ในช่วงที่สถานการณ์ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ไม่ว่าจะเจอน้ำท่วม หรือน้ำรอการระบาย คงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ที่เราจะต้องเดินทางผ่าน แต่ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะให้รถยนต์ที่รักอยู่ร่วมกับ “น้ำท่วม” หรือ “น้ำรอการระบาย” แบบไร้กังวล
“วิธีเช็กรถหลังลุยน้ำท่วม”
-“ระบบเบรก” ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะน้ำรอการระบายไม่ได้สะอาดอะไรมากมายนัก น้ำสกปรกสามารถเข้าไปติดขัดได้ในระบบเบรก ทั้งยังทำให้เกิดขึ้นความชื้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลงโดยเฉพาะ “น้ำมันเบรก” ที่อาจเสื่อมคุณภาพได้ เช่นเดียวกับหน้าสัมผัสของชุดผ้าเบรคเองที่เกิดจากขี้ผงต่างๆ จนเป็นรอยบนชุดจานเบรกได้
-ของเหลวทั้งหมด เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ ฯลฯ โดยเฉพาะผู้ที่ลุยน้ำท่วมสูงๆ ควรเร่งเช็กทันที ว่ามี “น้ำเล็ดลอดเข้าไปในเครื่องยนต์หรือไม่” หากมีต้องรีบถ่ายน้ำมันเครื่องทันที
-ลูกปืนล้อ เป็นส่วนที่หลายคนอาจจะลืมเลือน ซึ่งภายในลูกปืนจะมีจาระบีคอยหล่อลื่น แต่อาจละลายหายไปกับน้ำ หรือาจจะเสื่อมคุณภาพ กลายเป็นต้นตอของลูกปืนดัง ลูกปืนล้อแตก และอาจจะส่งผลถึงอุบัติเหตุร้ายแรงได้เช่นกัน
-ระบบปรับอากาศ ที่กลิ่นไม่พึงประสงค์อาจจะมากับน้องน้ำและติดอยู่ภายในรถพอสมควร
-ฟิวส์ หากน้ำท่วมถึงกล่องฟิวส์ ให้ถอดฟิวส์ออกมาเช็ด และเป่าให้แห้ง รวมไปถึงป่าลมไล่น้ำตามขั้วสายไฟ และแบตเตอรี่ด้วย
-ฉีดน้ำล้างช่วงล่างให้ทั่ว ใช้แปรงขนอ่อนขัดเอาเศษโคลน ขยะ หรือเศษกิ่งไม้ออก
“น้ำท่วมระดับไหนที่ไม่ควรขับลุย”
-ระดับน้ำ 5-10 ซม. ไม่อันตรายผ่านได้ทุกคัน
-ระดับน้ำ 10-20 ซม. ยังปลอดภัยและอาจได้ยินเสียงน้ำใต้ท้องรถและมีคลื่นบ้างเวลาขับสวนกัน
-ระดับน้ำ 20-40 ซม. เริ่มเสี่ยงสำหรับอีโคคาร์ แต่รถกระบะยังผ่านได้
-ระดับน้ำ 40-60 ซม. รถเก๋งต้องเลี่ยง รถกระบะเริ่มเสี่ยง ควรปิดแอร์ขณะขับ
-ระดับน้ำ 60-80 ซม. อันตรายต่อรถทุกประเภท ไม่ชำนาญห้ามขับลุยเด็ดขาด
-ระดับน้ำเกิน 80 ซม. ระดับน้ำสูงสุดเท่าที่รถจากโรงงานจะสามารถขับผ่านได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญและควรระวังระหว่างขับรถลุยน้ำ “หากรถดับ อย่าพยายามสตาร์ทรถ” เพราะอาจสร้างความเสียหายมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นให้หาวิธีเคลื่อนย้ายรถไปไว้จุดที่ปลอดภัยก่อนติดต่อช่างผู้ชำนาญมาตรวจเช็กรถ หากปฏิบัติได้ตามข้อมูลข้างต้น รับรองว่าทุกท่านจะผ่านสภาพอากาศแปรปรวนนี้ไปได้อย่างสบายแน่นอน….
………………………………….
คอลัมน์ : รู้ก่อนเหยียบ
โดย “ช่างเอก”
ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่ [email protected]