นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กรุงเทพฯ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา “ฐานกระทำการอันเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง” ทั้งที่อยู่ในสมัยวิสามัญพิจารณางบประมาณปี 2568 จากกรณี ชู 3 นิ้ว ตอนไปสังเกตการณ์ชุมนุมเมื่อ 19 ก.ย. 2563 ก็แปลกนะ ความรู้สึก ป.ป.ช.ช้าไม่น่าเชื่อ เพิ่งจะมาเล่นงานหลังผ่านไป 4 ปี ผิดจริยธรรมร้ายแรง ตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต ประหารเลยนะ หรือมีใบสั่งจากใครหรือไม่?
ก่อนหน้านั้น นายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส.พรรคไทยศรีวิไลย์ ก็โดน ป.ป.ช.เล่นงานแบบเดียวกันแต่แทนที่จะฟ้องประชาชนว่า สิ่งที่ ป.ป.ช.กล่าวหาเป็นธรรมหรือไม่ ดันวิ่งแจ้นไปหา ป.ป.ช.ให้สอบพรรคก้าวไกล ข้อหาให้เงินสร้างหนังสารคดี Breaking the Cycle หรือชื่อไทย อำนาจ ศรัทธา อนาคต ซะงั้น 2 ผู้กำกับ เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์ กับ ธนกฤต ดวงมณีพร พร้อมให้สอบอยู่แล้ว
กว่าจะทำหนังออกมาได้ เขาใช้เวลาตั้ง 6 ปี แล้วที่ถ่ายทอดผ่าน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่แปลกเลย ในสายตาคนทำหนัง ธนาธร เป็นตัวละครที่น่าสนไง ไพร่หมื่นล้าน ลงสนามการเมือง หาญกล้าตั้งพรรคท้าทายอำนาจอนุรักษ์ที่สุดแข็งแกร่ง หาเสียงเดือดทุกเวที เสนอนโยบาย ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ลดนายพล ทลายทุนผูกขาด…มันดึงดูดคนรุ่นใหม่ไง นี่ล่ะ จุดแข็ง” แล้ว พรรคอนาคตใหม่ ก็ถูกยุบ เขาถูกแช่งแข็ง 10 ปีพร้อมเพื่อนร่วมอุดมการณ์ จนตอนนี้ พรรคก้าวไกล ที่สืบต่อมา ก็อยู่บนเส้นด้าย จะถูกยุบซ้ำอีกครั้ง ทั้งหมดนี่ล่ะ วัตถุดิบวิเศษ เปิดหูเปิดตาซะบ้าง
การชู 3 นิ้วที่เป็นสัญลักษณ์ลุกฮือในปี 63-64 ของขบวนการประชาธิปไตยหนุ่มสาวใหญ่สุดหลัง 14 ตุลา 16 มาจากหนังไตรภาค The Hunger Games ที่คนรุ่นใหม่ในเขตต่าง ๆ ของผู้ปกครอง “ทรราช” นัดกัน ชู 3 นิ้วต่อต้านและต่อสู้เพื่อเสรีภาพ มันดึงดูดใจคนหนุ่มสาวไทยที่อยากเลือกอนาคตของตัวเองบ้าง หลังจมปลักกับเผด็จการมาเกือบทศวรรษ การชู 3 นิ้ว จึงใช้เป็น “อาวุธ” แทนการต่อสู้ แล้วก็ถูกปราบอย่างหนัก ติดคุก มีคดี เป็นพันคน
แต่ใด ๆ อานุภาพชู 3 นิ้ว ก็ยิ่งใหญ่ แทงใจดำอนุรักษ์ล้าหลัง ถึงต้องตามล่าตามล้างขนาดนี้ แทนที่จะหัดปล่อยวางอำนาจกันบ้าง มันสะท้อนแนวคิดผู้ปกครองที่แข็งทื่อ บ้าอำนาจ เศรษฐกิจที่เปราะบางจะพังทลาย ก็คงไม่แปลก
ตัวอย่าง เกิดที่ตลาดหุ้นไทย ปรอทวัดอารมณ์เปราะบางนักลงทุน ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนสาย VI แบบอย่างนักเล่นหุ้นค่อนตลาด ล่าสุดโพสต์ว่า “รู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง ไม่ถึง 6 เดือนหุ้นไทยตกลงจาก 1,416 จุด เหลือ 1,306 จุด หรือลบ 7.8% ตกลงมากสุดประเทศหนึ่ง หลังจากปีที่แล้วดัชนีตลาดก็แย่ที่สุดในโลก ทั้งที่ตลาดหุ้นอื่น ๆ ปรับตัวขึ้นทั่วหน้า ปัญหาของหุ้นไทยอาจจะไม่ใช่ปัญหาชั่วคราว แต่เป็นปัญหาถาวรที่เกิดจากโครงสร้างที่แก้ไขยาก เรากำลังอยู่ในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ แล้วก็จะเป็นแบบนั้นไปยาวนาน และไม่สามารถกลับไปสู่สภาวะเดิมได้อีกเลย” ตาสว่างกันบ้างไหม ก็หวังว่า คงไม่มีนางแบกนายแบกบ้า ๆ บอ ๆ ไปหาว่า แกกินส้มอีกล่ะ
แล้วก็มาถึง 18 มิ.ย. 67 วันวินาศการเมืองไทย มีชี้ 4 คดีสำคัญ
อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้ประกันตัวในคดี ม.112 ตามคาด สู้กันอีก 3 ศาล แต่มาพร้อมกับเอกสารศาลยุติธรรม ตั้งคณะกรรมการสอบ กรณีข่าว มีเงิน 2,000 ล้านหล่นที่ฮ่องกง จะให้เป็น “ถุงขนม” ภาค 2 อีกงั้นหรือ อีก 3 คดี ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 4 พ.ร.ป. เลือก สว.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ การเลือก สว.เดินหน้าต่อ คดีถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน ปมแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน ศาลให้ส่งหลักฐานเพิ่ม นัดฟังพุธ 10 ก.ค. ส่วนตัวเชื่อว่า คงรอด ส่วนคดี ยุบพรรคก้าวไกล ศาลให้คู่กรณีส่งหลักฐานเพิ่ม นัดฟังพุธ 3 ก.ค. แต่ทุกคนเชื่อไปแล้ว ก้าวไกลโดนยุบแน่ มันเรื่องการเมือง ไม่ใช่ข้อกฎหมาย
ทั้งหมดสะท้อนอะไรมันสะท้อนว่า ทั้ง 4 คดี ก็แค่ก้อนน้ำแข็งบนภูเขามหึมาที่จมใต้มหาสมุทรแอนตาร์กติก เหมือนกับที่การเมืองไทยจะไร้เสถียรภาพอีกแสนนาน ก็แค่ชู 3 นิ้ว ยังจะให้ผิด “จริยธรรมร้ายแรง” ให้ได้ ไม่รู้จะไปไกลกันถึงไหน.
……………………………………
ดาวประกายพรึก