ความรักของแม่ไม่เคยมีเงื่อนไข แต่ถ้ารักมากไปอาจทำให้คนเป็นลูกเจอกับปัญหา
เวโรนิค ราบิโอต์ รัก อาเดรียง ราบิโอต์ ลูกชายของเธอมาก
เธอกับสามี มิเชล ประคบประหงม อาเดรียง มาตั้งแต่เด็ก และเมื่อเห็นลูกชายมุ่งมั่นจริงจังกับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เวโรนิค กับ มิเชล ก็เดินหน้าลุย สนับสนุน อาเดรียง เต็มตัว
แต่ในปี 2008 เกิดเหตุพลิกผัน เมื่อ มิเชล ต้องกลายเป็นผู้ป่วย นอนติดเตียง ทำให้ เวโรนิค ต้องขึ้นมารับหน้าที่ แลลูกชายแบบเต็มตัว
รับบทเป็นทั้งแม่ และเอเย่นต์ส่วนตัว
อาเดรียง เริ่มฝึกฟุตบอลกับสโมสรเครเตย ในบ้านเกิด เขาเป็นที่ชื่นชอบของทั้งเพื่อนร่วมทีม และสต๊าฟโค้ช และถือเป็นดาวรุ่งนิสัยดี มีอนาคตคนหนึ่ง
ในปี 2008 สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี ในอังกฤษ เริ่มต้นโครงการสร้างอะคาเดมีของตัวเอง และส่งมองแมงไปมองหาแข้งเด็กชั้นยอดจากทั่วยุโรปไปอยู่ด้วย
ราบิโอต์ คือหนึ่งในนั้น และได้ฝึกไปอยู่กับอะคาเดมีระดับท็อปของทีมเรือใบถึง 5 ปี
ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ดี มีอนาคตที่สดใสรออยู่ มีโอกาสขึ้นชุดใหญ่ของ แมนฯ ซิตี ได้ไม่ยากเลย
แต่ตอนที่ อาเดรียง อายุ 15 ปี เวโรนิค ได้ยื่นคำขาดต่อ แมนฯ ซิตี ว่า ถ้าจะให้ลูกชายอยู่ต่อ สโมสรต้องการันตีว่าจะมอบสัญญานักเตะอาชีพให้เขาตอนอายุ 17 ปี
ปรากฎว่า ทีมเรือใบสีฟ้า รับปากไม่ได้ ทั้ง 2 ฝ่ายจึงต้องแยกทางกัน
แต่ ราบิโอต์ คือเพชรเม็ดงาน และไปเข้าตา ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จนได้เข้ามไปเป็นเด็กฝึกของทีม
หลังจากเข้าไปอยู่กับ เปแอสเช ได้ไม่นาน เวโรนิค ก็ก่อเรื่องอีก
เมื่อเธอไปยืนรอ โลร็องต์ บลองก์ กุนซือของทีมในเวลานั้น ในลานจอดรถ เพื่อขอคุยเป็นการส่วนตัวในเรื่องที่ให้ลูกชายเล่นแค่ทีมสำรอง
เมื่ออายุครบ 17 ปี ราบิโอต์ ได้เซ็นสัญญานักเตะอาชีพกับ เปแอสเช สมใจอยาก ในยุคของ คาร์โค อันเชลอตติ
แต่ปัญหาก็ตามมาอีก เมื่อในช่วงปิดฤดูกาลซัมเมอร์ เปแอสเช จะยกพลไปเก็บตัวที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และจะนำไปแค่นักเตะกับเจ้าหน้าที่สโมสรเท่านั้น
เวโรนิค ของขึ้นทันที เพราะสโมสรไม่ได้ออกตั๋วให้เธอไปด้วย โดยให้เหตุผลว่าเธอเป็นแค่เอเย่นต์
เธอจึงจัดการบอกลูกชายให้สไตรค์ ไม่ต้องไปโดฮากับทีม ทำให้ อาเดรียง โดนลงโทษทางวินัย ไม่ให้ซ้อมกับทีม และถูกปล่อยออกไปให้ ตูลูส ยืมตัว
อนาคตเริ่มไม่แน่นอนขึ้นมาทันที
แต่สุดท้าย ปารีส ก็ดึง ราบิโอต์ กลับมา และใช้งานอย่างต่อเนื่อง แต่ระหว่างนั้น เวโรนิค ก็สร้างปัญหาเรื่อยๆเช่นกัน จนเขาถูกลงโทษบ่อยครั้ง
ซึ่ง เวโรนิค บอกว่า เป็นเพราะสโมสร 2 มาตรฐาน ชอบกลั่นแกล้งลูกเธอ
ปี 2018 สัญญากับ ราบิโอต์ กับ เปแอสเช กำลังจะหมด สโมสรอยากต่อสัญญาด้วย แต่คุณแม่เวโรนิค บอกว่า จะไม่ต่อ เพราะต้องการย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัว
แถมบอกว่า ไม่ต้องส่งใครมาเจรจาทั้งนั้น เพราะเธอจะคุยกับท่านประธาน นาสเซอร์ อัล เคไลฟี คนเดียว
ปีเดียวกัน มีฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่รัสเซีย ราบิโอต์ ถูก ดิดิเยร์ เดสชองส์ เรียกติดทีมชาติฝรั่งเศส แต่แค่ฐานะตัวสแตนบาย
เวโรนิค ไม่พอใจอย่างมาก และบอกให้ลูกชายถอนตัว เพราะคิดว่าโค้ชดูถูก ไม่เห็นคุณค่าในตัวลูกเธอ
จนในที่สุดก็ทำให้ อาเดรียง ชวดได้แชมป์โลกกับฝรั่งเศส
กับ ปารีส เขากลายเป็นตัวปัญหา แฟนบอลไม่รัก โค้ชไม่ชอบ เพื่อนร่วมทีมไม่สนิท
จนในที่สุดก็ต้องย้ายไป ยูเวนตุส ในปี 2019 และก็มีปัญหากับ ยูเว อีกตอนจะหมดสัญญาในปี 2022 แต่ก็ตกลงกันได้ และอยู่กับทีมม้าลายจนถึงตอนนี้
ระหว่างนั้น ในแคมป์ทีมชาติฝรั่งเศศ เวโรนิค ยังมีปัญหากับครอบครัวของ ปอล ป็อกบา และ คีลิยัน เอ็มบัปเป อยู่เนืองๆ
จนความสัมพันธ์ของลูกๆในทีมชาติไม่ค่อยดีนัก
แน่นอนว่า เรื่องราวของ เวโรนิค จะยังไม่จบ และคงมีวีรกรรมอะไรตามมาอีก
ไม่รู้ว่า นี่จะเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของวลีที่บอกว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” หรือไม่?
แม้พ่อแม่จะรักลูกแค่ไหน แต่ถ้าวุ่นวายมากเกินไป อาจทำให้ชีวิตของลูกมีปัญหาวุ่นวาย
และไม่ได้รับสิ่งดีๆที่พวกเขาสมควรได้รับเช่นกัน?
