ตลาดอาร์ตทอย (Art Toy)” มาแรงแซงโค้ง หลังเกิดกลุ่มผู้บริโภคกำลังซื้อสูง อย่าง กลุ่ม Kidult (Kid+Adult) ที่มองหาสินค้าของเล่นเพื่อสนองความต้องการวัยเด็ก จนส่งผลให้ธุรกิจนี้เติบโตขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งนี่อาจจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการเจาะตลาดนี้ แต่จะทำได้ก็ต้องมีข้อมูล-ศึกษาข้อมูล ซึ่งวันนี้คอลัมน์นี้มีข้อมูลมาให้พิจารณากัน…

เกี่ยวกับข้อมูลนี้มาจาก เว็บไซต์สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ที่ติดตามสถานการณ์การค้าอาร์ตทอยทั่วโลก โดยพบการเติบโตเพิ่มขึ้น และน่าจะเป็นโอกาสของศิลปินและผู้ประกอบการไทยด้านนี้ ซึ่งควรมีการสนับสนุนและประชาสัมพันธ์เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมของเล่นของไทยให้ผลิตผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มรายได้เข้าสู่ประเทศ โดยข้อมูลจาก สนค.ระบุว่า อาร์ตทอยเป็นของเล่นที่ถูกออกแบบจากศิลปินหรือนักออกแบบ โดยผสมผสานระหว่างศิลปะสมัยใหม่กับของเล่นแบบเดิม ที่ทำมาจากวัสดุหลากหลายชนิด ซึ่งจุดเด่นของอาร์ตทอยจะเน้นสร้างสรรค์ตัวละครแบบไม่ต้องมีเนื้อเรื่อง แต่มีรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่ และผลิตจำนวนจำกัด จึงเกิดการแข่งขันเพื่อครอบครอง ยิ่งเป็นผลงานศิลปินที่มีชื่อเสียงหรือกำลังอยู่ในกระแส ความต้องการยิ่งเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ผู้ผลิตยัง เพิ่มเสน่ห์การขายในรูปแบบกล่องสุ่ม (Blind Boxes) เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้ซื้อ จนเกิดกระแสนิยมสไตล์ป๊อปคัลเจอร์อย่างมาก

ทาง สนค. ยังให้ข้อมูลว่า ตลาดอาร์ตทอยตอนนี้เติบโตอย่างมาก จากเดิมที่เป็นแค่สินค้าเฉพาะกลุ่ม โดยปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าหลัก ๆ 2 กลุ่มที่สำคัญ คือ กลุ่ม Gen Z (คนที่เกิดตั้งแต่ปี 2538) และ กลุ่มพนักงานออฟฟิศ (White-Collar) ที่มีอายุระหว่าง 15-40 ปี และยังพบว่า เป็นลูกค้ากลุ่มผู้หญิงมากกว่าร้อยละ 70 เนื่องจากมีความหลงใหลชื่นชอบสินค้าที่มีรูปแบบน่ารักและน่าสะสม โดยตลาดอาร์ตทอยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ ทวีปเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และรองลงมา คือ อเมริกาเหนือ และยุโรป ตามลำดับ สำหรับประเทศไทยนั้น มีการคาดการณ์ว่าไทยเป็นตลาดศักยภาพที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในกลุ่มสินค้าอาร์ตทอย จากการมีกลุ่มผู้ซื้อที่มีจำนวนมากขึ้น อีกทั้งยังมีพฤติกรรมซื้อแบบสะสมครบเซต ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นที่ซื้อเพื่อความสนุกสนาน

อย่างไรก็ตาม แม้อาร์ตทอยเป็นสินค้าน่าจับตามอง แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งยกระดับ ก็คือการสร้างโอกาสการค้า ด้วยการพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมต่อกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ อาทิ สอดแทรกศิลปะวัฒนธรรมไทยในการออกแบบ, สร้างสรรค์ผลงานร่วมกับศิลปินหรือตัวละครที่มีชื่อเสียง หรือนำความเชื่อมาเป็นส่วนประกอบการออกแบบซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้ามากขึ้น นอกจากนี้ภาครัฐก็ต้องช่วยส่งเสริมเสริมความรู้และพัฒนาผลิตภัณฑ์ และด้านประชาสัมพันธ์ เพื่อผลักดันให้อาร์ตทอยไทย รวมถึงอุตสาหกรรมของเล่นไทยเป็นที่รู้จักและได้การยอมรับจากทั่วโลกมากขึ้น นี่เป็นข้อมูลอินไซต์น่าสนใจเกี่ยวกับ “ธุรกิจอาร์ตทอย” ที่เอสเอ็มอีไทยก็มีโอกาสจาก “ตลาดของเล่น” นี้.

ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ [email protected]