ผลพวงจากการลาออกจากสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ทำให้ นายปวิณ ภิรมย์ภักดี ยกทีมยุติการทำหน้าที่ดูแลทีมชาติไทย ชุด 23 ปี ด้วย
หน้าที่การทำทีมช้างศึกหนุ่ม จึงวนกลับมาที่สมาคมลูกหนังไทย
เป็นอีกภาระกิจสำคัญที่ทิ้งไม่ได้ แม้เป็นช่วงหยุดยาว ทีม 23 ปี แข่งอีกที ก็ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก เดือนกันยายนปีหน้าโน่นเลย
อ้อ แล้วก็ซีเกมส์ ที่เราหมายมั่นปั้นมือ “เอานะ” ในช่วงปลายปีหน้า
แม้ยังไม่มีโปรแกรม แต่บอลรุ่นนี้ ถือเป็นฐานสุดท้าย ก่อนส่งต่อสู่ชุดใหญ่ จึงจะอยู่เฉย ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่ได้
สมาคมฟุตบอล เดินเครื่องทันที มอบหมาย ฝ่ายเทคนิคช่วยส่องหาเฮดโค้ช เพื่อเป็นแกนหลักในการดำเนินการ เดินเครื่อง อย่างน้อยก็ส่องหานักเตะมาร่วมฝึกซ้อม อุ่นเครื่อง ตามวาระและโอกาสอันควร โดยเฉพาะในช่วงฟีฟ่าเดย์
“อ.หรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิต หมดวาระ สว. อย่างสมบูรณ์ ได้มาลุยกันเต็มที่ ร่วมกับ “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, “อ.แดง” ทรงยศ กลิ่นสีสุข ประธานเทคนิคสมาคมฯ จะได้หารือ เพื่อหาคนที่เหมาะสม
แล้วก็ส่ง มาซาทาดะ อิชิอิ มาร่วมให้คำปรึกษาด้วย เพราะว่าอย่างที่บอก ชุด 23 ปี กับ ชุดใหญ่ มันเกือบจะเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ดังนั้น จะเอาอย่างไร ต้องให้เฮดโค้ชชุดใหญ่มาดูด้วย มาวางแนวทางการเล่นให้ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ชุด 23 ปี จะเล่น 4-4-2, 3-4-1-2 แล้วชุดใหญ่จะเล่น 4-2-3-1 อันนี้มองแบบภาพกว้างๆ
ชื่อที่ถูกชู้ตขึ้นมา ว่ามีโอกาส(อีกแล้ว) คือ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ที่ลาออกจาก กงอันห์ฮานอย มาได้พักใหญ่ๆ
หนนั้น มองกันว่า ซิโก้ ลาออกแบบปุบปับ เพื่อมารับเป็นกุนซือ ช้างศึกหนุ่ม หรือเปล่า เพราะ “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร หมดสัญญา
ซิโก้ ยืนยันว่า เขาไม่ได้ลาออกมาเพื่อดีลรับงานทีมใดๆ รวมทั้งช้างศึก ซึ่งจับๆ น้ำเสียงแล้ว ก็น่าเชื่ออย่างนั้น ซิโก้ น่าจะลาออกจากกงอันห์ฯ เพราะเหตุผลระหว่าง ซิโก้ กับ กงอันห์ มากกว่า
แต่ ซิโก้ ก็ไม่ได้ปิดโอกาสตัวเอง บอกว่าเรื่องของอนาคต ค่อยว่ากัน ไม่ได้บอกว่าไม่รับงานคุมทีมชาติไทยแน่นอน
ตอนนั้นมี นายปวิณ ภิรมย์ภักดี ทำหน้าที่อยู่ จะตั้งโค้ชช้างศึกหนุ่ม ก็ต้องผ่าน นายปวิณ แต่ตอนนี้สายตรงมาที่สมาคมแล้ว ชื่อของ ซิโก้ เลยกลับมาอีก
เรื่องนี้เดาใจยาก ถามว่าถ้า ซิโก้ จะเป็นแคนดิเดตล่ะ จะได้ไหม…“ทำไมจะไม่ได้”
อดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกา เคยฝากผลงานกับทีมชาติไทยไว้ และสิ่งที่น่าชื่นชมก็คือเรื่องระเบียบวินัย นักบอลเกรงใจพี่โก้ เล่นบอลไม่มีเกเร สุภาพบุรุษ
แต่ต้องกลับไปถามว่า ซิโก้ จะรับงานนี้ไหม ในเมื่อไม่มีเวทีให้แสดงผลงานอีกนานเลย
ถ้าไม่มีทัวร์นาเมนท์ลับแข้ง อย่างน้อยปีกว่าๆ ถึงจะเป็นโอกาสลงสนามแข่งขัน แล้ว ซิโก้ ที่ยังถือว่ามีชื่อเสียงขายได้อยู่ จะยอมทำงานเงียบๆ จางๆ ไปเรื่อยๆ หรือไม่
หรือจะรอออฟเฟอร์จากสโมสรดีกว่า
เป็นการตัดสินใจยากอยู่เหมือนกัน ซึ่งในที่นี้ รวมถึงโค้ชรายอื่นด้วย หากยินดีมารับงานคุมทีมชาติไทยชุด 23 ปี เท่ากับว่าจะเฟดตัวจากวงการไปเลย แล้วก็ตัดโอกาสทำสโมสรอื่นไปด้วย
เหมือนอย่างช่วงเวลาของ “โค้ชหระ” ที่เขาต้องปัดข้อเสนอของสโมสร เพื่อมาทำทีมชาติไทย แต่ยุคของโค้ชหระ อยู่ในช่วงสุกดิบจะคัดโอลิมปิกเกมส์ ก็ยังมีอะไรให้ทำเยอะนะ
วิเคราะห์ความเป็นได้ ถ้าจะหาเฮดโค้ชทีมไทย 23 ปี ตอนนี้ บุคคลที่มา ไม่น่าจะเป็น “บิ๊กเนม”
อาจจะต้องใช้งานกุนซือระดับที่ผึ้งงาน โปรไฟล์ไม่สูง แต่ดูแลกันได้
ส่วนเรื่องนโยบาย แนวทางทำทีม ก็มี มาซาทาดะ อิชิอิ อยู่แล้ว ที่คอยส่งมอบไอเดีย วิธีการให้ไปฝึก ไปซ้อม หรือเตรียมทีม
เอ๊ะ หรือจะตัดสินใจแต่งตั้ง อิชิอิ ควบไปเลย ก็ไม่ติดขัดอะไร ในเมื่อทีมชุดใหญ่ ในปีนี้มีแต่อุ่นเครื่อง กับชิงแชมป์อาเซียนเท่านั้น เผลอๆ ชิงแชมป์อาเซียน จะผสมชุด 23 ปี ไปแข่งด้วย
แล้วตั้งใครสักคนนึง เป็นมือขวา ไปเน้นดูทีมหนุ่ม
ทีม 23 ปี งานไม่ค่อยมี ส่วนชุดใหญ่ก็ไม่ชุก ดังนั้นจึงไม่น่ามีปัญหา หาก อิชิอิ จะนั่งควบ 2 เก้าอี้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ หลายชาติก็ทำกัน
การดูนักเตะ ทั้งในไทยลีก และ ลีก 23 ปี(ถ้ามันจะเกิดขึ้นจริง) อิชิอิ ก็ไปดูได้อยู่แล้ว หรือไม่ก็ฝากทีมงานไปส่องลีก 23 ปี
ทำงาน 2 ทีมแบบนี้ไปก่อน ได้ดูนักเตะวงกว้างด้วย
แล้วพอถึงปีหน้า ถึงช่วงงานชุกจริงๆ ค่อยมาว่ากันใหม่ ว่าจะควบยาวไปเลย หรือจะตั้งกุนซือยู 23 อีกครั้ง
น่าจะเป็นแนวทางที่ไม่ซับซ้อน แล้วก็น่าจะลื่นไหลไปได้สวยเหมือนกัน.
*** วุฒินล บุญวานิช ***
