แกเรธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่งเรียบร้อยแล้วนะครับ หลังพา สิงโตคำราม อกหักซ้ำสองจากการพ่าย สเปน หวุดหวิด 1-2 ในรอบชิงดำ ยูโร 2024 หลังจากที่เคยแพ้ อิตาลี ในการดวลจุดโทษมาแล้วในศึกยูโร 2020 นัดชิงชนะเลิศ

            เซาธ์เกต กุมบังเหียนทีมชาติอังกฤษมาตั้งแต่ปี 2016 หรือ นานถึง 8 ปีเข้าให้แล้ว โดยพาทีมไปลุยฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 สมัย และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปอีก 2 สมัย ซึ่งถือว่า สมควรแก่เวลาหากเขาจะอำลาเก้าอี้นายใหญ่ ทรี ไลออนส์

            หากว่ากันที่ผลงานต้องยอมรับว่า น่าจะมีเพียง เซอร์ อัลฟ์ แรมซีย์ ที่พา อังกฤษ เถลิงบัลลังก์แชมป์ฟุตบอลโลก 1966 เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ทำผลงานได้ดีกว่า เซาธ์เกต ที่สามารถพา อังกฤษ ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือก เวิลด์ คัพ ได้ในปี 2018 รวมทั้งผ่านเข้าชิงดำฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปได้ถึง 2 สมัย

            กระนั้นแฟนบอลทีมชาติอังกฤษ รวมไปถึงแฟนบอลส่วนใหญ่ไม่ได้ให้เครดิตกับ เซาธ์เกต มากนัก แถมยังโดนค่อนขอดว่า มือไม่ถึงมาตลอด

            ขณะที่ในศึกยูโร 2024 หลายคนก็มองว่า ที่อังกฤษมาได้ไกลถึงขนาดนี้เป็นเพราะโชคดีที่ได้อยู่ในสายที่ไม่แข็งนัก โดยเฉพาะในรอบน็อกเอาท์ และไม่ได้มองว่า เป็นเพราะฝีมือของ เซาธ์เกต แม้แต่น้อย

            สำหรับสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ เซาธ์เกต ไม่ได้รับคำชื่นชม หรือ ความนิยมในหมู่แฟนบอลเพื่อนร่วมชาติมากเท่าที่ควรก็เป็นเพราะหลายคนมองว่า เขาไม่รู้จักวิธีรีดเอาศักยภาพสูงสุดออกมาจากยอดนักเตะอย่าง แฮร์รี เคน, จู๊ด เบลลิงแฮม, ฟิล โฟเดน, บูคาโย ซากา หรือ โคล พาลเมอร์

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นพวกใจไม่ถึงพึ่งไม่ได้ โดยมักจะวางแผนการเล่นแบบตาขาวเน้นการตั้งรับอย่างรัดกุมเอาไว้ก่อนไม่ว่าจะเจอคู่แข่งที่ต่ำชั้นกว่า หรือ คู่แข่งที่อยู่ในระนาบเดียวกัน ทั้งที่ด้วยคุณภาพของนักเตะในแนวรุกสามารถจะเปิดเกมบุกแบบเอาตายเหมือนกับ สเปน, เยอรมนี หรือ เนเธอร์แลนด์ ได้สบาย

            สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่า อยากให้ เซาธ์เกต คุมทีมชาติอังกฤษต่อไป โดยเฉพาะในฟุตบอลโลก 2026

            อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แบกรับความกดดัน และความคาดหวังมหาศาลจากแฟนบอลชาวเมืองผู้ดีที่มักคิดว่า นักเตะของตัวเองเก่งเสียเต็มประดา โดยไม่ได้มองเลยว่า ยังมีนักเตะที่เก่งกว่ากระจายตัวอยู่ทั่วทั้งยุโรป ต่างกันเพียงแค่นักเตะเหล่านั้นไม่ได้เล่นอยู่ในลีกที่ได้รับความนิยมที่สุดอย่างพรีเมียร์ลีกเท่านั้น มานานหลายปี เซาธ์เกต เลือกที่จะไม่ไปต่อ และขอหยุดพักเพื่อให้ร่างกาย รวมทั้งหัวใจได้ฟื้นฟูตัวเองอีกสักพัก

            สำหรับคนที่ได้รับการคาดหมายว่า น่าจะถูกดันขึ้นมาทำหน้าที่แทน เซาธ์เกต ชั่วคราว ก็คือ ลี คาร์สลีย์ อดีตมิดฟิลด์ของเอฟเวอร์ตัน ซึ่งนับว่า เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยหลังเพิ่งพา อังกฤษชุดเล็ก ดับซ่า สเปน 1-0 ในรอบชิงดำ ศึกยูโร รุ่นยู-21 เมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว.

แท ยอน