มาใหม่ ๆ ให้คนไทยปวดหัวเรื่อย ๆ กับ “มิจฉาชีพออนไลน์“ ที่มีการ “สรรหาสารพัดวิธีมาใช้หลอกเหยื่อ” ล่าสุดก็ยิ่งน่าตกใจ…เมื่อมีการเผยวิธีที่ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” นำมาใช้ คือการ “จ้างคนมานั่งสแกนหน้า“ที่มีการเรียกผู้ที่รับจ้างกลุ่มนี้ว่า… “ม้าสแกนหน้า“ ซึ่งถือเป็น “วิธีการใหม่” ที่แก๊งมิจฉาชีพนำมา “ใช้แก้เกม” หลังจากทางภาครัฐของไทยได้งัดมาตรการปราบปรามบัญชีม้า ด้วยการกำหนดให้ต้อง “สแกนหน้า” ทุกครั้ง เมื่อมียอดโอนเงินตั้งแต่ 50,000บาทต่อครั้ง หรือ 200,000 บาทต่อวัน โดยเรื่องนี้ได้มีการนำมาตีแผ่เพื่อให้ประชาชนได้รู้ถึง “เล่ห์เหลี่ยมใหม่“ ของแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ ซึ่งเรื่องนี้…

จำเป็น ต้องรู้เท่าทัน-หมั่นอัปเดต“
เพราะ มิจฉาชีพออนไลน์เพิ่มเล่ห์“
ล่าสุดพัฒนาถึงขั้นมี ม้าสแกนหน้า“

ทั้งนี้ แม้ภาครัฐจะมีมาตรการใหม่ ๆ หรือนำวิธีใหม่ ๆ มาให้ใช้ “ป้องกันภัย-รับมือมิจฉาชีพออนไลน์” อยู่เรื่อย ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่า… พวกมิจฉาชีพออนไลน์นั้นก็มีการ “ปรับเล่ห์” เพื่อใช้ต่อกรกับมาตรการป้องกัน ซึ่งกับ “วิธีสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน“ ที่เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ภาครัฐมีการนำมาใช้นั้น ดูเหมือนมิจฉาชีพก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ จึง “จ้างคนมานั่งสแกนหน้า” หรือที่มีการตั้งชื่อเรียกว่า“ม้าสแกนหน้า” เพื่อนำมาใช้ต่อกร ซึ่งหลังจากข้อมูลเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมา ก็ทำให้ผู้คน…

ทั้งตะลึง-ทั้งกังวลใจ-ทั้งมีปุจฉา…
“สแกนหน้า…เช่นไรจึงปลอดภัย??“

เกี่ยวกับ “วิธีสแกนหน้าให้ปลอดภัย” นั้น… วันนี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” จะสะท้อนต่อข้อมูล ซึ่งกรณีนี้ “มีคำแนะนำ” ไว้ โดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ได้ให้แนวทางไว้ผ่านบทความ “สแกนใบหน้าอย่างไรให้มั่นใจไม่ถูกสวมรอย ในวันที่ AI Deepfake มาแรง“ ซึ่งเนื้อหานั้นมีว่า…ทุกวันนี้เรา สแกนใบหน้าเพื่อทำธุรกรรมออนไลน์ จนเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน โดยบริการที่ใช้มากอันดับต้น ๆ หนีไม่พ้น “บริการทางการเงิน”ผ่าน Mobile Banking แต่ความล้ำนี้ก็กำลังเป็น “ดาบหลายคม“ กลายเป็น “ช่องว่างให้มิจฉาชีพ“ฉวยโอกาส “หลอกเหยื่อ“ จนนำสู่คำถามที่ว่า…

สแกนใบหน้าปลอดภัยจริงหรือไม่??

ในบทความนี้ได้อธิบายไว้ว่า… การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ “Digital ID” ถูกนำมาใช้เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น
ในการทำธุรกรรมทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่ง “Digital ID” ย่อมาจาก “Digital Identity” ที่เป็นเครื่องมือที่ช่วยบอกว่า…เราเป็นใคร เพื่อเปิดทางให้สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ หรือเข้าถึงการบริการต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และเชื่อถือได้ โดย Digital ID
ก็มีหลายรูปแบบ อาทิ การกรอก Username และ Password,การยืนยัน One-time password หรือ OTP, การยืนยันด้วยลักษณะทางกายภาพ หรือ Biometrics เช่น สแกนม่านตา สแกนลายนิ้วมือ รวมถึง “สแกนใบหน้า“ที่…

เป็นการยืนยันตัวตนทางดิจิทัลสุดฮิต
ที่ในไทยปัจจุบันใช้งานกันแพร่หลาย

ทั้งนี้ เกี่ยวกับ “วิธียืนยันตัวตนทางดิจิทัล” ด้วยการ “สแกนใบหน้า” ที่ล่าสุดก็กำลังถูกหลายคน “ตั้งคำถาม” เกี่ยวกับ “ความปลอดภัย” เช่นกันนั้น ในบทความดังกล่าวได้มีการระบุไว้ว่า… การสแกนใบหน้า (Face Verification Service) หรือ FVS เป็นหนึ่งในรูปแบบการยืนยันตัวตนยอดฮิตที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะสะดวกรวดเร็ว แค่หยิบมือถือกดสแกนก็ยืนยันตัวตนได้ในเสี้ยวนาที โดยไม่ต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนเหมือนการสแกนลายนิ้วมือหรือม่านตา อย่างไรก็ดี เพื่อเพิ่มความมั่นใจ และ “เพื่อให้ปลอดภัยที่สุด“ บทความนี้ก็ได้แนะนำ “วิธีสแกนใบหน้าที่ถูกต้อง“

วิธีสแกนมี หลักสำคัญ 4 ประการ“

ประการที่ 1 อย่าให้ใครรู้ข้อมูลสำคัญเด็ดขาด เพราะถึงจะเลี่ยงไม่เปิดเผยใบหน้าไม่ได้ แต่ก็ห้ามแจ้งข้อมูลสำคัญ ๆ ให้คนอื่นได้รู้ โดยเฉพาะรหัสที่เราใช้ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะรหัสเข้าแอปพลิเคชันธนาคาร เพราะในทางเทคนิคแล้ว มิจฉาชีพจะไม่สามารถสวมรอยดูดเงินได้เพียงเพราะมีใบหน้าเท่านั้น แต่ต้องรู้รหัสผ่านของเราด้วย, ประการที่ 2 อย่าโหลดแอปพลิเคชันลงบนมือถือสุ่มสี่สุ่มห้า เช่น เพราะใครก็ไม่รู้ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ บอกให้เราโหลดหรือติดตั้ง ที่ต้องย้ำว่า…ห้ามเชื่อ-ห้ามทำอย่างเด็ดขาด ซึ่งถ้าเจอพฤติกรรมรูปแบบนี้ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจ “เป็นมิจฉาชีพ”

ประการที่ 3 เลือกสแกนใบหน้าเฉพาะการทำธุรกรรมที่สำคัญ รวมถึง ใช้วิธียืนยันตัวตนแบบนี้เฉพาะแอปพลิเคชันที่น่าเชื่อถือเท่านั้น เพราะอย่าลืมว่า… ใบหน้าของเราคือข้อมูลส่วนบุคคลดังนั้นจึงต้องเลือกใช้เฉพาะที่สำคัญ ๆ หรือน่าเชื่อถือเท่านั้น และ ประการที่ 4 ต้องมีสติอยู่เสมอ ที่ถือเป็น หลักสำคัญที่สุด!! เพราะหลายครั้งที่มิจฉาชีพจู่โจม มักใช้วิธีหลอกให้เหยื่อตกใจจนขาดสติ จนลืมป้องกันตัว จึงมักถูกล่อหลอกให้ทำตามได้ง่าย ดังนั้นสติจึงสำคัญสุด!! …ทั้งนี้ นี่เป็น “คำแนะนำ” ที่ “ต้องรับฟัง-ต้องนำไปใช้” เพื่อจะ “ป้องกันเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ผ่านการสแกนใบหน้า”…

“ยืนยันหน้า“ วิธีนี้ ก็มิใช่ไม่ต้องระวัง“
และยุคนี้ AI“ก็ได้ ถูกใช้เฟค-ใช้ตุ๋น“
ถ้า ไม่ระวัง…หมดตัวได้ในพริบตา!!“.