เรื่องนี้หลังจากมีการโพสต์และแชร์ออกไปก็เกิดกระแสอื้ออึง จน กลายเป็นประเด็นถกเถียงบนโลกออนไลน์ ที่ถึงขั้นมีการนำข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ ออกมาแชร์และแบ่งปันกันในโลกออนไลน์ เพื่อจะคลี่คลายปม-หาวิสัชนาของ “ดราม่าอาหาร” ครั้งนี้ ซึ่งก็ว่ากันไป… อย่างไรก็ตาม กับเรื่องของ “อาหาร” นี่ถ้าโฟกัสกันเรื่อง ’รสชาติอาหาร“ กรณีนี้ในแง่ ’มานุษยวิทยา-สังคมวิทยา“ ก็มี ’มุมวิเคราะห์“ ที่น่าสนใจ…

’รสชาติอาหาร“ นั้น ’มีแง่มุมน่าพินิจ“

กรณี ’ภาพตัวแทน-ฉากชีวิต“ ผู้คน??

เกี่ยวกับการวิเคราะห์ที่ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” จะสะท้อนต่อข้อมูล… เป็นข้อมูลจากบทความ ’จากสุนทรียะทางการกินสู่การสร้างภาพแทนวัฒนธรรมผ่านรสอาหารคนพลัดถิ่น“ โดย ธนพล เลิศเกียรติดำรงค์ นักวิจัย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ที่เผยแพร่อยู่ใน www.sac.or.th ซึ่งอธิบายการจัดทำไว้ว่า… เกิดจากสงสัย “วัฒนธรรมการกินอาหาร” หลังจากพบว่า ประชากรบางกลุ่มมักจะเน้นปรุงรสชาติอาหารให้จัดจ้าน โดยสิ่งที่ต้องการจะค้นหาก็คือ…ลักษณะและพฤติกรรมการปรุงรสชาติในอาหารเช่นนี้มีที่มาจากสาเหตุใด? หลังพบว่า ร้านอาหารในกรุงเทพฯ หรือในเมืองต่าง ๆ ตามต่างจังหวัด นั้น…

Barbecued red pork in sauce with rice

ปรุงรสชาติจัดจ้านมากขึ้นกว่าในอดีต

ผู้จัดทำบทความนี้ระบุไว้ว่า… พยายามสำรวจภูมิทัศน์รสชาติอาหารนอกบ้านของสังคมไทย และที่มาที่ไปวัฒนธรรมการบริโภคอาหารรสจัด  โดยพบว่า… วัฒนธรรมการทำงาน การใช้ชีวิตในสังคมเมือง สภาพแวดล้อม และวิถีชีวิตคนยุคใหม่ที่นิยมบริโภคอาหารนอกบ้าน มีปัจจัยจาก ข้อจำกัดด้านสถานที่และเวลา ในปัจจุบัน จน เกิดการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการรับประทานอาหารนอกบ้าน แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้และยังมีปัจจัย การเคลื่อนย้ายอพยพของแรงงาน ที่ส่งผลทำให้…

มีการนำรสชาติอาหารติดตามไปด้วย

จนทำให้ ’บางพื้นเกิดรสชาติเฉพาะ“

และนอกจากนั้นยังพบว่าความนิยมในการ ปรุงรสจัดเพื่อกลบรสจืดของคนบางกลุ่มในพื้นที่เขตเมือง ได้ส่งผลทำให้ “เกิดกระบวนการลดทอนย่อส่วน” ของ “วัฒนธรรมการปรุงรสชาติ” ที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตในสังคมเมืองไทยสมัยใหม่ โดยทำให้ เกิดพัฒนาการของร้านอาหารที่มีการอนุญาตให้ผู้บริโภคมีสิทธิกำหนดรสชาติได้ตามต้องการ

ที่เปิดโอกาสให้รสชาติจัดจ้านยิ่งขึ้น

ในบทความโดยนักวิจัย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ได้ระบุไว้ถึง  “กระแสนิยมปรุงรสจัดในอาหาร” ที่เกิดขึ้น โดยอ้างอิงหนังสือ ’เศรษฐศาสตร์ความจน (Poor economics)“ ซึ่งหนังสือเล่มนี้มีการระบุไว้ว่า… พฤติกรรมการบริโภคในมุมมองแบบเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมนั้น เน้นย้ำถึง “ความสำคัญของความอร่อย” มากกว่าเน้นคุณค่าสารอาหาร โดยพบว่าประชากรที่มีระดับเศรษฐกิจยากจนเลือกจะใช้เงินซื้ออาหารที่มีรสชาติอร่อยมากกว่าจะนำไปเพิ่มปริมาณอาหาร ฉายภาพว่า “รสชาติอาหารที่อร่อย” ได้กลายเป็น “เครื่องมือสำคัญในการดำรงชีวิตประจำวัน” ของคนกลุ่มนี้ โดย ’อาหารรสจัดจ้าน“ นั้น…

ช่วยเบี่ยงเบนความเครียด-เหนื่อยล้า

ทำให้มีสุขในการใช้ชีวิตประจำวันได้

Different types of chili sauce in a cup with ingredients to make

รสชาติอาหารที่จัดจ้าน กลายเป็นอีกเครื่องมือที่คนเมืองกลุ่มนี้ใช้เพื่อช่วยทำให้ชีวิตของพวกเขามีความสุขมากขึ้น รวมถึงใช้เพื่อเบี่ยงเบนความเครียด ความน่าเบื่อ และเหนื่อยหน่ายในชีวิตประจำวัน เพราะความสนุกสนานและรื่นเริงในเมือง เช่น โรงหนัง เว็บสตรีมมิ่ง ห้างสรรพสินค้า คอนเสิร์ตนั้น ล้วนแต่พ่วงมาด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อเข้าถึง… การที่ได้บริโภคอาหารที่รสชาติจัดจ้านจึงเป็นความบันเทิงที่คนกลุ่มนี้เข้าถึงได้ง่ายกว่า และมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า” …นี่เป็น ภาพชีวิตคนจนเมือง“ ที่เลือก…

’หาความสุขผ่านอาหารรสจัดจ้าน“

นอกจากนี้ “รสชาติอาหารจัดจ้าน” ยังกลายเป็น “ภาพตัวแทนความเป็นคนบ้านเดียวกัน” โดยจะสังเกตเห็นว่า… “ร้านอาหารท้องถิ่น” บางแห่งพยายาม “สร้างความรู้สึกเชื่อมโยง” กับความดั้งเดิมของคนบางกลุ่มบางพื้นที่ไว้ด้วยกัน ผ่านรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ชื่อร้าน สถาปัตยกรรม สินค้า รวมถึง “รสชาติของอาหาร” เพื่อนำเสนอความแตกต่างจากร้านอาหารทั่ว ๆ ไป อีกทั้งยังเป็น พื้นที่แสดงอัตลักษณ์ความเป็นคนท้องถิ่นเดียวกัน เช่น ร้านอาหารอีสาน ร้านอาหารปักษ์ใต้ เพื่อเชื่อมโยงความเป็นคนที่มีพื้นเพและรากเหง้าทางวัฒนธรรมจากที่เดียวกันหรือคล้ายกัน…ผ่านทาง ’รสจัดจ้านของอาหาร“

ทั้งนี้ ธนพล เลิศเกียรติดำรงค์ ระบุไว้ด้วยว่า… ’อาหารท้องถิ่นในเมือง-อาหารท้องถิ่นต้นฉบับ“ นั้น ’แตกต่างกันชัดเจน
ด้านรสชาติ“
โดยสิ่งที่พบคืออาหารต้นฉบับไม่ได้มีรสจัดจ้านเหมือนอาหารท้องถิ่นในเมือง จึงเป็นไปได้ว่า…สาเหตุที่ทำให้อาหารท้องถิ่นในเมืองมีรสจัดจ้านมากขึ้นนั้นอาจเกิดจาก ’คนพลัดถิ่นที่เข้าอยู่ในเมืองพัฒนารสชาติใหม่“ ขึ้นมา…

เป็น ’เบื้องลึกรสอาหาร“ ที่ ’ชวนคิด“

ทำให้ ’เมนูท้องถิ่น“ มี ’รสจัดยิ่งขึ้น“

เบื้องลึก ’คือการปลอบโยนชีวิต??“.

คลิกอ่านบทความทั้งหมดได้ที่นี่