กรณี “เครื่องบินตกหลุมอากาศ” มีผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เกิดขึ้นครึกโครมและมีการ “เตือนให้ระวัง!!“ อย่างไรก็ตาม กับการเดินทางนั้นไม่ว่าจะพาหนะใด ๆ ก็ล้วนต้องระวัง รวมถึงเรือ “รวมถึงกรณีไฟไหม้เรือ“ทั้งนี้ กับกรณีเรือนั้น…จะเพราะปีมังกร 2567 นี้ “ดวงไฟดุ!!” ดังที่ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้เคยสะท้อนข้อมูลคำทายทักในทางโหราศาสตร์ไปแล้วหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้?? แต่ที่แน่ ๆ คือ…เมื่อย้อนดูตั้งแต่ต้นปี 2567 เรื่อยมา “มีเหตุเพลิงไหม้เรือเกิดขึ้นมาก“ อย่างน่าแปลกใจ??…

“ไฟไหม้เรือในไทย“ หลัง ๆ เกิดถี่“
ตั้งแต่ต้นปี เกิดเหตุแบบต่อเนื่อง“
ภัยกรณีนี้ก็ ต้องระวัง-ต้องเท่าทัน“

เกี่ยวกับเหตุ “เพลิงไหม้เรือ-ไฟไหม้เรือ” ที่เกิดขึ้นหลัง ๆ มานี้…เมื่อลองไล่เรียงดูจากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวก็นับว่าน่าแปลกใจไม่น้อย โดยตั้งแต่ต้นปี 2567 เป็นต้นมา…มีเหตุกรณีนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ… เดือน ม.ค. วันที่ 3 ม.ค. มีเหตุ “ไฟไหม้เรือสำเภาโบราณ“ อายุกว่า 70 ปี ทั้งยังเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ จ.ชัยนาท โดยสาเหตุนั้นสันนิษฐานว่า…อาจเกิดจากการที่เด็กเล่นพลุในบริเวณใกล้ ๆ แล้วไฟจากพลุตกใส่เรือ จนทำให้เกิดไฟไหม้ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่าครึ่งล้านบาท

เดือน เม.ย. ที่เป็นช่วงฤดูร้อน พบว่า…แค่เดือนนี้เดือนเดียวก็มีกรณี “ไฟไหม้เรือ” เกิดขึ้นซ้ำ ๆ คือ…วันที่ 4 เม.ย. มีเหตุ “ไฟไหม้เรือนอนโดยสาร“ ขณะกำลังแล่นในทะเลเพื่อเดินทางไปเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ส่งผลให้ผู้โดยสารเกือบ 100 คนต้อง “หนีตาย” จาก “เหตุระทึก” นี้ แล้วหลังจากนั้น วันที่ 16 เม.ย. ก็มีเหตุ “ไฟไหม้เรือนักท่องเที่ยว“ เกิดขึ้น ขณะที่เรือแล่นอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้คนบนเรือ 24 ชีวิต “หนีตาย” อลหม่าน

ส่วนเดือนนี้ เดือน พ.ค. เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็เพิ่งเกิด “เหตุระทึก” กรณีนี้ คือเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา มีเหตุ “ไฟไหม้เรือยอชท์หรู“ ขณะจอดลอยลำในท่าจอดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยไฟได้ทำให้เรือและทรัพย์สินเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท โชคยังดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ ขณะที่สาเหตุของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ …เหล่านี้เป็นกรณี “ไฟไหม้เรือ“ที่เกิดขึ้น

ที่ปี 2567 นี้ดูจะ เกิดชุกเป็นพิเศษ!!“
เกิด แข่งกับไหม้บ้าน-โกดัง-โรงงาน“

และกับกรณี “ไฟไหม้เรือ” ซึ่งเป็น “ภัยทางเรือ” ที่ก็เป็นอีกภัยที่ “ต้องระวังป้องกัน” เช่นเดียวกับพาหนะอื่น ๆ รวมถึงเครื่องบินนั้น… กับ “คำแนะนำวิธีปฏิบัติตัว“ ในกรณี “ประสบเหตุไฟไหม้เรือ“ กับเรื่องนี้วันนี้ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็จะสะท้อนต่อข้อมูลแนวทางที่น่าสนใจ โดยเป็นข้อมูลของทาง เฟซบุ๊กเพจ 13 Fire Departments ซึ่งได้มีการให้ข้อมูลเพื่อเป็นความรู้กับประชาชนทั่วไปไว้ เพื่อจะได้ศึกษาไว้ให้เกิดความเท่าทัน “เพื่อการปฏิบัติตัวในยามฉุกเฉิน” โดยในแหล่งข้อมูลดังกล่าวได้ให้คำแนะนำในยามที่ประสบเหตุ “อัคคีภัยบนเรือ-ไฟไหม้เรือ” เอาไว้…โดยเฉพาะ “การแจ้งเหตุเพื่อดับไฟ“

สำหรับ “การดับไฟไหม้เรือ” นั้น ข้อมูลโดยเฟซบุ๊กเพจ 13 Fire Departments ได้ระบุไว้ว่า… การปฏิบัติขั้นแรก (Initial
Actions) ของผู้พบเหตุ
ไฟไหม้เรือ“ นั้น…มีความสำคัญอย่างมาก เพราะสามารถจะสร้างความแตกต่างระหว่างไฟที่ควบคุมได้ กับไฟที่อาจทำให้ต้องสูญเสียเรือทั้งลำ เนื่องจากไฟเล็ก ๆ อาจลุกลามจนไม่สามารถควบคุมได้ในเวลาแค่ 2 นาที!! ดังนั้น ลูกเรือ หรือผู้ประสบเหตุคนใด เมื่อมีการ พบเห็นไฟไหม้ หรือพบสิ่งบอกเหตุของไฟ จะต้องรีบกระจายข่าวทันที ด้วยการแจ้งจุดที่เกิดเหตุให้ชัดเจน เพื่อเรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้เข้าทำการดับไฟให้เร็วที่สุด

ในกรณีเป็นไฟขนาดเล็ก และดูเหมือนจะควบคุมได้ กรณีนี้สามารถทำการดับไฟได้ทันที ด้วยการใช้เครื่องมือดับเพลิงเบื้องต้นจำนวนมากกว่าหนึ่งเครื่อง แต่…ถ้าเป็น ไฟขนาดใหญ่ หรือไม่สามารถหาจุดที่เกิดไฟไหม้ได้ หรือเป็นไฟไหม้น้ำมันที่มีกำลังดันอยู่ การดับจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น โดยผู้แจ้งเหตุควรออกจากพื้นที่หลังแจ้งเหตุแล้ว และควรมีการกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกจากพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้สวมเครื่องช่วยหายใจ OBA จะต้องออกมาจากส่วนที่มีควันทันที

นอกจากนี้ ข้อมูลโดย เฟซบุ๊กเพจ 13 Fire Departments ยังอธิบายขั้นตอนการดับ “ไฟไหม้บนเรือ” ของเจ้าหน้าที่ไว้ว่า… เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานและทราบจุดที่เกิดไฟไหม้แล้ว จะมีการประเมินคุณลักษณะของไฟ จุดที่เกิดไฟ เชื้อเพลิงที่เกิดไฟ การลุกลามของไฟ ซึ่งมีผลต่อการวางแผนในการเข้าดับไฟ ดังนั้น ผู้ที่รายงานเหตุไฟไหม้ควรให้ข้อมูลต่าง ๆ อาทิ จุดที่เกิด ประเภทไฟ ให้ครบถ้วนที่สุด …เหล่านี้เป็น “คำแนะนำเบื้องต้น” โดยสังเขป…ใน “กรณีประสบเหตุไฟไหม้เรือ”

ทั้งนี้ กับเหตุ “ไฟไหม้เรือ“ ที่ในไทยหลัง ๆ มานี้ “เกิดขึ้นถี่“นั้น…ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็ขอร่วมเตือนไว้ว่า… “ก็ต้องระวัง-ก็ต้องป้องกัน” ไม่ว่าจะเป็นเรือประเภทใดแบบใด…โดยเฉพาะกับเรือที่มีคนอยู่บนเรือจำนวนมาก ๆ ซึ่ง ทั้งผู้ที่มีหน้าที่ในหน่วยงานที่ควบคุมดูแลเรือ ผู้ที่เป็นเจ้าของเรือ ผู้ที่รับผิดชอบในการเดินเรือ และผู้ที่ไปอยู่บนเรือ ทุกฝ่าย-ทุกคนต่างก็ ต้องไม่ละเลย“ หลัก ปลอดภัยไว้ก่อน“ ที่ก็ ต้องรวมถึงกรณีปลอดภัยจากเหตุไฟไหม้เรือด้วย“ เพราะก็อย่างที่ข้อมูลในแหล่งข้อมูลดังกล่าวข้างต้นระบุไว้ คือ… จากแค่ไฟเล็ก ๆ อาจลามจนควบคุมไม่ได้ในเวลาแค่ 2 นาทีเท่านั้น

ต้อง ปลอดภัยไว้ก่อน“ เหมือนบนฟ้า
บนน้ำต้อง ปลอดภัยไว้ก่อน“ เช่นกัน
ระวัง “เรืออยู่บนน้ำก็ไฟไหม้ระทึกได้“.