เมื่อไปพบแพทย์ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ หากท่านมีอาการคันบริเวณขนบริเวณหัวหน่าวที่ไม่หายไป ให้ไปพบแพทย์ ท่านอาจมีสภาพผิวหนังหรือการติดเชื้อที่จะดีขึ้นเมื่อได้รับการรักษาเท่านั้น ท่านควรไปพบแพทย์หากท่านมีอาการคันในที่ลับพร้อมกับอาการเหล่านี้
– มีไข้
– ปวดเมื่อยหรือปวด
– แดงหรือบวม
– ผิวหนังแตกและมีเลือดออก
– ผื่นหรือแผลที่ไม่หายหรือสามารถแก้ไขได้
– มีสารคัดหลั่งผิดปกติจากอวัยวะเพศชายหรือช่องคลอด
– ปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์หรือปัสสาวะ
– ผื่นที่ลามเกินขาหนีบ
แพทย์จะวินิจฉัยว่าขนหัวหน่าวมีอาการคันอย่างไร?
เพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคันขนบริเวณหัวหน่าว โดยทั่วไปแพทย์ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจะทำการตรวจกระดูกเชิงกรานเพื่อระบุสัญญาณทางกายภาพของการติดเชื้อที่ผิวหนัง สภาพผิวหนัง หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เหาสามารถวินิจฉัยได้โดยการค้นหาเหาทางกายภาพในขนบริเวณหัวหน่าวหรือบริเวณอื่น ๆ ของขนตามร่างกาย ผู้ให้บริการจะถามเกี่ยวกับอาการ ประวัติ การรักษาพยาบาล และกิจกรรมทางเพศของท่าน เพื่อช่วยวินิจฉัยอาการบางประการ
ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพอาจสั่งการตรวจวินิจฉัยเพื่อช่วยขจัดการติดเชื้อ โรคภูมิแพ้ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงการทดสอบเชื้อรา : ต้องทำการตรวจตกขาวทางช่องคลอดโดยใช้อุปกรณ์เช็ดแล้วนำมาดูด้วยกล้องจุลทรรศน์เพื่อระบุเซลล์เชื้อราที่ทำให้เกิดการติดเชื้อยีสต์
การทดสอบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ผู้ให้บริการสามารถระบุโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้โดยการตรวจเลือด ปัสสาวะ หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดช่องคลอด ปากมดลูก องคชาต หรือท่อปัสสาวะ
การตรวจชิ้นเนื้อผิวหนัง : การตรวจชิ้นเนื้อช่วยระบุสภาพผิวหนังและการติดเชื้อ โดยการขูดบริเวณผิวหนังหรือส่วนหนึ่งของผื่นออกไปแล้วตรวจดูภายใต้กล้องจุลทรรศน์
การทดสอบภูมิแพ้ :
ผู้ให้บริการจะทำการทดสอบภูมิแพ้ผิวหนัง โดยการปิดสารทดสอบลงบนแผ่นหลัง เพื่อค้นหาสารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดผื่นผิวหนัง หรือใช้สารก่อภูมิแพ้ที่อาจเกิดขึ้นกับบริเวณเล็ก ๆ ของผิวหนัง และมองหาปฏิกิริยาเพื่อตรวจสอบปฏิกิริยาภูมิแพ้หรือระคายเคือง.
………………………………………….
ศ.น.ท.ดร.นพ.สมพล เพิ่มพงศ์โกศล
คลินิกสุขภาพชาย หน่วยศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะ
ภาควิชาศัลยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
