เมื่อเสียงแห่งความเหงา เงียบเกินกว่าใครจะได้ยิน…

หลายคนต่างเคยมีช่วงเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองเหงา เปล่าเปลี่ยว ไร้เพื่อนฝูง ไร้คนเข้าใจ มีเพียงความหวังว่าจะได้พบเจอใครสักคนที่มีคลื่นความถี่ตรงกัน

จากหนังสือนวนิยายฮีลใจสะท้อนสังคม “52ヘルツのクジラたち (52 Hertz no Kujira-tachi) ที่ได้รับรางวัล Bookstore Award 2021 และมียอดขายกว่า 750,000 เล่ม ของ “โซโนโกะ มาจิดะ” สู่ภาพยนตร์ “52 Hertz” (52 เฮิรตซ์ คลื่นเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน) ผลงานกำกับโดย “อิซุรุ นารุชิมะ”

“โซโนโกะ มาจิดะ” ได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนนวนิยาย 52 Hertz มาจากเรื่องราวสุดเหงา อ้างว้างเปล่าเปลี่ยวของ “วาฬ 52 Hz” ที่ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังภายใต้มหาสมุทรที่กว้างใหญ่ ปกติวาฬจะอาศัยรวมกันเป็นฝูง สื่อสารกันผ่านคลื่นเสียงระหว่าง 12-52 Hz เท่านั้น แต่วาฬ 52 Hz คือ วาฬที่อยู่เพียงลำพังในมหาสมุทร ถูกพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1989 เมื่อทีมงานสถาบันสมุทรศาสตร์วูดโฮล ได้พบคลื่นเสียงความถี่ 52Hz จึงออกสำรวจและพบว่าเจ้าของเสียงนี้คือ วาฬบาลีนขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับ เรือดำน้ำสหรัฐที่พบคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเดียวกัน จากเครื่องมือที่ใช้ติดตามเรือดำน้ำของโซเวียต ช่วงแรกกองทัพสหรัฐคิดว่าเป็นกลยุทธ์ของศัตรู แต่เมื่อศึกษาร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล จึงพบว่านี่คือเสียงของวาฬ 52 Hz ซึ่งอยู่เพียงลำพัง เพราะเสียงของมันมีความถี่สูงกว่าปกติ ทำให้ไม่สามารถสื่อสารกับวาฬตัวอื่นๆ ได้เลยแม้แต่ตัวเดียว

ทาง โซโนโกะ จึงนำมาใช้เป็นพล็อตเขียนนวนิยายสุดบีบคั้นหัวใจสะท้อนสังคม ที่พูดถึงคนที่รู้สึกว่าตัวเองอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนโลกใบนี้ และมีความคิดว่า หรือรู้สึกว่าเสียงของพวกเขาไม่ได้รับการได้ยิน (ไม่ได้รับการตอบสนอง) เหมือนเช่น วาฬ 52 Hz

ความยอดเยี่ยมของ 52 Hertz no Kujira-tachi ทำให้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ โดยมีความหวังว่า หนังเรื่องนี้จะเป็นกระบอกเสียงให้กับคนที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว และไม่มีใครได้ยินเสียง (เรียกของหัวใจ) ซึ่งเชื่อว่ามีอยู่มากมายทั่วทุกมุมโลก

หนัง “52 เฮิรตซ์ คลื่นเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน” นำแสดงโดย “จุน ชิซง”, “ฮานะ ซุงิซากิ”, “คาริน โอโนะ”, “ไฮโอะ มิยาซะวะ”, “นานาเสะ นิชิโนะ”, “คิมิโกะ โยะ” เล่าถึงเรื่องราวชีวิตของ คิโกะ หญิงสาวที่ถูกแม่ของตัวเองทำร้ายร่างกายตั้งแต่เด็กจนโต จนตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย แต่ถูกช่วยไว้ได้ทัน ก่อนเริ่มตั้งหลักปักฐานมีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง แต่เธอก็ยังต้องเจอกับเรื่องราวสะเทือนใจอีกมากมาย จนสุดท้ายตัดสินใจหนีอดีตอันเลวร้ายย้ายไปอยู่เมืองชายทะเล ณ โออิตะ ที่บ้านของคุณยายผู้ล่วงลับ ซึ่งทำให้เธอได้พบกับเด็กชายที่ไม่พูด ที่ถูกแม่ทำร้ายร่างกายเหมือนเธอตอนเด็ก ๆ แม่ทำตัวเหมือนเขาเป็นแมลงต่ำต้อยตัวหนึ่งเท่านั้น ทำให้ คิโกะ ตัดสินใจที่จะช่วยเด็กคนนี้ เหมือนที่เธอเคยได้รับความช่วยเหลือ

จุดเด่นของ 52 Hertz

แม้หนังจะยาวถึง 135 นาที ตอนดูก็รู้สึกว่ามันยาว แต่หนังสามารถนำพาเราไปได้ตลอดทั้งเรื่อง โดยที่ไม่รู้สึกเบื่อเลย เป็นหนังที่ไม่ได้มีแค่ความบันเทิง แต่ยังฮีลใจผู้ชมอย่างพวกเราได้อีกด้วย ถือเป็นหนึ่งในสื่อบันเทิงที่ทรงคุณค่ามาก ๆ ชิ้นหนึ่ง

การแสดงอันยอดเยี่ยมของเหล่าทีมนักแสดง ที่ทรงพลังและเข้าขากันเป็นอย่างดี ช่วยพยุงและโอบอุ้มความรู้สึกของผู้ชมไปสู่จุดหมายได้อย่างงดงาม

งานภาพสวยหม่น เหงาเศร้า แสดงอารมณ์ความรู้สึกของหนังออกมาได้อย่างสมบูรณ์

จุดอ่อนของ 52 Hertz

หนึ่งในนักแสดงตัวหลักอย่าง คาริน โอโนะ ทั้ง ๆ ที่บทเด่นมาก ๆ และมีคาแรกเตอร์ที่ร่าเริง สดใส เหมือนเป็นตัวแทนพลังงานบวกของหนัง แต่ส่วนตัว “หมีเช” รู้สึกว่าเธอดูจืดจางแปลก ๆ ดูหาย ๆ และมีตัวตนน้อยเกินไป อาจเพราะขาดชอต Close-up ดี ๆ แช่ภาพเอาไว้เพื่อให้คนดูได้เห็นหน้าของเธอแบบถนัด ๆ ชัดเจนใกล้ ๆ เพื่อที่จะได้เห็นอารมณ์ของเธออย่างเต็มที่ด้วย ทว่า ในหนังกลับมีชอตแบบนั้นน้อยมาก ทำให้เธอไม่สามารถเข้ามาอยู่ในใจของผู้ชมได้ โดยเฉพาะ “หมีเช” ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ๆ

อารมณ์ของหนังแตกต่างจากนวนิยายพอสมควร ถ้าใครที่เคยอ่านหนังสือแล้ว ตอนท้ายของเรื่องจะช่วยฮีลใจผู้อ่านได้อย่างดีมาก ๆ แต่ในส่วนของหนัง จะทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงอารมณ์ดิ่ง ตับพัง มากกว่าอารมณ์ฮีลใจที่มีไม่มากเท่าเวอร์ชั่นหนังสือ

4.5/5
หนังคุณภาพที่แนะนำว่าควรดูเป็นอย่างยิ่ง หนังจะช่วยฮีลใจให้กับเรา เชื่อว่าทุกคนต้องเคยมีช่วงเวลาที่เหมือนกับตัวละครในหนัง นั่นคือ เสียงของเราไม่มีใครได้ยิน ตะโกนแค่ไหนก็ไปไม่ถึงใครเลย ซึ่งมันทำให้เราเหงา อ้างว้าง โดดเดี่ยวเหลือเกิน และไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี ไม่ว่าจะในวัยไหนก็ตาม เด็กที่อยากเรียนศิลปะ แต่พ่อแม่อยากให้เป็นหมอ, ผู้ใหญ่ที่อยากทำงานในวงการบันเทิง แต่ต้องไปดูแลกิจการร้านอาหารของที่บ้าน, กลุ่มคน LGBTQ+ ที่ไม่กล้าเปิดเผยตัวตน เพราะกลัวพ่อแม่จะเสียใจ ฯลฯ การได้ดูหนังเรื่องนี้ อาจทำให้คุณพยายามเงี่ยหูฟังคนรอบตัวมากขึ้น เพื่อจะได้ยินเสียง 52 Hertz ที่พวกเขาอาจกำลังตะโกนอยู่ แต่ไม่มีใครได้ยิน ถ้ามีใครสักคนได้ยิน ก็อาจช่วยพวกเขาได้บ้าง ไม่มากก็น้อย เช่นเดียวกับเสียงของคุณเอง ที่สักวันคงจะมีใครได้ยินมันเช่นกัน.

หมีเช