ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีคุณสมบัติ อาทิ ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ, ไม่เป็นบุคคลอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอ หรือทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ, ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงาน, ต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางรถไฟ วงเงินไม่น้อยกว่า 4,313,850,000 บาท  ต้องเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชนที่ รฟท. เชื่อถือ

และผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้า ต้องมีนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยเป็นผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) โดยสมาชิกทุกรายที่รวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้านั้นต้องเป็นนิติบุคคล และมีสัดส่วนนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือมากกว่าหนึ่งรายรวมกันในการร่วมค้ามากกว่า 50% เป็นต้น

เบื้องต้นรฟท. วางแผนลงนามสัญญากับเอกชนผู้ชนะประมูลได้ในปลายปี 2567 และให้เริ่มก่อสร้างทันที  เพื่อเปิดบริการได้ประมาณปี 2570-2571

ใจความสำคัญของรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย   ถูกจัดไว้เป็นอันดับที่ 1 ของโครงการรถไฟทางคู่เฟส2 (ทั้งหมด 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,479 กม. วงเงิน 275,301 ล้านบาท)  ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย  ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี( ครม.) ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2566  เพื่อเชื่อมโครงการรถไฟทางคู่เฟสแรกช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น  ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง(โครงการรถไฟทางคู่เฟสแรกมี 7 เส้นทาง รวม 993 กม. วงเงินรวม 1.2 แสนล้านบาท) 

รถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย  จะเชื่อมต่อเส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-สระบุรี-ฉะเชิงเทรา- แหลมฉบัง-มาบตาพุด   ทำให้โครงข่ายทางรางของประเทศไทยมีความสมบูรณ์มากขึ้น  เพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งทางราง  ช่วยลดอุบัติเหตุทางถนน ลดมลพิษ ลดต้นทุนการขนส่งสินค้า สามารถประหยัดการใช้พลังงานของประเทศได้ในระยะยาว  สนับสนุนการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางรางระหว่างประเทศไทย, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และประเทศจีน

ตลอดเส้นทางยาว 169 กิโลเมตร(กม.) ต่อจากรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น  (เฟส1) จุดเริ่มต้นโครงการกม.454+000 ที่สถานีขอนแก่น และสิ้นสุดกม.623+000 ที่สถานีหนองคาย  เป็นโครงการก่อสร้างทางรถไฟใหม่ขนาดทาง 1.00 เมตร เพิ่มขึ้น 1 ทาง ขนานไปกับเส้นทางรถไฟเดิม ส่วนใหญ่เป็นทางระดับดิน ระยะทาง 159.5 กม. เป็นทางยกระดับ 2 แห่ง  ระยะทาง 9.5 กม. มี 15 สถานี 2 ที่หยุดรถ โดยเป็นชานชาลาสูงทั้งหมด  มีการก่อสร้างย่านกองเก็บตู้สินค้า(CY) 3 แห่ง ที่สถานีโนนสะอาด พื้นที่ขนาด 10,500 ตารางเมตร(ตร.ม.), สถานีหนองตะไก้ 21,750 ตร.ม. และสถานีนาทา 19,000 ตร.ม.    พร้อมก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงเบาที่สถานีหนองคาย และยกเลิกจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับทุกแห่ง  ก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ 31 แห่ง ถนนลอดใต้ทางรถไฟ 53 แห่ง และก่อสร้างรั้วตลอดแนวเส้นทางรถไฟ

มีแนวเส้นทางเชื่อม 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น, อุดรธานี และหนองคาย มีสถานี และที่หยุดรถ ประกอบด้วย สถานีขอนแก่น, สถานีสำราญ, สถานีโนนพยอม, ที่หยุดรถบ้านวังชัย, สถานีน้ำพอง, สถานีห้วยเสียว, สถานีเขาสวนกวาง, สถานีโนนสะอาด, สถานีห้วยเกิ้ง, สถานีกุมภวาปี, สถานีห้วยสามพาด, สถานีหนองตะไก้, ที่หยุดรถคำกลิ้ง, สถานีหนองขอนกว้าง, สถานีอุดรธานี, สถานีนาพู่, สถานีนาทา และสถานีหนองคาย

โครงการมีการเวนคืนที่ดินรวมประมาณ 184 ไร่ ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 369 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน หรือ 3 ปี  ในปีแรกของการเปิดบริการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่  3,300 คนต่อวัน และเพิ่มขึ้นเป็น 5,500 คนต่อวันในปีที่ 30 ขณะที่ปริมาณการขนส่งสินค้าอยู่ที่ประมาณ 3.30 ล้านตันต่อปีในปีแรก และเพิ่มขึ้นเป็น 4.20 ล้านตันในปีที่ 30

ส่วนอีก 6 เส้นทางของโครงการทางคู่เฟส2นั้น  ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2567 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการ 3 เส้นทางลอตสุดท้าย ระยะทาง 678กม. วงเงินรวม 1.64 แสนล้านบาท  ประกอบด้วย 1.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 30,422 ล้านบาท 2.ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 66,270 ล้านบาท และ 3.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงิน 68,222 ล้านบาท  จะเสนอกระทรวงคมนาคมภายในเดือน มิ.ย. 2567 ก่อนเสนอครม. อนุมัติประมาณเดือน ก.ค.-ต.ค.2567

ขณะที่  3 เส้นทาง ได้แก่ 1.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. วงเงิน 81,143 ล้านบาท 2.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 44,103 ล้านบาท และ 3.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 7,900 ล้านบาท  บอร์ดรฟท. เห็นชอบไปก่อนแล้ว  กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอครม.อนุมัติภายในปี 2567 เช่นกัน  

ประชาชนรับรู้ว่ารถไฟทางคู่เฟส1-2 รวม 14 เส้นทางทั่วประเทศ 2,472  กม. หากก่อสร้างเสร็จจะ ช่วยลดระยะเวลาการเดินทางและขนส่งสินค้าได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นแน่นอนไม่ต้องรอสับหลีก …..แต่นั่นหมายความว่า  ต้องมีรถไฟโดยสารใหม่ๆ  มาให้บริการประชาชนด้วย… ไม่ใช่สร้างแต่ทางคู่ทิ้งไว้แต่ขาดแคลนรถเหมือนทุกวันนี้.

—————
นายสปีด

คลิกอ่านบทความทั้งหมดที่นี่

***ห้ามคัดลอกเนื้อหาในบทความและนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต