โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรืออีดี (Erectile Dysfunction : ED) เป็นโรคที่พบได้มากในชายวัยกลางคน ซึ่งโรคดังกล่าวแม้ว่าจะไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพทางกายแต่สามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพชีวิต ซึ่งสาเหตุเกิดจากทั้งทางกายและทางจิตใจคือ โรคเบาหวานจัดเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของโรคอีดี นอกจากนั้นยังมีโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอ้วน BMI มากกว่า 23 ภาวะเครียด ความเคร่งเครียดในการทำงานไม่ว่าจะประกอบอาชีพใด หรือแม้แต่วัยหลังเกษียณแล้วก็ตามถ้าเกิดความเครียดความกังวลก็ส่งผลให้เกิดโรคอีดีได้เช่นกัน สามารถพบได้ร้อยละ 20 สิ่งเสพติด พบว่าผู้ที่ดื่มเหล้ามากและสูบบุหรี่จะมีโอกาสเป็นโรคนี้มากเพราะการสูบบุหรี่จัด ส่งผลต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ อายุที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้เป็นโรคอีดีมากขึ้น

ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีความก้าวหน้าในการรักษาโรคอีดี แต่ทางเลือกในการรักษายังต้องพึ่งการรับประทานยาซึ่งยาส่วนใหญ่ที่ใช้รักษาจะเป็นยาในกลุ่มที่ยับยั้งพีดีอี-5 หรือยาเฉพาะกิจ เพื่อช่วยในเกิดการแข็งตัวขององคชาตได้ดีก่อนร่วมเพศ จึงทำให้มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยต้องรับประทานยาเหล่านี้ในการฟื้นฟู ในขณะเดียวกันก็มีผู้ป่วยโรคอีดีอีกจำนวนหนึ่งเมื่อได้รับการรักษาด้วยยาในกลุ่มที่ยับยั้งพีดีอี-5 แล้วอาการไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเบาหวาน ไขมันสูง ความดันสูงเรื้อรัง ปัจจุบันมีวิทยาการใหม่รักษาเส้นเลือดโดยเฉพาะให้ฟื้นฟูกลับสู่สภาพแข็งแรงเช่นวัยหนุ่มให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือการคลื่นเสียงความเข้มข้นต่ำแบบแรงกระแทกจากภายนอก (Low intensive extracorporeal shock wave therapy : LI-ESWT) หรือที่เรียกว่า ช็อกเวฟ ด้วยการปล่อยคลื่นความถี่ต่ำไปที่กล้ามเนื้อเพศ จะพบว่ามีการไหลเวียนเลือดที่องคชาตเพิ่มมากขึ้น และยังไม่พบว่ามีอาการปวดหรือผลข้างเคียงในระหว่างและหลังการรักษาแต่อย่างใด

แพทย์จากประเทศอิสราเอล อินเดีย อังกฤษ ได้รายงานผลงานอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว สร้างความพอใจให้คนไข้อย่างมีเหตุมีผล และลดการใช้ยาเฉพาะกิจลงถึง 50% การรักษาโรคอีดีด้วยคลื่นกระแทกจึงเป็นเทคโนโลยีและทางเลือกใหม่ในการฟื้นฟูในผู้ที่หย่อนสมรรถภาพทางเพศอันมาจากปัญหาของหลอดเลือด และไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาเฉพาะกิจ กลุ่มเบาหวานเรื้อรัง ที่น่าสนใจมากคือกลุ่มคนไข้โรคหัวใจที่ได้รับยากลุ่มไนเตรท แล้วกินยาเฉพาะกิจไม่ได้ เป็นต้น แนวทางการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ป่วยแต่ละรายไม่เหมือนกัน การเลือกวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วินิจฉัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรักษา ฟื้นตัวโดยลดละเลิกการใช้ยาตามอาการมากน้อยของแต่ละบุคคลโดยให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ป่วยมากที่สุด.

……………………………
ดร.อุ๋มอิ๋ม

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…