ข่าวชาวบ้านแห่ขาย เห็ดเผาะ หรือเห็ดถอบ กันคึกคักในช่วงฝนแรกที่กำลังชุ่มฉ่ำ ก็มีข่าวเล็ก ๆ แทรกขึ้นมาด้วย! ลุงป้าถูกจับระหว่างเข้าไปรับซื้อ “เห็ดน้ำเต้าดิน” ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน–ห้วยสำราญ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
ภาพข่าวชาวบ้านนั่งชี้ของกลาง เห็ดน้ำเต้าดิน น้ำหนักเกือบ 1 กก. ถูกทั้ง จนท.อุทยานฯ, ตร. ปทส. และ ตชด.ร่วมจับกุม สร้างความฮือฮาตามด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา ถึงความไม่เท่าเทียมกันในสังคม!! ถึงขั้นนำไปเปรียบเทียบกับหลาย ๆ คดีที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คดีนายทุนใหญ่รุกที่ดินรัฐ, รุกป่า, รุก ส.ป.ก. ฝ่าฝืนสร้างโรงแรม สร้างรีสอร์ท บังกะโล บ้านพักหรู ตามแหล่งท่องเที่ยวป่าเขาสวยงาม กว่าจะจับกุมดำเนินคดีนายทุนใหญ่ ยากเย็นแสนเข็ญ
เอาแค่ ปัญหาบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี บนยอดเขาหลายแห่ง กำลังเปลี่ยนแปลงไปแบบสิ้นเชิง สภาพบนเขา ขอย้ำว่า “บนเขา” หลายจุดบนเกาะสมุย ตอนนี้ยิ่งกว่า “หมู่บ้านป่าแหว่ง” เชิงดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ทั้ง วิลล่าหรู บ้านพักตากอากาศ ไปจนถึงโรงแรมขนาดเล็ก กำลังผุดเรียงราย มีทั้งก่อสร้างเสร็จ และกำลังก่อสร้าง
ภูมิทัศน์ภูเขาที่เคยเต็มไปด้วย ต้นไม้ตามธรรมชาติ หรือสวนมะพร้าว สวนผลไม้ กำลังสูญหายไป กลายเป็น “ภูเขาแหว่ง” อาคารที่พักเหมือนปลูกสร้างตามอำเภอใจไร้ระเบียบ จนมีการตั้งคำถาม เกาะสมุย มาถึงแบบนี้ได้ยังไง?
บางยอดเขาถูกแปรเปลี่ยน เป็น อาณาจักรของชาวต่างชาติ ทั้งฝั่งยุโรปและเอเชีย บรรดา นายทุนใหญ่ เม็ดเงินมหาศาล ทุ่มเงินผ่าน “นอมินี” ชาวไทยถือครอง กว้านซื้อที่ดินสวยงามเอาไว้ทำธุรกิจ ในจังหวะ พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 กำลังเป็นหัวหอก นำ ทีม กอ.รมน. ภ.4 ลุยแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากร ธรรมชาติบนเกาะสมุย เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ “กลุ่มนอมินี” ที่อาศัยช่องโหว่กฎหมายจนประเทศชาติเสียหาย
แต่บนเกาะภูเก็ต พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. นำชุดปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ปฏิบัติการล้างบางเครือข่ายนอมินีต่างชาติในภูเก็ต (CIB Operation Nominee Sweep) จู่โจมตรวจค้น บริษัทรับทำบัญชี บริษัทซื้อขายอสังหาฯ หลายแห่ง ใน จ.ภูเก็ต จับกุมผู้ต้องหา 231 ราย ในฐานะนิติบุคคล 96 ราย, บุคคล 135 ราย ชาวต่างชาติประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต 98 ราย (ส่วนใหญ่ชาวรัสเซีย) และชาวไทยที่เป็นนอมินี 37 ราย ช่วยเหลือสนับสนุนธุรกิจหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยเอาผิดหลายข้อหา
เรียกว่าเมื่อ ตำรวจ ปอศ. ลุยจับแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยบนเกาะภูเก็ต คงต้องถึงคิว กอ.รมน.ภ.4 ลงมือปฏิบัติการบนเกาะสมุยบ้าง ชาวบ้านในพื้นที่กำลังปูเสื่อรอดูอยู่ เพราะก่อนหน้านี้ ไฟไหม้ฟางไปแล้วหลายรอบ เคยสั่งห้ามก่อสร้างเพราะอยู่บนที่สูงลาดชัน อีกทั้งยังสร้างผิดแบบ แต่ก็ไม่ได้ยำเกรงกฎหมาย สุดท้าย ภูเขาแหว่ง ไปแล้วหลายลูก
รัฐบาลเศรษฐา ถ้าไม่เร่งตีเหล็กที่กำลังร้อน บังคับใช้กฎหมายจริงจัง อนาคต ’ขุนเขา“ ที่เคยงดงามตามธรรมชาติ นอกจากจะไม่เหลือให้ลูกหลานได้เห็นแล้ว คงตกเป็นของ ’นายทุนต่างชาติ“ ครอบครองผ่าน กลุ่มนอมินี ร่วมกันหลบเลี่ยงภาษีหลากหลายรูปแบบ
เหนือสิ่งอื่นใด อย่าลืมสาวไปให้ถึง “เจ้าหน้าที่รัฐ” หน่วยงานไหนบ้าง? ที่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ จนปัญหาบานปลายมาได้ขนาดนี้.
………………………………….
เชิงผา
