@ภาพใหญ่ของประเทศไทย ต้องเริ่มที่เรื่องของ”การเมือง” เมื่อ”ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าสู่ขบวนการของ”กฎหมาย” ได้รับการ”ประกันตัว” เพื่อต่อสู้คดี  ต่อไปนี้ความสนใจในเรื่องของ”ทักษิณ ชินวัตร”ในเรื่องของ”คดี 112 ก็คงจะลดน้อยลง เพราะเรื่องของ”คดีความ” ที่อยู่ใน”ขบวนการของศาลสถิตย์ยุติธรรม” คงจะไม่”สิ้นสุด” ในเร็ววัน ที่ต้องติดตามคือหลังจากที่”ทักษิณ ชินวัตร” ได้ประกันตัว “บทบาท” ในทาง”การเมือง”ของ”อดีตนายกทักษิณ” ยังจะ”หวือหวา” อย่างที่ผ่านมาหรือไม่ หรือต้อง”สงบเสงี่ยม” เพราะมี”ดีล” อะไรบางอย่าง อย่างที่”กูรูทางการเมือง” มีความเห็น  แต่ เชื่อเถอะ คนอย่าง”ทักษิณ ชินวัตร” อยู่นิ่งไม่เป็น และ อุปนิสัย”ปากไว” คิดเร็ว ทำเร็ว” เป็นของ”ติดตัว” ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เชื่อว่าหลังจากนี้ “ทักษิณ” คือ” พยัคฆ์เสียบปีก” ที่พร้อม”ทะยาน”ในเรื่องของ”การเมือง” เป็น”หัวหน้าพรรคตัวจริง”ของพรรคเพื่อไทย รวมทั้งอาจจะเป็น”นายกตัวจริง” ในการ”ขับเคลื่อน” ประเทศไทย ให้พ้นจาก”เศรษฐกิจ”ที่”ดิ่งเหว” รวมทั้งการ”ต่อสู้” กับ”พรรคก้าวไกล” ที่วันนี้”ทุกโพล” ที่มีการ”สำรวจ” ออกมา “คะแนนเสียง” ของ”ก้าวไกล” ยัง”นำโด่ง” ทิ้งห่างทุกพรรคการเมือง……

@ผลการ”วินิจฉัย” ของ”ศาลรัฐธรรมนูญ” เกี่ยวกับเรื่องการ”เลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา” ว่า”กฎหมายลูก” ขัดกับ”รัฐธรรมนูญ” หรือไม่ จากการ”ยื่นเรื่อง”ของ สว.ชุด “รักษาการ” ที่ “กำลังหมดอำนาจ” ให้”ตีความ” และ”ศาลรัฐธรรมนูญ” ก็ได้”วินิจฉัย”ว่า การ”เลือกตั้ง “สมาชิกวุฒิสภา” ที่ผ่านมาแล้ว 2 ขั้นตอน”ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ”……ก็ต้องติดตามกันอย่าง”ไม่กระพริบตา” ถึง”ขบวนการ”ของการ”ขับเคลื่อน” ก่อนที่จะถึงวันที่ 26 มิถุนายน ที่จะมีการ”เลือกตั้ง” ในรอบการ”ตัดเชือก” ว่าจะมีการ”แจกกล้วย” เพื่อการ”กวาดต้อน” ผู้สมัคร” ให้เข้า”สังกัด” เพื่อทำหน้าที่เป็น”โหวดเตอร์” ให้กับผู้ที่ต้องการเป็น”สว. หรือไม่ประการใด และที่สำคัญถ้าเรื่องการ”จัดตั้ง” และการ”แจกกล้วย”เป็นเรื่องจริง” คณะกรรมการ การเลือกตั่ง” หรือ” กกต. จะจัดการอย่างไร หรือ “กกต.เป็นได้แค่”ตรายาง” ของการ”เลือกตั้ง เท่านั้น แต่ก็ถือว่าการ”วินิจฉัย” ของ”ศาลรัฐธรรมนูญ” เป็นคุณกับประเทศ ที่ไม่ทำให้การ”เดินหน้า”ของประเทศไทยต้องติด”บ่วงแร้ว” ทาง”การเมือง” ซึ่งจะนำมาถึงความ”โกลาหล” ครั้งใหญ่……

@ส่วนการ”ตัดสิน”ในเรื่องที่”เศรษฐา ทวีสิน” ถูก”กล่าวหา” ว่าทำผิด”กฎหมายรัฐธรรมนูญ” ในการแต่งตั้ง”พิชิต ชื่นบาน” ให้เป็น”รัฐมนตรีสำนักนายก” “ศาลรัฐธรรมนูญ เลื่อนไป”พิจารณา” ในวันที่ 10 กรกฎาคม กลายเป็นเรื่องการ”ทอดเวลา” ให้ทั้ง”กูรูทางการเมือง” และ”กูรูทางกฎหมาย” โดยเฉพาะกลุ่มที่”หิวแสง” ได้แสงความ”คิดเห็น” กันอีกหลายวัน แต่”หลายฝ่าย” เชื่อว่า” เศรษฐา ทวีสิน” ยังอยู่รอด”ปลอดภัย” ในตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” ตาม”รัฐธรรมนูญ”…..สำหรับ”ก้าวไกล” ที่ยังมีการ”รอลุ้น” การ”พิพากษา” จาก”ศาลรัฐธรรมนูญ” ในวันที่ 3 กรกฎาคม ว่าจะถูก”ยุบพรรค” หรือจะได้”ไปต่อ” นั้น “สดับตรับฟัง” จากเสียงส่วนใหญ่ มีความเห็นไปใน”ทิศทางเดียวกัน”ว่า “ผิด ตก ยกเว้น” ไม่มีการกล่าวถึง เพราะ”มีธง” ที่”ชัดเจน” ให้มีการ”ยุบพรรคก้าวไกล” ส่วนถ้าคำ”พิพากษา” ให้”ก้าวไกล” ได้”ไปต่อ” โดยไม่มีการ”ประหารชีวิต” ทั้ง”หมอดู และ”โหรานุโหร” ก็จะกลายเป็น”ไอ้ห้อยไอ้โหน” เช่นเดียวกับ”กูรูทางการเมือง” ก็จะ”หน้าแหก” แบบที่”หมอไม่รับเย็บ” กันทั้งประเทศ……

@เรื่อง”น้ำมันเถื่อน” เรื่องการ”โจรกรรม” เรื่องของกลางที่เป็นเรือ”บรรทุกน้ำมันเถื่อน” จาก”สถานีตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี นำ น้ำมันไปขายที่ประเทศกัมพูชา และเตรียม”ดัดแปลงเรือ” เพื่อใช้ใน”กิจการค้าน้ำมันเถื่อน”ต่อไป  เรื่องนี้เป็นเรื่อใหญ่เป็น”ข่าวดัง” และเป็นความ”อัปยศ”ของวงการ”ตำรวจน้ำ” ซึ่งในการที่”เรือของกลาง” ทั้ง 3 ลำ พร้อม”ลูกเรือ” จำนวน 16 คน ที่”หลบหนี” ไปจากที่ทำการ”ตำรวจน้ำสัตหีบ” จะมี”คนในเรื่องแบบ” รู้เห็นเป็นใจกับ”นายทุน” หรือไม่นั้น”บิ๊กเต่า” พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” บอกกับ”นักข่าว” ว่า มีการตั้ง”คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง” และจะมีการ”ตรวจสอบเส้นทางการเงิน”ด้วย ฟังได้แต่บอกตรงๆว่า”ไม่ค่อยเชื่อ” เพราะยังจำได้ดี และยัง”เก็บหลักฐาน” ที่เป็น”รายชื่อ” ของ”คนในเครื่องแบบ” จำนวน 4  แผ่นกระดาษ เอ 4  จำนวน 20 กว่าราย ที่มีทั้ง ชื่อ ยศ ตำแหน่ง หมายเลขบัญชีธนาคาร จำนวนเงินในการ”จ่ายส่วย” ในแต่ละเดือน และบางรายมีชื่อ”ภรรยา” ของ”ข้าราชการ” ระดับ”นายพล” และระดับ”ผู้อำนวยการ” ทั้งที่เป็น”ศุลกากร” และ”สรรพสามิต” ที่ยึดได้จากบ้านของ”เสี่ยโจ้” นายสหชัย เจียรเสริมสิน” ที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งผู้ที่”ตรวจค้น” และ”จับกุม” คือ” พล.อ.จตุพร กลัมพสุต” อดีต รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในฐานะของผู้รับผิดชอบ”ภัยแทรกซ้อน” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้  แต่”บัญชีรายชื่อ” ทั้งหมดที่ยึดได้จากบ้านของ”เสี่ยโจ้” กลายเป็น”กระดาษชำระ” เพราะไม่มีการใส่ใน”สำนวนการสอบสวน” เพื่อหา”ข้อเท็จจริง” ขนาดมี”หลักฐานทนโท่” ยังไม่มีการ”เอาผิด” แล้วยังประสาอะไรจะไป”สืบสวนเส้นทางการเงิน” คนที่รับ”ส่วยสาอากร” จากผู้”ค้าน้ำมันเถื่อน” คงจะไม่”โง่เง่าเต่าตุ่น” ให้”สืบค้น” เพื่อเป็น”หลักฐาน” ในการ ผูกมัดตนเอง…..

@เรื่องการ”สืบสวนสอบสวน” เพื่อหา”คนผิด” ในเรื่อง”น้ำมันเถื่อน” ที่ ถูก “ตำรวจน้ำ” จับกุมได้ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี สิ่งที่” บิ๊กเต่า” และ” ผู้บังคับการตำรวจน้ำ” ไม่ได้ให้รายละเอียดกับ”ประชาชน” คือ” เรื่องทั้ง 3 ลำ เป็นของใคร  เพราะเรือทั้ง 3 ลำนี้ที่ถูก”จับได้” วิ่งบรรทุกน้ำมันเถื่อน อยู่ใน”น่านน้ำภาคตะวันออก” มาหลายปี ย้อมมี”เจ้าของ” ที่อยู่ในพื้นที่ จ.ระยอง หรือไม่ก็ ชลบุรี เป็นไปได้หรือที่”ตำรวจ” จะไม่รู้ว่าใคร”เป็นเจ้าของเรือ” และเป็นไปได้หรือที่”ตำรวจน้ำ” ในพื้นที่จะไม่รู้ว่า “น้ำมันเถื่อน” ที่อยู่ในเรือ”เป็นของใคร” เป็นไปได้หรือที่”ตำรวจน้ำ” และ หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้า”น้ำมันเถื่อน” ใน”ทะเลภาคตะวันออก” จะไม่รู้ว่า มี”เจ้าพ่อน้ำมันเถื่อน” คนไหนใน จ.ระยอง ที่” มีตั๋ว” ในการนำเข้า”น้ำมันเถื่อน” เดือนละ 5 ล้านลิตร เป็นใคร ขนาด”ตำรวจ”แค่”ยศจ่า” ยังรู้ดี เรื่องนี้มีหรือที่”บิ๊กก้อง” และ”บิ๊กเต่า” จะไม่รู้ ยกเว้น ไม่ต้องการ”แตะต้อง” และให้เรื่องทั้งหมดจบลงที่”เสี่ยโจ้” เพียงคนเดียว…..โดยข้อเท็จจริงในวงการ”ค้าน้ำมันเถื่อน” เสี่ยโจ้” เป็น”นายทุน” เจ้าของ”เรือแท็งค์เกอร์” ที่”ลอยลำ” ขายน้ำมันเถื่อน” ในน่านน้ำสากลของ”อ่าวไทย” โดยมีเรือ”ประมงดัดแปลง” จาก”ภาคใต้” ตั้งแต่ จ.นราธิวาส จนถึง”ภาคตะวันออก” จ.ชลบุรี,ระยอง ,ตราด” ของ”นายทุน” บนฝั่งของทุกจังหวัดในชายทะเลเป็น”ลูกค้า” ในการรับ”น้ำมันเถื่อน” จาก”เสี่ยโจ้” เพื่อนำ”ขึ้นฝั่ง” ดังนั้นคนที่”ทำผิด” จึงไม่ใช่”เสี่ยโจ้” เพียงคนเดียว แต่เป็น”กลุ่มทุน” จากทุกจังหวัดที่ติดชายทะเล”อ่าวไทย” ที่เป็น”ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน” เรื่องนั้น”ตำรวจ” ไม่พูดถึงเหมือนกัน การโยนความผิด” ให้”เสี่ยโจ้” เป็นการ”ปิดคดี” ที่ไม่”กระทบกับนายทุน” ที่เป็นผู้มี”อิทธิพล”และ สุดท้าย “เสี่ยโจ้” ก็พ้นจาก”ความผิด” เหตุผลคือ” เรือแทงค์เกอร์” ของ”เสี่ยโจ้” จอดใน”น่านน้ำสากล” ไม่ได้ทำ”ผิดกฎหมาย” ในประเทศไทย” เรือทั้ง 3 ลำ ไม่มีชื่อของ”เสี่ยโจ้” น้ำมันเถื่อนในเรือที่อ้างว่าเป็นของ”เสี่ยโจ้” ก็เป็นเพียงการ”สอบถาม”จาก”ลูกเรือ” แต่ไม่มี”หลักฐาน” ในการ”ยืนยันทางกฎหมาย”…..

@ที่สำคัญนาย”สิริชัย เจียรเสริมสิน” หรือ”เสี่ยโจ้” ที่ หนีหมายจับ” จาก”ประเทศไทย 2 คดี ได้เปลี่ยน”สัญชาติ”ไปถือ”สัญชาติ” ของ”กัมพูชา” ไปแล้ว เพราะมีผู้พบเห็น”เสี่ยโจ้” ในบ่อนคาสิโนที่”เก็นติ้ง” ประเทศมาเลเซีย และ”บ่อนคาสิโน “ ที่”เมืองโฮจิมินท์ซิตี้” ประเทศเวียดนามพบว่า”เสี่ยโจ้”ใช้”พาสปอร์ตของประเทศกัมพูชา” ในการเดินทาง  เชื่อเถอะ “คดีการค้าน้ำมันเถื่อน” และการโจรกรรมเรือและน้ำมันของกลาง” ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จบลงแบบ”ง่ายๆ” โดยให้”เสี่ยโจ้ ปัตตานี” เป็นผู้ที่”ทำผิด” แต่เพียงผู้เดียว “เอวังพอดี” ด้วยปะการะฉะนี้” จบข่าว……

@ก็ ชื่นชม นะ กับการที่” พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ประกาศต่อหน้า”ฑูตานุทูต” จำนวน 12 ประเทศ ที่เป็น”มุสลิม” ที่เดินทางมาเยือน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” แบบ”ชัดถ้อยชัดคำ”ว่า” แผ่นดินจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่แผ่นดิน”ดารุนฮารบี” หรือแผนดินที่มีความ”ขัดแย้งทางศาสนา” ซึ่งเรื่องนี้”อาซิส พิทักษ์คุมพล” อดีตจุฬาราชมนตรี” ผู้”ล่วงลับ” ก็เคยมีการ”ฟัตวา” ให้กับ บรรดาผู้ที่นับถือ”ศาสนาอิสลาม” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาแล้ว ก็หวังว่าการออกมา”ยืนยัน” ของ” บิ๊กต้น” พล.ท. ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ฯ ในครั้งนี้ จะทำให้บรรดา”นายู” ใน จังหวัดชายแดนภาคใต้”หูตาสว่าง” ไปตกเป็น”เครื่องมือ”ของ”ขบวนการแบ่งแยกดินบีอาร์เอ็น” ในการ”ปลุกระดม”หรือทำ”ไอโอ”โดยใช้”ศาสนา”เป็น”เครื่องมือ” เมื่อแผ่นดินของ”จังหวายแดนภาคใต้” ไม่ใช่แผ่นดิน”ดารุนฮารบี” เรื่องการสร้าง”นักรบพระเจ้า” กับผู้ที่ถูก”วิสามัญฆาตกรรม” จากการ”ต่อสู้” กับ”เจ้าหน้าที่”ก็เป็นเรื่องที่”ผิดหลักศาสนา”เช่นกัน …..และ ต่อมา “พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ “ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ได้ให้”สัมภาษณ์” กับ”สื่อมาเลเซีย” ถึงเรื่องการที่”มาเลเซีย” ปล่อยให้กลุ่มภาคประชาสังคม ที่เป็น”ปีกทางการเมือง”ของ”บีอาร์เอ็น” ใน”ประเทศไทย”ให้พื้นที่ของ”รัฐกลันตัน” และ”รัฐปีนัง” ในการจัด”กิจกรรม” ที่มีผลกระทบต่อ”ความมั่นคง” ของ”ประเทศไทย” เป็นการ”ติง” ไปยัง”รัฐบาลมาเลเซีย” เพื่อให้ได้”รับรู้” และให้มีการ”ตรวจสอบ” และ”ไม่อนุญาต” ให้มีการจัด”กิจกรรม” ที่เป็นภัยต่อ”ความมั่นคง” ของ”ประเทศไทย” ใน”ฐานะ”ที่”มาเลเซีย” เป็น”มิตรประเทศ” และเป็น”เพื่อนบ้าน” ที่มี”แนวชายแดน”ติดกัน ที่สำคัญวันนี้”ทั่วโลก” ต่าง”รับรู้” ว่า” มาเลเซีย” ให้การ”สนับสนุน” ขบวนการ”แบ่งแยกดินแดน” ทุกขบวนการ โดยการให้ใช้”พื้นที่”ของประเทศมาเลเซียเป็น”ฐานที่มั่น” โดย สำนักงานใหญ่ของ”บีอาร์เอ็น” อยู่ที่”รัฐกลันตัน”…..

@ขณะที่”พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์” แม่ทัพน้อยที่ 4 ก็มีการ”ล้อมคอก” ภายในพื้นที่ของ 3 จังหวัด 4 อำเภอของ จ.สงขลา มีการวาง”กติกา” กับ โรงเรียนตาดีกา ในการจัด”กิจกรรม” ต่างๆ ต้องแจ้งให้หน่วยงาน”ของรัฐ” ที่ รับผิดชอบโรงเรียนตาดีกา ได้รับรู้ล่วงหน้า เพื่อให้”กิจกรรม” ที่จะมีการจัดขึ้นอยู่ในกรอบที่ไม่”หมิ่นเหม่” หรือผิด”กฎหมาย” ที่เป็นภัยกับ”ความมั่นคง” ของประเทศ ถ้า” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” มีการ”ผนึกกำลัง”  และมี”แนวทาง” ที่มีความ”ชัดเจน” และกล้าที่จะ”พูดความจริง” และกล้าที่จะ”ขับเคลื่อน” ก็จะเห็นถึง”แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” พอที่จะเป็น”ความหวัง”ว่า”ไฟใต้” จะ”เบาบาง”ลง…..โดยเฉพาะเรื่องของการ”พูดคุยสันติสุข” ที่เรียกโดยฝ่ายไทย” และเป็นการ”เจรจาสันติภาพ” ที่เรียกโดย”บีอาร์เอ็น” ข่าวว่าทั้ง “ฝ่ายไทย” และ”รัฐบาลมาเลเซีย” มีความเห็นพ้องต้องกันว่า ต้องการ”เปลี่ยนตัว” ผู้ที่ทำหน้าที่”อำนวยความสะดวก” ในการ”พูดคุย” เพราะ”นายพลเฒ่า” อดีต “ผบ.ทบ.” ของ มาเลเซีย กำลัง”ทำเกินหน้าที่”ของ”ผู้อำนวยความสะดวก” เป็นผู้”ชี้แนะ” และ”วางกรอบ” ของการ”พูดคุย” ที่มาจาก”ความเห็นส่วนตัว” มากขึ้นมากๆ และก็เป็นข่าว”วงใน” เหมือนกันว่า  “ฝ่ายไทย” ก็อยากจะ”เปลี่ยนตัว” หัวหน้าคณะพูดคุยของไทยจาก”ฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็น”บุคคลอื่น” ซึ่งเป็นคนที่”เพื่อไทย” เลือกเอง ไม่ใช่มาจาก”ฝ่ายความมั่นคง” ที่ชี้ว่าจะต้องเป็น”คนของทหาร” เพราะ วันนี้”เพื่อไทย” มีความ”แข็งแกร่ง” มากขึ้น ไม่เหมือนกับที่ตอนตั้ง”รัฐบาล”ใหม่ๆ ที่อาจจะ”เอออวย”ทำตามที่” ทหาร” ต้องการ เพื่อรักษา”ความสัมพันธ์” อันดี ……

@ส่วนเรื่องที่”หนักใจ” ทั้ง”ผู้ที่เป็น”รัฐบาล” อย่าง”เพื่อไทย” และนายกรัฐมนตรี” อย่าง”เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน และ”คนไทย” ทั้งประเทศ คือเรื่อง”เศรษฐกิจ” และ”ปากท้อง” เพราะผ่านไปแล้วเกือบ 1 ปี ของ”รัฐบาล”ชุดนี้ ในเรื่องของ”เศรษฐกิจ” การค้า ,การลงทุน” ยังไม่มี”แสงสว่างที่”ปลายอุโมงค์” ให้มองเห็น โรงงานเจ๊ง ปิดตัวเอง เพิ่มขึ้นทุกเดือน “คนงาน” ที่”ตกงาน” ในวันที่อายุเลย 40 จะไปหางานที่ไหนทำ ความ”ลำบากยากจน” ของคนใน ประเทศ เพิ่มจำนวนมากขึ้น พร้อมๆกับการ”ปิดตัวของโรงงาน”” พิพัฒน์ รัชกิจประการ” เสนาบดีกระทรวงแรงงาน ผลิตแรงงานฝีมือ  ออกมาได้ก็จริง แต่ถ้า”เศรษฐกิจ” ที่ไม่”ขยับ” ไม่”กระเตื้อง” ถึง”กระทรวงแรงงาน” จะ”พัฒนา” ตลาดหุ้นดิ่งเหว” หันไป”ทางขวา” เห็นตัวเลของ”หนี้ครัวเรือน” ที่สูงเกิน”เกณฑ์มาตรฐาน” ก็รู้ถึงความ”เสดสา” ของ”ชาวรากหญ้า”  หันไปดู “พ่อค้า แม่ค้า” ใน “ตลาด ที่เคยมีเปิด”ร้านรวง” อยู่มากมาย วันนี้ เหลืออยู่กี่ร้าน เหตุผลที่ต้อง”ล้มหายตายจาก” เนื่องจาก”กำลังซื้อ”ของ”ชาวบ้าน” ที่เป็น”ลูกค้าประจำ” ต่าง”หดหาย” เพราะเงินใน”กระเป๋า” ที่ น้อยลงๆ ทุกขณะ จนกลายเป็น”โดมีโน่”  แม้แต่คนที่มี”รถยนต์” ที่เคยนำไปเข้า”ไฟแนนซ์” ในการ”หมุนเงิน”  วันนี้”ไฟแนนซ์” ปฏิเสธด้วยการไม่ปล่อย”สินเชื่อ”ก็ต้องถาม”คณะรัฐบาล” ที่ทำหน้าที่”บริหารบ้านเมือง”ว่า ถ้า “สภาพของบ้านเมือง” เป็นอย่างนี้ “บ้านนี้เมืองนี้” จะ”เดินหน้า” หรือจะ”ขับเคลื่อน”อย่างไร ……ก็ไม่เถียงนะถ้า “เสนาบดี” กระทรวงเกษตร “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” จะบอกว่า ว่า “ผลผลิต”ทางการ”เกษตร” เช่น “ยางพารา,อ้อย,มันสำปะหลัง” ราคาดี แต่ถ้า” เสนาบดี” กระทรวงพาณิชย์อย่าง” เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย” ไม่สามารถ”ควบคุมราคาสินค้า” ปล่อยให้มีการ”ขึ้นราคา” ตามใจชอบ เงินที่ได้มาจากการขาย”ผลผลิต” ทางการ”เกษตร” ก็ถูก”กลืนกิน”ด้วยราคาสินค้าที่แพงขึ้น เขาเรียกว่า”รายได้” ที่ได้มาถูก”สูบรีด” จาก “กลุ่ม”เจ้าสัว” ผู้”ผลิตสินค้า” ไปจนหมดสิ้น…..

@อีก”ปัจจัย” คือเรื่องของ”ราคาน้ำมัน” ที่ “เสนาบดี”ของ”กระทรวงพลังงานพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาคย์” ไม่สามารถ”ควบคุม”ได้ ทำให้ กลุ่มผู้ประกอบขนส่ง ต้องประกาศ”ขึ้นค่าขนส่ง” ฝ่ายของ”สายการผลิต” ก็ อย่างว่า”ต้นทุน”เพิ่มขึ้นจาก”ราคาน้ำมัน” และ”ค่าขนส่งสินค้าที่แพงขึ้น “ จึงต้อง”ขึ้นราคาสินค้า” เป็นไปตาม”ลูกโซ่” ดังนั้น วันนี้” เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน”นายกรัฐมนตรี” เห็นทีต้อง”หยุดทัวร์ต่างประเทศ” ก่อน และ หันมาทุ่ม”สรรพกำลัง” ในการ”กอบกู้”เศรษฐกิจ” และ”ปากท้อง” ของคนในประเทศเสียก่อน ก่อนที่จะ”ย่ำแย่”ลงไปกว่าที่เป็น เพราะการ”ทัวร์ต่างประเทศ”ของ”เสี่ยนิด” ที่ไปมา มากมายหลายประเทศ ยังไม่เห็นอะไรที่”งอกเงย” ให้เห็น”เป็นชิ้นเป็นอัน” แม้แต่”ผ้าขะม้า” ที่ไป”ใส่โชว์” ก็ไม่มี”ยอดสั่งซื้อ” จาก”ต่างประเทศ”ให้เห็น……อีกโครงการหนึ่ง ที่”มีทีท่า” ว่าจะ”แผ่วปลาย” คือเรื่องของ” ซอฟต์พาวเวอร์” ของ”อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เคยมีการ”กล่าวขวัญ” มีการ”ผลักดัน” อย่าง”ร้อนแรง” วันนี้เรื่องของ”ซอฟต์พาวเวอร์” หน้าไปจาก”หน้าข่าว” หายไปจากความ”สนใจ” และหายไปจากการ”ผลักดัน” ของ”กระทรวง ของ หน่วยงานต่างๆอย่างน่าฉงน…..

@หลังจากที่”สมศักดิ์ เทพสุทิน” ไปทำหน้าที่”เสนาบดี” กระทรวงสาธารณสุข ได้ไม่นาน ผลงาน”ชิ้นแรก” ที่ชาวบ้าน “พึงพอใจ” คือเรื่องการทำให้การ”ครองครองยาบ้า 5 เม็ด “ เป็น”ผู้ค้า” ส่วนการเป็น”ผู้เสพ” คือการมี”ยาบ้า” เพียงเม็ดเดียว ความจริงการเป็น”ผู้ค้า” และ”ผู้เสพ” ไม่ได้อยู่ที่ 1 เม็ด หรือ 5  เม็ด ที่อยู่ที่ การ”สอบสวน”ของ”ตำรวจ” หลังจาก”จับกุม” มีเพียง 1 เม็ด ก็เป็น”ผู้ค้า”ได้ ถ้ามี”หลักฐาน” ในการ”สืบสวนสอบสวนว่าเป็น”ผู้ค้า” เช่นเดียวกับมี 5 เม็ด ก็อาจจะมีไว้”เพื่อเสพ” ก็ได้ แต่ เมื่อ”กฎหมาย” บัญญัติ ว่า มี 1 เม็ด ถือเป็น”ผู้เสพ” ประชาชนพอใจ ก็ถือว่าเป็น”ความดีความชอบ” ของ”สมศักดิ์ เทพสุทิน” ที่กลายเป็น”ผลงาน” ที่เข้าตาประชาชน ผิดกับ”ชลน่าน”สีแก้ว “ อดีต รัฐมนตรีสาธารณสุข  ที่เอาแต่”อธิบาย”ถึง”หลักการ” โดยที่”ชาวบ้าน”ไม่”รู้เรื่อง” และ”ไม่เข้าใจ” ทั้งที่เป็นเรื่องเดียวกัน  ทั้งหมดคือความสำคัญของการ”สื่อสาร”กับ”สังคม” ……

@กลุ่มผู้ประกอบการ จังหวัดสงขลา เคลื่อนไหวแล้ว กับการประกาศ”ขึ้นค่าแรง” วันละ 400 บาท ของ “รัฐบาล” มีการ”รวมตัว” เข้าพบ”สมนึก พรหมเขียว” ผวจ.สงขลา เพื่อ”คัดค้าน”การขึ้น”ค่าแรง” วันละ 400 บาท และ เชื่อว่า เรื่องการ”ขึ้นค่าแรง” ไม่ใช่เฉพาะที่ จ.สงขลา ที่ออกมา”เคลื่อนไหว” ทำการ”คัดค้าน” ทุกจังหวัด ก็จะมีการ”เคลื่อนไหว” ที่เหมือนกัน เพราะการขึ้น”ค่าแรง” แบบ”ก้าวกระโดด” เป็นเรื่องที่” กลุ่มทุน” โดยเฉพาะธุรกิต”เอสเอ็มอี” รับไม่ได้ และสิ่งที่ตามมา ถ้า ”รัฐบาล” ยังมีการ”ขึ้นค่าแรง”ตามที่มีการ”ประกาศ” ที่จะเริ่ม บังคับใช้ในเดือน ตุลาคม นี้ ประเทศไทยจะมีคน”ว่างงาน”เกิดขึ้น กับนโยบายการ”ขึ้นค่าแรง” ในครั้งนี้ เรื่อง”ค่าแรง 400 บาท ทางหนึ่ง “เห็นใจ” และ”เห็นด้วย” ที่คนจนจะมี”ค่าแรง” เพิ่มขึ้นเพื่อใช้”ต่อสู้”กับ”ค่าครองชีพ” ที่มีแต่”สูงขึ้น” อีกทางหนึ่ง ก็เห็นใจ” และ”เข้าใจ” ผู้ประกอบการ ที่ต้อง”แบกภาระ” เพิ่มขึ้น ในขณะที่”รายรับ” หรือ”กำไร” น้อยลง ดังนั้น หลังจากนี้  “รัฐบาล” คงต้อง”รับฟัง” ข้อ”เท็จจริง” อย่าง”รอบด้าน” อีกครั้ง ว่าจะมีการ”เดินหน้า” หรือการ”ปรับเปลี่ยน” การขึ้น”ค่าแรง” เพื่อให้ทั้ง”นายจ้าง” และ”ลูกจ้าง” ไปด้วยกันได้…..

@หลังจากที่มีการ”เข้มงวด”การ”ขายน้ำกระท่อม” ใน พื้นที่ จ.สงขลา มาได้ระยะหนึ่ง วันนี้จำนวนผู้”ขายน้ำกระท่อม” เริ่มกลับมา”ต้มขาย” และ”วางจำหน่าย” ทุก”หัวระแหง” อีกครั้ง ล่าสุด”เอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา สั่งให้เจ้าหน้าที่”ฝ่ายปกครอง” ออก”กวาดล้าง” สามารถจับกุม”น้ำกระท่อม”ได้เป็นจำนวนมาก เรื่องของ”น้ำกระท่อม” วันนี้กลายเป็นปัญหาสังคมและเป็นปัญหา”โลกแตก” เพราะผู้ที่ใช้”แรงงาน” 80 เปอร์เซ็น ขาดน้ำกระท่อม เมื่อไหร่”ลงแดง” ไม่มีแรงทำงาน ผู้ได้รับ”ผลกระทบ”คือ”ผู้”รับเหมา”……ในขณะที่ปัญหาของ”ยาบ้า” และ”ยาไอซ์”  ยังคง”ระบาดหนัก” ในพื้นที่ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุด ตำรวจ สภ.นาทวี จ.สงขลา จับกุม “นายทุนมาเลเซีย” ที่เข้ามา”สั่งซื้อ” ยาไอซ์  ที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ในขณะที่ “ลำเลียง” ไปยัง ชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อส่งไปยัง”ประเทศมาเลเซีย” นี่คือผู้ค้าที่ถูกจับได้ แต่ที่”เล็ดรอด” ไปได้ ไม่รู้จำนวนมากน้อย เท่าไหร่…..ที่สำคัญ ก่อนการเลือกตั้ง ปัญหาของ”ยาเสพติด” เป็น”วาระแห่งชาติ” ในการ”หาเสียง”ของ”พรรคเพื่อไทย” หลัง”เลือกตั้ง” ปัญหาของ”ยาเสพติด” ถูกพรรคเพื่อไทย”พูดถึงน้อยลง” เพราะมัวแต่”มะงุมมะงาหรา” กับเรื่องของ”เศรษฐกิจ” วันนี้เรื่องการแก้ปัญหาการ”ระบาด” และการค้า”ยาเสพติด” จึงกลายเป็นเรื่องของ”กระทรวงยุติธรรม” เพราะมี”สำนักงานป้องกันและปรามปรามยาเสพติด” อยู่ในกระทรวง ดังนั้นจึงเห็นภาพของ” พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รัฐมนตรียุติธรรม”  ขึ้นเหนือ ล่องใต้ ไป ภาคกลาง ภาค อีสาน เป็นว่าเล่น เพื่อ แก้ปัญหาการ”ระบาด”ของ”ยาเสพติด” ปัญหาของ”ยาเสพติด” ทุกฝ่าย ต้องร่วมมือ หรือ”บูรณาการ” เพื่อแก้ปัญหา ตราบใดที่ “ต่างฝ่ายต่างทำ โอกาสที่จะแก้ปัญหาการระบาดของยาเสพติด ก็ยัง”ล้มเหลว” เหมือนเดิม……

@หลังจากที่ “มาเลเซีย” ขึ้นราคาขายน้ำมันดีเซล ในประเทศของเขาเป็น ลิตรละ 26 บาท การ”ลักลอบ”นำเข้าน้ำมัน”ดีเซล” จากประเทศมาเลเซีย”ลดน้อยลง” แต่กลุ่ม”นายทุน” หันไป”ลักลอบ”นำเข้า”น้ำมันเบนซิน”มากขึ้น เพราะ “น้ำมันเบนซิน” ในประเทศมาเลเซีย ยังคงขายในราคาลิตรละ 16 บาท ในขณะที่”น้ำมันเบนซิน” ในประเทศไทย ลิตรละ เกือบ 40 บาท ก็ต้องถามว่า”ศุลกากร” ในแนวชายแดน ทำอะไรกันอยู่ จึงไม่มีการ”จับกุม” พวกท่านเห็นหรือไม่ว่า ริมถนน ทุกสาย ทั้งที่เป็น”ทางหลวงจังหวัด”และ”ทางหลวงอำเภอ” เต็มไปด้วยการ”ขายน้ำมันเถื่อน” ถ้า”น้ำมันเถื่อน”เหล่านี้ไม่ผ่านมาจากจะมาทางไหน เรื่อง”น้ำมันเถื่อน” ใน จังหวัดชายแดนภาคใต้”อธิบดีกรมศุลกากร” ต้องมาเห็นด้วยตา จะรู้ว่ามีการ”เปิดไฟเขียว” จาก หน่วยงานของท่าน จริงหรือไม่….. แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า สวัสดีครับไชยยงค์ มณีพิลึก

———————————————————

พบกลุ่มสตรี.   ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี/ รัฐมนตรีพาณิชย์ พบปะเครือข่ายผู้หญิงยุติความรุนแรงในครอบครัว ผู้แทนสภาเด็ดและเยาวชน ณ ศูนย์ราชการจังหวัดชายแเดนภาคใต้ โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงศ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้การต้อนรับ

เพิ่มประสิทธิภาพ.   พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 เป็นประธานเปิดการฝึกหลักสูตรเพิ่มประสิทธิภาพครูฝึกประจำหน่วยเฉพาะกิจ รุ่นที่ 1 ประจำปี 2567 ณ ค่ายมหาจักรีสิรินธร ต.ท่าประดู่ อ.นาทวี จ.สงขลา

บทบาทสตรี .   พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา เปิดโครงการพัฒนาบทบาทคณะกรรมการสตรี เพื่อจะนำความรู้ ความเข้าใจบทบาทหน้าที่ของสตรี แนวทางความต้องการในการพัฒนาชุมชนของสตรี การสร้างเครือข่ายในการทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ  ณ ห้องประชุมโรงแรมปาร์ควิว อ.เมือง จ.ยะลา

จับกุม.   สมนึก พรหมเขียว ผวจ.สงขลา สั่งการให้ เอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ กวาดล้าง ผู้ขายบุหรี่ไฟฟ้า ในย่านการค้าถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 ย่านศูนย์การค้าสันติสุข ได้ของกลาง และ ผู้ต้องหา นำส่งนำเนินคดีตามกฎหมาย

ร่วมเป็นเกียรติ. นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมเป็นเกียรติการจัดกิจกรรม ชุดควบคุมที่ 451 หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข ในพื้นที่ จ.ปัตตานี

มอบอุปกรณ์.  ชนนพัฒฐ์  นาคสั้ว (สส.กฤต)สส.เขต 4 สงขลา พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่โรงพยาบาลสทิงพระ เพื่อมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์และได้พูดคุยกับพยาบาลผู้ปฎิบัติหน้าที่ ณ โรงพยาบาลสทิงพระ จ.สงขลา

บริจาคเงิน.   สามารถ ทองอ่อน นายกสโมสรไลออนส์เบตง จ.ยะลา นำสมาชิกฯ ร่วมมอบเงิน 250,000 บาท เพื่อสมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ โดยมี นพ.อารยะ ไข่มุกด์พงศ์ ผอ.รพ.เบตง จ.ยะลา เป็นผู้รับมอบ

เปิดอาคาร.   มุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา ลงพื้นที่ เป็นประธานพิธีเปิดอาคารมัสยิดอับดุลสลาม โดยมี ดร.ระเด่น สะมะแอ รองนายก อบจ. และผู้นำท้องถิ่น  ผู้นำศาสนา และ ประชาชนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรม และให้การต้อยรับ ณ หมู่ที่ 11 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา

พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์  เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 พร้อมด้วย พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ คณะตำรวจ รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ที่นำคณะเข้าเยี่ยมคารวะ และเปลี่ยนความคิดเห็น ฌ ห้องประชุมย้อยนวล ชั้น 3 กองบัญชาการตำรวจภูธร 9 จ.สงขลา

เข้าเยี่ยม.นพพร หนูเพชร นายอำเภอเมืองยะลา มอบหมาย หะสัน พิทักษ์บัญชการ ปลัดอำเภอ หน.ต.สะเตงนอก พร้อมด้วยผู้นำท้องที่ เยี่ยมบ้าน อามีเนาะ สามอ พร้อมมอบสิ่งของ เพื่อเป็นการปลอบขวัญ และให้กำลังใจ จากเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านเรือน ณ หมู่ที่ 7 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา

ชุมชนบำบัด.   วันสุกรี แวมามะ นายอำเภอเมืองปัตตานี ลงพื้นที่ เปิดโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในพื้นที่แพร่ระบาดยาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ประจำปีงบประมาณ 2567 พร้อมได้ลง MOU ร่วมกัน โดยมี พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองปัตตานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ที่ทำการกำนัน ต.บาราโหม อ.เมือง จ.ปัตตานี

เฉลิมพระเกียรติ.  เครือข่ายชุมชนโคกหนองนา ตรัง ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดตรังหน่วยงานราชการ  จัดกิจกรรมจิตอาสาปลูกผักพื้นบ้าน  ต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ  เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ณ ริมคลองท่าจีนระยะทาง 1,250 เมตร เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้  โดยพระประสิทธิโสภณ  รองเจ้าคณะอำเภอเมืองตรัง  เจ้าอาวาสวัดประสิทธิชัย(วัดท่าจีน) นายชวน  หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนร่วมกิจกรรม

ตรวจทรัพย์สิน.   ณ ที่ว่าการอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง พล.ร.อ. พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานการประชุมการตรวจทรัพย์สิน (ที่ดิน) ของมูลนิธิฯ โดยมี ทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายอำเภอกันตัง หัวหน้าส่วนราชการคณะกรรมการ บริหารจากส่วนกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุม

ขับเคลื่อน.   ณ ห้องประชุม อบต.ในเตา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง รัตน์ติกรณ์ ศรีสุรนันท์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดการประชุม โดยมี ธีรศักดิ์ ศรีโภคา รองปลัด อบต.ในเตา พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ ในที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการขับเคลื่อน งานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

วันลูกโหนด.  ปารเมศ เห้งสวัสดิ์  นายอำเภอสทิงพระแถลงข่าวจัดงานวันลูกโหนด ประจำปี2567 ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย.- 4 ก.ค.67 นี้หน้าที่ว่าการอำเภอสทิงพระ จ.สงขลา

ยื่นหนังสือ.  ว่าที่ รต.ไกรธนู แกล้วทนงค์ อดีต สจ.เขต อำเภอระโนด ยื่นหนังถึง ดร.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ผู้ช่วย รมต.เกษตรฯเพื่อขุดลอกคลองในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งระโนดเพื่อป้องกันน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนโดยมี  ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.เขต 4ร่วมเป็นสักขีพยานณสหกรณ์การเกษตรสทิงพระจำกัด  อ.สทิงพระ จ.สงขลา

ยินดีด้วย.  อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ กรรมการ บริหาร สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย / ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ประจำจังหวัดยะลา และทีมงาน เข้าร่วมแสดงความยินดี กับ นูรียะห์ หะไร กับ ภูริวัฒห์ ลอนา ในงาน ฉลองมงคลสมรส (นิกะห์) ในพื้นที่หมู่ที่ 1 (สันติสุข ซอย 10) ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส