คณะกรรมการการเลือกตั้งของมอริเตเนีย ระบุว่า กาซูอานี ซึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบกมอริเตเนีย วัย 67 ปี ได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง ด้วยคะแนนเสียงมากกว่า 56% เล็กน้อย ซึ่งเพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงการเลือกตั้งรอบตัดสิน หรือรอบชิงดำ

ในช่วงการรณรงค์หาเสียง โปสเตอร์ของกาซูอานี นำเสนอเขาเป็น “ทางเลือกที่ปลอดภัย” ซึ่งให้ทั้งความมั่นคง และการพัฒนาในมอริเตเนีย ซึ่งส่วนใหญ่สามารถยืนหยัดต่อกระแสความรุนแรงของนักรบจีฮัด ในภูมิภาคซาเฮล ซึ่งโปสเตอร์ดังกล่าว บดบังฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของกาซูอานี ทั้งในกรุงนูแอกชอต และทั่วทั้งประเทศ

กลุ่มผู้สนับสนุนของกาซูอานี ยกย่อง “ความสอดคล้อง” และ “วิสัยทัศน์” ของผู้นำมอริเตเนีย โดยพวกเขากล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ช่วยนำมาซึ่งความสงบในภูมิทัศน์ทางการเมืองของประเทศ

ระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมอริเตเนียสมัยแรก ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 และสงครามในยูเครน กาซูอานีให้ความสำคัญกับปัญหาทางสังคมเป็นอันดับแรก โดยนายอับดัลลาฮี เคบด์ โฆษกของเขา กล่าวถึงความช่วยเหลือที่เป็นประโยชน์ต่อชาวมอริเตเนียยากไร้ ประมาณ 1.5 ล้านคน, การก่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาถูกหลายพันแห่ง และการประกันสุขภาพสำหรับประชาชนมากกว่า 100,000 คน

นอกจากนี้ กาซูอานียังให้คำมั่นที่จะปรับปรุงสถานการณ์ของกลุ่มคนหนุ่มสาว รวมถึงสร้างเงื่อนไขในการพัฒนาเศรษฐกิจ และรักษาสถานการณ์ความมั่นคงที่มีเสถียรภาพ อีกทั้งในการรณรงค์หาเสียง เขาก็แสดงความปรารถนาที่จะแก้ไขปัญหาการชดเชยความเสียหายให้กับเหยื่อของความรุนแรงระหว่างชุมชน ซึ่งคร่าชีวิตชาวมอริเตเนียผิวสีหลายร้อยคน ในช่วงปี 2532-2534

แม้เคบด์ ยกย่องกาซูอานีที่มีทักษะการฟังอันยอดเยี่ยม และการผสมผสานระหว่างความอดทนระมัดระวัง กับการแก้ปัญหาอย่างสุขุม อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิจารณ์ของกาซูอานี กล่าวว่า ผู้นำมอริเตเนียปกครองประเทศด้วยความลังเล และประณามการปฏิรูปที่ล่าช้า

ทั้งนี้ กาซูอานี เป็นประธานสหภาพแอฟริกา (เอยู) คนปัจจุบัน และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรฝั่งตะวันตก เช่น ฝรั่งเศส และสหภาพยุโรป (อียู)

ขณะเดียวกัน กาซูอานี ยังมีความระมัดระวังในการไม่ทำให้เกิดความบาดหมางกับรัฐบาลทหารที่ยึดอำนาจในมาลี, บูร์กินาฟาโซ และไนเจอร์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วย โดยให้เหตุผลว่า ความร่วมมือกับรัฐบาลทหารมีความจำเป็น เพื่อปรับปรุงสถานการณ์ความมั่นคงของภูมิภาค แม้เขาเคยคัดค้านการเจรจากับนักรบจีฮัดก็ตาม

สำหรับภูมิหลังและเส้นทางการเมืองของกาซูอานี เขาดำรงตำแหน่งเสนาธิการกองทัพบก ก่อนการรัฐประหารเมื่อปี 2551 จนออกจากราชการ เมื่อเดือน ต.ค. 2561 ก่อนเข้าร่วมรัฐบาลในตำแหน่ง รมว.กลาโหมมอริเตเนีย ภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด อูลด์ อับเดล อาซิซ ระหว่างเดือน พ.ย. 2561 ถึงเดือน มี.ค. 2562

หลังจากนั้น อาซิซได้เลือกกาซูอานี ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่และใกล้ชิดที่สุด ให้รับตำแหน่งผู้นำมอริเตเนียต่อจากเขา ในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อปี 2562 ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคน เริ่มขมขื่นหลังกาซูอานีชนะการเลือกตั้ง และขึ้นสู่อำนาจ

อาซิซประสบกับความเสื่อมเสียชื่อเสียง เมื่อปี 2563 และถูกตัดสินจำคุก 5 ปี ในเดือน ธ.ค. 2566 ฐานใช้ตำแหน่งในทางที่ผิด เพื่อสะสมทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบ ซึ่งกล่าวหากาซูอานีว่า “ทรยศต่อเขา” ขณะที่กาซูอานี ปฏิเสธการแทรกแซงใด ๆ ในกระบวนการยุติธรรม.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AFP