กรณีการทำ ’คอนเทนต์ห่าม ๆ“ ในไทย ’นับวันดูจะยิ่งเยอะ!!“ และบ่อยครั้งที่ส่อแวว “ส่งผลเสียต่อภาพรวม” ด้วย!!… อย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้คอนเทนต์ของยูทูบเบอร์รายหนึ่งก็ถูกชาวโซเชียลไทยดาหน้าถล่มว่า ไม่เพียงไม่สร้างสรรค์?…ยังทำให้ประเทศไทยขายขี้หน้าด้วย? โดยถูกชาวโซเชียลประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีดราม่ามาตลอดกับไทย นำคอนเทนต์นี้ไปขยายผลเพื่อหวัง “เบลมไทย” ทั้งนี้ หากดูกันในภาพรวม ๆ กับกรณี ’คอนเทนต์ไม่สร้างสรรค์“ ก่อนหน้านี้สังคมไทยก็มีเสียงเซ็งแซ่บ่อย ๆ จาก “คอนเทนต์ห่าม ๆ” และดูเหมือนการที่สังคมไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัลออนไลน์เต็มตัวอย่างเช่นตอนนี้…

ยิ่งเกิด ’กระแสวิจารณ์อื้ออึงเซ็งแซ่“…
ถึงประเด็น ’การสร้างคอนเทนต์ห่าม“
ที่นับวัน ’ยิ่งสุ่มเสี่ยงล่อแหลมมากขึ้น“

เกี่ยวกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ “การสร้างคอนเทนต์” ที่มีเนื้อหา “สุ่มเสี่ยงล่อแหลม” ของ “ยูทูบเบอร์” นั้น มีดังอื้ออึงเป็นระยะ ๆ โดยมีผู้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้น่าสนใจเช่นกันว่า… สาเหตุที่ทำให้เนื้อหาที่ดูไม่ค่อยสร้างสรรค์เท่าใดเหล่านี้ “เกลื่อนโลกออนไลน์” ส่วนหนึ่งก็น่าจะ ’เป็นผลพวงจากการแข่งขันดุเดือด“ ของผู้ที่อยู่ในวงการนี้ โดย “ปัจจัยรายได้” กับ “ปัจจัยความมีชื่อเสียง” นั้นก็เกี่ยวโยงจนแทบแยกออกจากกันไม่ได้ จึงทำให้ “ต้องแข่งกันสร้างฐานแฟนคลับ” จำนวนมาก ๆ…

เพื่อให้ได้ยอดไลก์มียอดติดตามสูง

ทั้งนี้ เกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ ก็เคยมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารการตลาดได้วิเคราะห์และสะท้อนไว้ถึงกรณี “คอนเทนต์ของยูทูบเบอร์ในปัจจุบัน” โดยสะท้อนเรื่องกรณีนี้ผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้ในช่วงที่เกิด ’ดราม่าอื้ออึง!!“ขึ้นบ่อย ๆ ซึ่งมาถึงตอนนี้การวิเคราะห์นี้ก็ยิ่งน่าคิด โดยทาง ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการหลักสูตร aMBA (Analyst MBA) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผู้เชี่ยวชาญการสื่อสารการตลาด ระบุไว้ว่า… ด้วยความที่รายได้กับปัจจัยความมีชื่อเสียงเกี่ยวโยงกันจนแทบแยกไม่ได้ เพราะเมื่อมีชื่อเสียง เมื่อ เป็นคนดัง สิ่งที่ตามมาคือ รายได้หลั่งไหลเข้ามา สู่ยูทูบเบอร์…

ยูทูบเบอร์จึงต้องแข่งขันกันดุเดือด
เพื่อดึงให้คนสนใจให้ได้มากที่สุด!!

ทางผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารการตลาดท่านดังกล่าวยังระบุไว้อีกว่า… สถานการณ์เรื่องนี้ดูจะยิ่งน่าเป็นห่วงมากเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆเพราะนับวัน “คอนเทนต์ล่อแหลม” ใน “ตลาดยูทูบเบอร์” ดูจะเป็นประเด็น-เกิดกระแสเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการ ’ทำคอนเทนต์ที่มุ่งให้คนด่า“ ที่ต้องยอมรับว่า มีคนผลิตคอนเทนต์ภายใต้แนวคิดที่ว่า…’ยิ่งถูกด่าก็ยิ่งดัง“ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ดูเหมือนว่า “คอนเทนต์ล่อแหลมเป็นแนวที่มาแรง??” ส่งผลให้มีคอนเทนต์แบบนี้เกลื่อนโซเชียล!!

และกับการสะท้อน “ปรากฏการณ์” กรณีนี้เรื่องนี้ ดร.ภูษิต ก็ได้ฉายภาพผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้อีกว่า… ตอนนี้เป็นยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสูงกับผู้คน และก็เป็นตลาดการค้าใหม่ ทำให้ ใคร ๆ ก็อยากก้าวสู่โลกการเป็นยูทูบเบอร์ เพราะนอกจากความสนุกสนาน-ความบันเทิงแล้ว ในยุคโซเชียลมีเดียแบบนี้…ยูทูบเบอร์ก็เป็นอาชีพ” โดยมีเรื่องของ “เม็ดเงินรายได้” และพ่วง “ความมีชื่อเสียง” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ยุคนี้ใคร ๆ ก็อยากเป็นยูทูบเบอร์…

ปัจจัยรายได้ กับปัจจัยความมีชื่อเสียงนั้น สาเหตุที่ทั้ง 2 เรื่องนี้เกี่ยวโยงกัน ก็เพราะเมื่อมีชื่อเสียง-เป็นคนดัง สิ่งที่จะตามมาก็คือรายได้ ทั้งในรูปของ ’เม็ดเงินสนับสนุนการทำคอนเทนต์“ รวมถึง ’รายได้จากการรีวิว“ จึงทำให้เหล่ายูทูบเบอร์ หรือบล็อกเกอร์ มีการแข่งขันกันดุเดือด เพื่อดึงให้คนเข้ามาสนใจ… และนอกจากนี้ทาง ดร.ภูษิต ยังระบุถึงกรณี “แหล่งรายได้” ไว้อีกว่า… รายได้ของยูทูบเบอร์” นั้นมีทั้ง “รายได้ทางตรง” และ “รายได้ทางอ้อม” โดยรายได้ทางตรงของยูทูบเบอร์จะมาจาก “ยอดวิวยอดติดตาม” ซึ่งจำนวนยอดวิวมีส่วนสำคัญต่อรายได้ส่วนนี้ ที่ยิ่งมีคนดูมาก เม็ดเงินก็จะยิ่งมากขึ้น…

ขณะที่ในส่วนของรายได้ทางอ้อมนั้น หลายคนอาจคิดว่ารายได้ทางตรงน่าจะมีเม็ดเงินมากกว่า แต่ความเป็นจริงกลับเป็นรายได้ทางอ้อมที่ได้มากกว่า เพราะเป็นเม็ดเงินจาก ’สปอนเซอร์“ ที่ติดต่อ ’ซื้อโฆษณา“ โดยสิ่งที่สปอนเซอร์ใช้ตัดสินใจซื้อโฆษณาก็มักพิจารณาที่ “ยอดวิวยอดติดตาม” ดังนั้น ยิ่งรายการดัง-ช่องดัง…ก็จะยิ่งสนใจ และก็ยังมีอีกหนึ่งแหล่งรายได้ คือ “ค่าตัวยูทูบเบอร์” ที่จะมาจากการถูกเชิญไป โชว์ตัวงานอีเวนต์ต่าง ๆซึ่งเมื่อเป็นยูทูบเบอร์ที่มีชื่อเสียง ที่มีกลุ่มแฟนคลับติดตามจำนวนมาก ก็มีโอกาสจะมีรายได้จากงานลักษณะนี้ ที่ทำให้ยิ่งมีชื่อเสียง-เป็นจุดสนใจ ไม่ต่างจากดารา-ศิลปิน

ทั้งนี้ ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล ยังสะท้อนกรณี ’คอนเทนต์หมิ่นเหม่มีเกลื่อน“ ไว้ว่า… ด้วยความที่ตลาดยูทูบเบอร์ตอนนี้ ในสนามมีผู้เล่นเยอะ จึงทำให้ยูทูบเบอร์ต้อง ’แข่งกันทำคอนเทนต์แปลกใหม่“ เพื่อเพิ่มโอกาสการแย่งชิงยอดจากยูทูบเบอร์คนอื่น ๆ เพราะทุกวิวที่ได้มาคือเม็ดเงินที่วิ่งเข้าหานั่นเอง จนบางครั้งก็มีที่ ’เลยเถิดเกินไป“ เช่น คอนเทนต์เสี่ยงอันตราย ขายความเสี่ยง หรือเน้นขายความหวือหวา ที่หลัง ๆ พบคอนเทนต์แบบนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะตลาดแข่งขันกันสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งกับเรื่องนี้ ’ก็น่าเป็นห่วงไม่น้อย!!“ …นี่เป็นอีกส่วนจากการวิเคราะห์ไว้ ที่ตอนนี้ยิ่งน่าคิด

’คอนเทนต์สร้างสรรค์“ ก็ ’ทำกันมาก“
ทว่า ’คอนเทนต์หมิ่นเหม่อื้ออึงกว่า“…
’ทำให้คนด่าเพื่อหวังดัง…ฮิตซะงั้น!!“.