ในเรื่องนี้“ทีมข่าวอาชญากรรม”มีโอกาสสอบถาม พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. เผยแง่มุมน่าสนใจต่อประเด็นป้ายโฆษณาซื้อขายสัญชาติ/หนังสือเดินทางว่า กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ามีคนต่างชาติเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรมากขึ้น และมีคนต่างชาติบางส่วนที่ต้องการถือหนังสือเดินทางประเทศอื่นเพิ่มเติม เพื่อกระทำบางอย่าง ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดี จึงเป็นช่องทางให้เกิดธุรกิจประเภทจัดหาหนังสือเดินทางลักษณะนี้ขึ้น
รอง ผบช.สตม. กล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยมีรายงานว่าพบการกระทำลักษณะดังกล่าว เพราะเดิมการกระทำในลักษณะนี้มักเป็นเป็นการลักลอบ หรือรู้จักกันเฉพาะกลุ่มที่ต้องการถือหนังสือเดินทางเพิ่มเติม ไม่ได้กระทำโจ่งแจ้ง และต้องยอมรับว่าในบางประเทศสามารถซื้อขายสัญชาติได้จริง
ทั้งนี้ มาจากเหตุที่ต้องการนักลงทุนเข้าไปลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศ ซึ่งจะมีข้อกำหนดเงื่อนไขของแต่ละประเทศเอาไว้ อาทิ หากมีจำนวนเงินลงทุนตามหลักเกณฑ์ก็จะได้รับสัญชาติ หรือไม่เคยกระทำผิดกฎหมายในประเทศนั้นๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากถามถึงข้อกังวลจากกรณีที่เกิดขึ้น ส่วนตัวมองว่าไม่น่ากังวล เพราะในประเทศไทยไม่สามารถซื้อขายสัญชาติได้ กรณีดังกล่าวเป็นการซื้อขายสัญชาติของประเทศอื่น ความผิดที่รัฐอื่นเป็นผู้เสียหาย ซึ่งรัฐอื่นมีหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบและคัดกรองบุคคลก่อนที่จะให้สัญชาติแก่บุคคลนั้นๆ
สำหรับการถือครองมากกว่าหนึ่งสัญชาติของคนต่างชาติ รอง ผบช.สตม. ระบุ จะสังเกตได้ว่ามีอยู่ 2 ประเด็น คือ เป็นกลุ่มที่ประสงค์จะโยกย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่มีสภาพแวดล้อม หรือสภาพเศรษฐกิจดีกว่าประเทศที่ตนเองถือสัญชาติเดิมอยู่ โดยเฉพาะประเทศแถบยุโรป รวมทั้งต้องการเข้าไปลงทุนในประเทศนั้นๆ เพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ
อีกประเด็นเป็นกลุ่มที่มีลักษณะกระทำความผิดในประเทศที่ตนเองถือสัญชาติอยู่ เพื่อเป็นการหลบหนี หลบเลี่ยงช่องทางการส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยจะใช้ข้ออ้างว่าตนถือสัญชาติที่ร้องขอให้มีการส่งตัวเมื่อถูกจับกุม
รอง ผบช.สตม. กล่าวว่า รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเน้นย้ำสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเรื่องการคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพบเห็นการใช้หนังสือเดินทางปลอมเข้าประเทศไทยอยู่เป็นระยะ โดยพบจากหลายประเทศ อาทิ
กลุ่มประเทศแถบเอเชียใต้ จะปลอมหนังสือเดินทางโดยการแก้ไขหน้าข้อมูลบุคคล , เอเชียตะวันออก อาทิ จีนใช้การปลอม VOA (VISA ON ARRIVAL) หรือใช้หนังสือเดินทางผู้อื่น ส่วนไต้หวันใช้การปลอมหนังสือเดินทาง และหากเป็นแถบตะวันออกกลาง โดยเฉพาะซีเรีย จะใช้การปลอมหนังสือเดินทางประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น
สำหรับการเดินทางเข้า-ออก และโดยปกติเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสามารถตรวจสอบหนังสือหนังสือเดินทางปลอมของแต่ละประเทศได้ โดยวิธีพิสูจน์ทราบทางนิติวิทยาศาสตร์ ใช้เครื่องมือตรวจสอบหาความผิดปกติในหนังสือเดินทาง
ส่วนแนวโน้มภายหลังรัฐบาลมีมาตรการฟรีวีซ่าจะกระทบกับการเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างไรบ้างหรือไม่นั้น รอง ผบช.สตม. กล่าวว่า กรณีฟรีวีซ่าเป็นนโยบายรัฐบาลเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ดังนั้น จะมีการเดินทางเข้าประเทศมากขึ้นแน่นอน ในส่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตระหนักในเรื่องดีจึงมีแผนเพิ่มอัตราที่รับเข้าใหม่มาปฏิบัติหน้าที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อรองรับกรณีผู้โดยสารหน้าแน่น ตลอดจนกำหนดมาตรการคัดกรองให้ครอบคลุมและรวบรัดที่สุดในเวลาที่เหมาะสม กรณีพบบุคคลต้องสงสีย จะแยกออกมาสอบสวน เพื่อไม่ให้เดือดร้อนบุคคลอื่นที่เข้าช่องทาง
“กลุ่มบุคคลที่อาศัยช่องทางฟรีวีซ่าเข้ามากระทำความผิด หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ เชื่อทุกประเทศหากมีคนเดินทางเข้ามาในประเทศก็จะมีคนประเภทนี้แอบแฝงมาด้วยแน่นอน”
รอง ผบช.สตม. ทิ้งท้ายว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีการถอดบทเรียนจากการจับกุมในหลายคดี เพื่อทำเป็น SOP ในการปฎิบัติงาน และกำชับเจ้าหน้าที่หน้าด่าน โดยเฉพาะสนามบินให้ดำเนินการกรณีต่างๆตามนโยบายรัฐบาล เพื่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของประเทศไทย.
ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน
