำบุญ ตักบาตร ฟังธรรมเทศนา ถวายเทียนพรรษา ผ้าอาบน้ำฝน แก่พระสงฆ์ ณ วัดจะทิ้งพระ อ.จะทิ้งพระ จ.สงขลา
รับฟังความคิดเห็น. โดมเดช ขุนกลับ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อแดง คณะผู้บริหาร พร้อมด้วย ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สงขลา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน หมู่ที่ 1 – 4 และประชาชน ร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดผังเมือง จ.สงขลา ในพื้นที่ ต.บ่อแดง เพื่อให้มีการสร้างอาชีพ สร้างรายได้และส่งเสริมการท่องเที่ยว ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.บ่อแดง อ.สทิงพระ จ.สงขลา
ลงนาม. อธิปัตย์ ยินดี นายกสมาคมศูนย์รับสร้างบ้านภาคใต้ ร่วมกับ เธียรสิน สังข์วิสิทธิ์ ผอ.ฝ่ายสินเชื่อธนาคารยูโอบีได้ร่วมลง MOU เพื่อการปล่อยสินเชื่อเกี่ยวโครงการสร้างบ้าน ณ โรงแรมซิกเนเจอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
เปิดอบรม. ณ ห้องประชุมญาตา สปา แอนด์ รีสอร์ท ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง วิโรจน์ เยาว์ดำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง เป็นประธานพิธีเปิดการอบรม ตาม โครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ของผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ พนักงาน และลูกจ้าง ในปกครอง จำนวน 40 คน
มอบโฉนด . เพื่อการเกษตร ที่ห้องศรีตรัง วิทยาลัยเทคนิคตรัง ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง สกุล ดำรงเกียรติกุล รอง ผวจ.ตรัง เป็นประธานมอบโฉนดเพื่อการเกษตร จำนวน 72,000 ฉบับ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ปิดกิจกรรม. ชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย และคณะ เดินทางลงพื้นที่ เปิดกิจกรรมกวนอาซูรอสัมพันธ์ ต้อนรับศักราชใหม่อิสลาม 1446 ฮ.ศ. และพบปะมวลชนในพื้นที่อำเภอรือเสาะอย่างอบอุ่น โดยมี อามีร ซาริคาน รอง นายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ จ.นราธิวาส และ คณะ ให้การต้อนรับ ณ สวนกาญจนาภิเษก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
ระดมทุน. ซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ยะลา เขต 2 พรรคประชาชาติ พร้อมด้วย ชะบา มะทา และ ฟาฮัด มะทา ผู้ช่วยดำเนินงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ซูการ์โน มะทา) ลงพื้นที่ ร่วมงานระดมทุนการกุศลก่อสร้างอาคารมัสยิด พร้อมกับคณะของ ฯพณฯวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา โดยมี สส.สุไลมาน บือแนปีแน สส.อับดุลอายี สาแม็ง ร่วมงานในครั้งนี้ฯ ณ มัสยิด(บ้านบือดอง) หมู่ที่ 4 ต.เนินงาม อ.รามัน จ.ยะลา
ส่งเสริมสุขภาพ. ที่โรงเรียนเทศบาลห้วยยอดวิทยา ธวัชชัย วรพงศ์พัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลห้วยยอด จ.ตรัง มอบหมายให้กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมจัดโครงการส่งเสริมสุขภาพอนามัยเด็กวัยเรียนกิจกรรมอบรมเชิงบูรณาการวัยรุ่นไม่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรแก่กลุ่มเป้าหมายนักเรียนโรงเรียนเทศบาลห้วยยอดวิทยา เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแลสุขภาพ
ตาดีกาสัมพันธ์. มุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา ลงพื้นที่ เปิดมหกรรมตาดีกาสัมพันธ์ อ ธารโต จังหวัดยะลา ประจำปี 2567 โดยมี ดร.ระเด่น สะมะแอ รอง นายก อบจ.ยะลา เลขานุการนายก อบจ.ยะลา ผู้อำนวยการกองการศึกษาฯ ผู้นำท้องท้องถิ่น และพี่น้องประชาชน ในพื้นที่เข้าร่วม ซึ่งทาง อบจ.ยะลา สนับสนุนงบประมาณให้กับชมรมตาดีกาทั้ง 8 อำเภอ ให้ดำเนินการจัดมหกรรมตาดีกาสัมพันธ์ เพื่อคัดเลือกเด็กและเยาวชนในศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด ณ สนามกีฬาศูนย์อิสลามศึกษา อ.ธารโต จ.ยะลา
มอบเงินเยียวยา. ว่าที่ รต.ตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส แถลงความคืบหน้าและมอบเงินเยียวยากองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสพภัยสาธารณภัย จำนวน 4,535.949. บาท ณ อบต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส