หลังจากภาพยนตร์เรื่อง A Quiet Place (2018) ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม โกยรายได้ไปมากกว่า 326 ล้านเหรียญ จากต้นทุนทำหนังเพียง 21 ล้าน ส่งผลให้ “จอห์น คราซินสกี้” ผู้กำกับหนังชื่อดังไม่รอช้าที่จะทำหนังภาคต่อใน A Quiet Place Part II (2020) แต่เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไวรัสโควิดระบาดหนักทั่วโลก หนังต้องมีอันเลื่อนฉายแล้วฉายอีก จนกระทั่งมาในไทยช่วงเดือนมิถุนายน 2021 โกยรายได้ไป 297 ล้านเหรียญ จาต้นทุนสร้าง 61 ล้านเหรียญ กลับมาคราวนี้ ผู้กำกับ “จอห์น คราซินสกี้” เลือกที่จะเฉลยที่มาของเหล่าเอเลี่ยนต่างดาวที่ชื่อ “Death Angel” ใน A Quiet Place: Day One (2024) หรือ ดินแดนไร้เสียง วันที่หนึ่ง

เรื่องย่อ A Quiet Place: Day One เมื่อเมืองนิวยอร์กถูกรุนรานโดยสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่ออกตามล่าด้วยเสียง “แซม” (รับบทโดย ลูพีตา ญองอ นางเอกสาวจาก Black Panther) หญิงสาวผิวสี พร้อมกับเจ้าเหมียวปุกปุย “โฟรโด้ว” ได้พยายามเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของฝูงเอเลี่ยน “Death Angel” ในมหานคร “นิวยอร์ก” ระหว่างนั้นเธอได้พบกับ “เฮนรี่” (รับบทโดย ดิจิมอน ฮาวน์ซู) ผู้นำกลุ่มผู้รอดชีวิต ที่พยายามพาผู้คนไปลงเรือ และยังได้พบกับ “อิริก” (รับบทโดย โจเซฟ ควินน์ นักแสดงหนุ่มชื่อดังจาก Stranger Things) หนุ่มชาวอังกฤษที่ไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดได้อย่างไร เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

สำหรับเจ้า Death Angel นั้น จาก 2 ภาคที่ผ่านมา ได้มีข้อมูลเผยแพร่มากมาย ตั้งแต่รูปร่างหน้าตาไปจนถึงความสามารถในการล่าเหยื่อ แรกเริ่มเดิมทีพวกมันมากับเหล่าอุกาบาตที่ตกลงมายังโลก ไม่มีใครรู้ว่าทำไมมันถึงออกมาเข่นฆ่ามนุษย์และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ แต่ที่แน่ ๆ ในภาคที่ 2 ก็ได้เฉลยแล้วว่า จุดอ่อนของมันก็คือ “เสียงคลื่นความถี่” ที่มาจากเครื่องช่วยฟังของคนหูหนวก ยิ่งเอาไปใส่กับลำโพงแล้ว “Death Angel” ถึงกับอัมพาต แถมยังเปิดเกราะที่หัวเพื่อเผยให้เห็นจุดตายจุเดียว นั่นก็คือ อวัยวะนิ่ม ๆ คล้าย ๆ กับเครื่องจับความถี่ ลองถ้าโดนโจมตีหนัก ๆ เข้าไป 1 ครั้ง สัตว์ประหลาดที่ว่าแน่ ก็ยังม่องเท่ง หรือ ตุย อย่าง..ง่ายดาย

จุดแข็ง มีความแตกต่างจากภาคแรกหลายแง่มุม โดยเฉพาะการตีความในแง่การใช้ชีวิตและความเป็นมนุษย์ เหมือนความฝันเล็ก ๆ ของคนบางคน แต่กลับดูยิ่งใหญ่มาก ๆ ถ้าหากเปิดใจรับฟังและลองทำมันดู จุดขายที่ดีของเรื่องนี้ก็คือ “ฉากเงียบ” บทบาทของนักแสดงตัวหลักและนักแสดงสมทบสามารถทำออกมาได้ยอดเยี่ยม การใช้สายตาและท่าทางดูชวนอึดอัดมาก ทำออกมาได้ดีกว่า ภาค 2 เยอะเลย เชื่อว่าผู้ชมบางท่านดูเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์แล้ว แทบไม่อยากจะเคี้ยว “ป๊อปคอร์น” หรือ หรือแม้แต่จะหยิบน้ำอัดลมเย็น ๆ มาดื่ม เพราะแต่ละฉากมันเงียบและอึดอัดซะจริง ๆ เวลา jump scare (ตุ้งแช่) ออกมาแต่ละแทบจะสะดุ้งกันทั้งโรง เป็นหนังที่ควรค่าแก่การชมในโรงภาพยนตร์แน่นอน สำหรับ “น้องเหมียวโฟโด้ว” อันนี้เป็นงานขายคุณภาพ ไม่ใช้สลิงสตั้นช่วยอะไรเลย วิ่งลุยลงน้ำว่ายน้ำจริง ยอมเปียกจริง มีภาพประทับใจมากมายพรั่งพรูออกมา “ทาสแมว” ห้ามพลาดจริง ๆ ครับผม

จุดอ่อน ระดับของความสยดยองน้อยไปหน่อย ทั้งที่มีฉากฝูงชนเดินถนน กลายเป็นโต๊ะจีนเอเลี่ยนในหนังตัวอย่าง แต่กลับไม่ได้โชว์ความสยดสยองอะไรเลย โฉบมาแล้วก็หายไป กลาง ๆ เรื่องมีโชว์ jump scare แบบไม่จำเป็น 2 รอบ ทั้งที่เป็นฉากที่ไม่น่าจะใส่ ก็ยังใส่มาอีก

5/5 กะโหลก เป็นหนังที่ดีกว่าภาค 2 แม้จะไม่โชว์โหดเหมือนโกรธใคร แต่หนังกลับแฝงมุมมองของการใช้ชีวิตไล่ตามความฝัน หลายคนอาจตั้งคำถามว่า นางเอกของเรื่องจะทำไปเพื่ออะไร? ดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย แต่ถ้าลองเปิดใจ ตั้่งใจดู จะเห็นการการไล่ตามความฝันนั้น ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ระหว่างที่วิ่งตามฝันนั่นแหละ คือสิ่งที่โคตรจะยิ่งใหญ่ มากกว่าผลของความสำเร็จเสียอีก.

———————————————

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Paramount Pictures