ปัจจุบัน “วัว” ในประเทศล้นตลาด! จากปัญหากำลังซื้อหดตัว! รัฐบาลโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จึงสั่งระงับ! ไม่ให้มีการนำเข้าวัวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย ขณะเดียวกันได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเจรจากับทางการจีน-ซาอุดีอาระเบีย เพื่อนำเข้าวัวจากประเทศไทย

วันก่อน “พยัคฆ์น้อย” มีโอกาสสนทนากับนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงทราบว่าขณะนี้มีสัญญาณดีกับเกษตรกรผู้เลี้ยงวัว เนื่องจากทางการซาอุฯ เปิดไฟเขียวให้นำเข้าวัว-แกะ-แพะ จากประเทศไทยได้แล้ว!

นายชัยบอกว่าตัวเขาและพรรคเพื่อไทย มองหาตลาดส่งออกวัว ตั้งแต่ยังไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากเกษตรกรทั่วประเทศเลี้ยงวัวกันมาก รัฐบาลในอดีต-ปัจจุบัน มีโครงการสนับสนุนส่งเสริมด้วย เช่น โครงการวัวล้านตัว, โครงการวัวแสนล้าน

ดังนั้นจึงต้องมีตลาดในต่างประเทศไว้รองรับ ถ้าตลาดในประเทศถึงทางตัน! เพราะกำลังซื้อในประเทศมีปัญหา ทำให้วัวมีราคาตกต่ำ!

ปีที่แล้วนายกฯเศรษฐาไปจีน แล้วไปต่อที่ซาอุฯ ได้มีการหารือกันเรื่องนำเข้าวัว เพราะสองประเทศนี้มีความต้องการบริโภคเนื้อวัวมาก ขณะที่รัฐบาลชุดนี้ทำงานกันเป็นทีม ตั้งแต่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ และกรมปศุสัตว์

สำหรับตลาดจีนนั้น ที่ผ่านมาอาจมีการลักลอบนำเข้าวัวเข้าไป ซึ่งแน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายรายทางสูงมาก สุดท้ายก็ไปไม่รอด! สู้มาเจรจาเพื่อนำเข้าให้ถูกต้องดีกว่า เพราะขณะนี้การเจรจาระหว่างทางการจีนและกรมปศุสัตว์มีแนวโน้มไปในทางที่ดี มีการตอบคำถามในประเด็นต่าง ๆ ที่จีนสนใจ ส่วนไทยได้ยื่นข้อเสนอการส่งออกวัวไปจีน โดยไม่ต้องผ่าน สปป.ลาว เพื่อกระชับเวลา และลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ลงไป

ส่วนตลาดซาอุฯนั้น เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 67 นายกฯเศรษฐาได้ต้อนรับ ดร.มาญิด บิน อับดุลเลาะฮ์ อัลกอเศาะบี รมว.พาณิชย์ ของซาอุฯในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการย้ำเกี่ยวกับความร่วมมือทางด้านการปศุสัตว์ระหว่าง 2 ประเทศ

จนกระทั่งวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับหนังสือแจ้งว่ากระทรวงสิ่งแวดล้อม น้ำ และการเกษตร ของซาอุฯ ได้อนุญาตให้นำเข้าปศุสัตว์มีชีวิต (วัว แกะ แพะ) เพื่อเชือดและเลี้ยง จากประเทศไทยได้แล้ว โดยการใช้หนังสือรับรองสุขภาพสัตว์ (Veterinary Health Certificate) เพื่อส่งออกปศุสัตว์มีชีวิตที่ได้รับอนุมัติก่อนหน้านี้ระหว่างทั้งสองประเทศ

โดยผู้นำเข้าและส่งออก สามารถขอรับใบอนุญาตนำเข้าปศุสัตว์มีชีวิตผ่านแพลตฟอร์ม (NAAMA) ของกระทรวงสิ่งแวดล้อม น้ำ และการเกษตร ของซาอุฯ และผู้เกี่ยวข้องสามารถประสานงานเรื่องนี้กับดอกเตอร์ (ระบุชื่อมาให้พร้อม) จากศูนย์ป้องกันและควบคุมศัตรูพืชและโรคสัตว์แห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ และไปรษณีย์อิเล็ก ทรอนิกส์ ตามที่แจ้งมา

นายชัยยืนยันอีกว่า ซาอุฯ มีความต้องการนำเข้าวัวจากต่างประเทศประมาณปีละ 1 ล้านตัว แพะ-แกะ-อูฐ รวมกันอีกปีละ 7 ล้านตัว ดังนั้นจึงถือว่าเป็นครั้งแรกที่ซาอุฯ ไฟเขียวให้ประเทศไทย เป็นโอกาสดีของเกษตรกรผู้เลี้ยงวัว-แพะ-แกะ และผู้ส่งออก เพราะถ้าเราเจาะตลาดซาอุฯได้ เหมือนเป็นประตูบานใหญ่ขยายไปสู่ประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลางด้วย!!.

…………………………….
พยัคฆ์น้อย

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…