เชื่อหรือไม่? คนเราที่มาเจอกันไม่ใช่เรื่อง “บังเอิญ” อยู่ที่ “บุญ-กรรม” ที่เคยร่วมทำกันมา เมื่อมีวาสนาไม่ต้องเรียกร้อง ถึงเวลาก็มาเจอกัน เมื่อสิ้นวาสนาก็ต้องจากกันไป จะพยายามรั้งอย่างไรก็ไม่อยู่…

แปลกแต่จริง ดั่งเช่นเรื่องราวความรักของ “นายบอย” กับ “นางสาวต่าย” จะเรียกว่าเป็น 1 ในล้านคู่ ที่โคจรมาพบกันและโชคดีที่ “นางนิด” อดีตแม่ยายของบอย รักอดีตลูกเขยคนนี้เหมือนลูกชายแท้ๆ ทั้งที่ได้เลิกรากับลูกสาวตัวเองไปแล้วก็ตาม ถึงขั้นทนเห็นบอยเหงาอยู่คนเดียวไม่ได้ ยอมยกขบวนขันหมากพร้อมสินสอด 5 หมื่นบาท ไปขอ “ต่าย” ให้มาเป็นภรรยาของอดีตลูกเขยคนนี้

โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เหยี่ยวข่าว ได้โพสต์ภาพอดีตแม่ยายเต้นรำอยู่หน้าขบวนขันหมาก แห่ไปขอสาวให้อดีตลูกเขยจนเป็นที่ฮือฮาในโซเชียล พร้อมระบุข้อความ นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่ง อ.นายูง จ.อุดรธานี ที่ “แม่เฒ่าเก่าใจป้ำ แถมยังใจดีพาลูกเขยเก่าไปสู่ขอเมียใหม่ มี 1 ในล้านเด้อ…พี่น้อง” งานวิวาห์ครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา

หลังงานแต่งเสร็จสิ้น ท่ามกลางความประทับใจคนทั้งหมู่บ้าน บอยและต่าย ซาบซึ้งในน้ำใจและบุญคุณของนางนิด อดีตแม่ยายบอยอย่างยิ่ง ทั้งสองพร้อมกันก้มลงกราบที่ตักของนางนิด เพื่อแทนคำขอบคุณที่ช่วยให้ความรักสมหวัง ได้ครองคู่เป็นผัวเมียตามประเพณี ขณะที่นางนิดได้เอ่ยปากรับทั้งสองเป็นลูกชายและสะใภ้ พร้อมอวยพรให้ทั้งสองครองรักกันจนแก่เฒ่า

นางนิด อดีตแม่ยาย กล่าวว่า บอย อดีตลูกเขยเป็นชาวลาว อยู่กินกับลูกสาวตนมานับ 10 ปี จนมีลูกชายวัย 8 ขวบ 1 คน ลูกเขยเป็นคนขยันทำมาหากิน รับจ้างกรีดยาง ตัดปาล์ม หาเงินมาจุนเจือครอบครัวช่วยพ่อตา หนักเอาเบาสู้จนเก็บเงินปลูกบ้านได้ 1 หลัง ที่สำคัญเขาเป็นคนดี ตลอดเวลาที่เขามาอยู่ด้วย ไม่เคยเห็นเขาดุด่าทำร้ายลูกสาวหรือคนในครอบครัวเลย ทำให้รักเขาเหมือนลูกชาย ส่วนเขาก็รักเราเหมือนแม่ และรักสามีของตนเหมือนพ่อ

เพราะเขาเป็นคนพลัดถิ่นไม่มีญาติพี่น้องอยู่ในเมืองไทยเลย ไม่ใช่แต่ในครอบครัวเราที่รักและเอ็นดูเขา คนในหมู่บ้านโนนทองก็รักเขา เพราะความที่เขาเป็นคนดีขยันทำงาน เมื่อ 3 เดือนก่อน ลูกสาวของตนได้พบรักใหม่ จึงมาขอแยกทางกับบอย ทั้งที่บอยไม่ได้ผิดอะไร บอยก็ไม่ว่าอะไร และหอบเสื้อผ้ามาขออาศัยอยู่ที่บ้านแม่ยาย พร้อมกับบอกว่าไม่มีที่ไป ตนก็ยินดี ในเมื่อเขาอยู่ด้วยกันไม่ได้ เราเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องให้โอกาสและคำปรึกษา

“กระทั่งเขามาพบรักกับต่าย ได้ประมาณ 1 เดือนเศษ เขามาบอกตนและสามีตนว่าจะเก็บเงินไปสู่ขอต่าย โดยให้ตนและสามีเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ ตนและสามีก็ยินดี เพราะต่ายเองเขาก็แยกทางกับสามีเก่านานแล้ว ที่สำคัญเขาก็เป็นคนดี และขยันทำมาหากินเช่นกัน พวกเขาทั้งสองจะได้เติมเต็มความรักที่ขาดหายให้กันเต็มเปี่ยมเสียที”

ด้านบอย กล่าวว่า หลังจากภรรยาขอแยกทางเพื่อไปมีครอบครัวกับชายคนใหม่ เราก็เลิกกันด้วยดี แม้ในใจตนจะเจ็บปวดทรมานขนาดไหน แต่ก็ต้องอดทนเพราะตนเป็นลูกผู้ชาย ต่อมาเพื่อนตนได้แนะนำให้รู้จักกับต่ายทางเฟซบุ๊ก พอได้พูดคุย ก็ยิ่งเข้าใจกันมากขึ้น และช่วยกันเติมเต็มความรักที่ขาดหาย

“ตนรักเขามาก แม้ว่าเขาจะเป็นสตรีมือ 2 ก็ตาม ตนเองก็เป็นพ่อม่ายมาเหมือนกัน คนเราอยู่กันได้ รักกันได้ ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน ต้องขอขอบคุณอดีตพ่อตาแม่ยาย ที่เป็นธุระมาขอเมียใหม่ให้ตน และตนก็รักพวกเขาเหมือนพ่อแม่แท้ๆ เช่นกัน ตนอายุ 30 ปี ส่วนต่ายอายุ 37 ปี ถึงแม้ว่าอายุจะห่างกันถึง 7 ปี แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคความรักของเรา”

ขณะที่ต่าย กล่าวว่า ตนแยกทางกับสามีเก่ามาได้ 3 ปี มีลูกสาว 8 ขวบ 1 คน ลูกชายวัย 15 ปี 1 คน และเป็นคนที่กางร่มให้บอย เจ้าบ่าว ตอนที่แห่ขันหมากมาสู่ขอตนที่บ้าน ตนกับบอยเข้ากันได้ดี เพราะเราสองคนผ่านมรสุมรักกันมาแล้ว ยอมรับว่ารักเขามาก เพราะเขาเป็นคนขยันทำมาหากิน หนักเอาเบาสู้ ไม่ตบตีลูกเมีย และที่สำคัญเขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ต้องขอขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะแม่นิด และสามีแม่นิด รวมทั้งเพื่อนของเขา ที่ทำให้เราสองคนได้มีวันนี้..

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : กสิวัฒน์ สวนเกตุ จ.อุดรธานี
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..