จับมือกันพิชิตเป้าหมายสู่การเป็น “มิส แอนด์ มิสเตอร์ ซูปร้าเนชันแนล ไทยแลนด์ 2024” สำเร็จสมความตั้งใจ สำหรับ “แตงกวา-กษมา ซื่อตรง” มิสซูปร้าเนชันแนล ไทยแลนด์ 2024 และ โจ้-ชลวิศว์ วงศ์ ศรีวอ” มิสเตอร์ ซูปร้าเนชันแนล ไทยแลนด์ 2024 ล่าสุดทั้งสองคนได้เผยกับ “เดลินิวส์” ถึงเบื้องหน้าและเบื้องหลังการประกวด รวมทั้งความพร้อมเป็นตัวแทน “สายสะพาย” ประเทศไทย ก่อนบินลัดฟ้าชิงมงกุฎระดับโลก “มิสซูปร้าเนชันแนล 2024” และ “มิสเตอร์ ซูปร้าเนชันแนล 2024” ที่ประเทศโปแลนด์ ช่วงเดือน ก.ค.นี้ ลุ้นมงสอง “มิสซูปร้าฯ” และมงแรก “มิสเตอร์ซูปร้าฯ”

เราทราบกันดีว่าเวทีนี้ต้องฝ่า “ชาเลนจ์” สุดหิน ต้องเตรียมกำลังกายใจยังไง?

แตงกวาเผยว่า “ตัวเองมีจุดมุ่งหมายและต้องทำให้สำเร็จ มันเหมือนเป็นการผลักดันให้พัฒนาตัวเองทุก ๆ วัน ก่อนประกวดเตรียมใจอยู่แล้วว่าต้องพักผ่อนน้อย แต่สุดท้ายเรามีเป้าหมายของเรา เราต้องการไปให้สุดของเป้าหมาย มันเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต และการประกวดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย” เช่นเดียวกับโจ้ที่ลงประกวดเวทีแรกและจะเป็นเวทีสุดท้าย “ผมมีเป้าหมายที่ค่อนข้างชัด ใส่สุดมากทุกกิจกรรม ยามเหนื่อยเราต่างให้กำลังใจกัน คุยกันตั้งแต่วันแรกว่าเราจะไปโปแลนด์ด้วยกันนะ”

สำหรับโจ้ลงสนามเป็นเวทีแรก จุดที่ตัดสินใจประกวด?

ผมไม่สนใจวงการนี้มาก่อน กระทั่งมีโอกาสได้สัมภาษณ์และพูดคุยกับนางงามมาตลอดระยะเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมา สมัยทำงานเป็นพิธีกรงานข่าว ทำให้ซึมซับมากขึ้น เปิดมุมมองมากขึ้น และผมเข้าถึงคนที่มงฯ แล้วมากขึ้น ปีที่ผ่านมามีโอกาสไปทำหน้าที่พิธีกรเวทีใหญ่เวทีหนึ่ง ได้เห็นกระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้น แล้วคนรอบข้างก็เชียร์เป็นเสียงเดียวกันให้ผมลงสมัครปีนี้ ผมได้แรงบันดาลใจจากคนอื่น พอส่งมาแบบนั้นคิดว่าเราก็น่าจะทำได้นะ แล้วมันถึงจุดช่วง “เวลา” และ “อายุ” ที่เหมาะสม ผมทำใด ๆ ทุกสิ่งมาหมดแล้ว เหลืออย่างเดียวที่ยังไม่ได้ทำก็คือประกวดเองเท่านั้น

จากประสบการณ์การประกวด ด้วยบริบทเวทีต่างกัน ต้องปรับตัวมากน้อยแค่ไหน?

แตงกวาเผยว่าสำหรับเวทีมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ ตัวเองเน้นการสปีชเยอะ ส่วนเวทีนี้เน้นหนักทุกด้านเพราะตัดสินใจประกวดเป็นเวทีสุดท้ายแล้ว จึงอยากทำเต็มที่ทุก ๆ อย่าง ในทุก ๆ วัน กว่าจะตัดสินใจมาครั้งนี้ แตงกวาโดนเทรนเรื่องการเดิน การพูดให้รวบรัด กลายเป็นว่าเราพยายามเพื่อให้ถึงเป้าหมายของเรา ต้องการชนะตรงนี้ เพื่อเป็นตัวแทนของสายสะพาย “ไทยแลนด์” ไปประเทศโปแลนด์

คิดว่าวงการนางงามเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” ด้านใดบ้าง?

แตงกวาคิดว่ามีหลายด้านเลยค่ะ ในเรื่องของการพัฒนาตัวเอง สมัยก่อนแตงกวาก็ไม่ได้สวยแบบนี้ แต่ก็พัฒนาตัวเองมาเรื่อย ๆ เพื่อให้รู้สึกมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือออกกำลังกายหนักขึ้น มันไม่ใช่แค่ลุคอย่างเดียวแต่หมายถึงสุขภาพที่แข็งแรง ทำให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ เวทีซูปร้าฯ ของเรา มีการประกวดชาเลนจ์ที่เป็น “ไทยซอฟต์พาวเวอร์” ที่แต่ละคนสามารถเอาซอฟต์พาวเวอร์ที่ตัวเองคิดว่า จะอิมแพคกับคนหมู่มากมาพรีเซนต์บนเวที ซึ่งของแตงกวาจะเป็นข้าวไทย เพราะแตงกวามีโอกาสไปอยู่ต่างประเทศมา ต่อให้เราต้องเดินทางไปหลายกิโลเพื่อซื้อข้าวหอมมะลิมาเราก็ยอม ข้าวไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก คิดว่าอร่อยที่สุดเลย

ส่วนโจ้นำเสนอการสักยันต์จนได้รับรางวัล “SupraFactor” รอบนี้?

ใช่ครับ โจ้มองว่าวงการนางงามควรจะเป็น “ฟันเฟือง”หนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้แล้ว มันเป็นร่มใหญ่ได้เลย ภายใต้คำว่า “นางงาม” หนึ่งเวทีใช้เสื้อผ้ากี่แบรนด์กี่ชุด ผู้สมัครคนหนึ่งใช้เสื้อผ้ากี่ชุดในการประกวด อันนี้เม็ดเงินเยอะแล้วยังไม่รวมช่างแต่งหน้า ช่างทำผม โปรดักส์ชัน คนเดินทางมาชมการประกวด และปัจจุบันโรงเรียนที่สอนเดิน สอนนางงามของไทย มีคนต่างชาติบินมาเรียนเยอะมาก ประเทศไทยจะกลายเป็น “ฮับ” ของนางงามแล้ว คำว่า “นางงาม” เท่ากับ “ซอฟต์พาวเวอร์” คิดว่าควรจะทำให้เป็นรูปธรรม ถ้านำมาผลักดันจริงจังจะไปไกลกว่านี้หลายเท่าตัว

คอนเซปต์ปีนี้คือ “ศรัทธาเหนือความกลัว” เราใช้ศรัทธาอะไรก้าวข้ามมา?

แตงกวากล่าวติดตลกว่า “กลัวผี” แต่ความกลัวลึก ๆ ในจิตใจยอมรับว่ากลัวการไม่ถูกรัก ไม่เป็นที่ยอมรับ สุดท้ายสิ่งที่เราก้าวข้ามผ่านมาได้คือ “การรักตัวเองให้มากที่สุด” หลังจากนั้นเราจะเปิดใจรักคนอื่นได้มากขึ้น การรักตัวเองคือทำให้เราก้าวข้ามความกลัวได้นั่นเอง ดึงเอาศรัทธาที่เรามี ศรัทธาที่เรารักตัวเอง อันนี้เป็นสิ่งที่อยากให้ทุกคนมองหาและกลับมารักตัวเอง

หัวใจหลักของเวทีนี้คือการเป็น “ต้น แบบ” แตงกวาและโจ้ พร้อมส่งต่อคนอื่น ๆ ด้านใด?

แตงกวาเผยถึงการไม่หยุดฝัน!! จะกระตุ้นให้พัฒนาถึงขีดสุด แตงกวาเคยอ้วนมาก่อน สีผิวน้ำผึ้งมักโดนล้อมาตลอด “ดาร์กดำมาแล้ว” แล้ววันหนึ่งเราชนะความกลัวจากคำดูถูก เลิกด้อยค่าตัวเอง หันมาพัฒนาตัวเอง ออกกำลังกาย เล่นกีฬา ดูแลผิวหน้าผิวพรรณให้สวย คนเราไม่ควรหยุดพัฒนาตัวเอง มันสามารถไปได้เรื่อย ๆ เลยกลายเป็นว่าเราเอาชนะความกลัวจากที่เรากลัวคนดูถูก เราก็พัฒนาให้ดีขึ้น จุดสุดท้ายแล้วมันจะกลายเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเรา 

มิสเตอร์ซูปร้าฯ เป็นต้นแบบด้านใด?

โจ้ไม่รู้ว่าเราจะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นอย่างไรได้บ้าง จนกระทั่งมีคนมาบอก เมื่อผ่านชาเลนจ์ต่าง ๆ ที่เวทีนี้มันหินมาก ซึ่งมันไม่มีซูปร้าฯ ประเทศใดทำ ด้วยความที่เราเป็นพิธีกรพูดเก่ง ตรงนี้ไม่มีข้อกังขา แต่พอต้องมาทำเรื่องการเดินแบบ ออกกำลังกายให้หุ่นดี ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่เราทำเป็นประจำ พอคนเห็นแล้วว้าว! ว่าทำได้ โจ้สามารถชนะ Supra Factor รอบเดินแบบชุดว่ายน้ำ คนเลยเหมือนแบบตกใจ เซอร์ไพรส์ ว่าเขาทำได้เนอะ ทั้งๆ ที่เกิดมาไม่เคยทำ โจ้เชื่อว่าเราต้องรู้จักทำเพื่อตัวเองก่อน แล้วในวันที่เราสำเร็จ วันนั้นแหละเราจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นโดยอัตโนมัติ 

สังคมของ “ตัวเต็ง” มีความกดดันไหม?

แตงกวาพยักหน้าทันที “คนมองว่าเรานอนมง แต่ความจริงมันไม่ใช่ ต้องพิสูจน์ตัวเองเยอะมาก ด้านหลังเวทีรอบชุดว่ายน้ำ แตงกวาร้องไห้ฉ่ำมากเพราะกดดันตัวเอง ตอนนั้นยังไม่ได้ Supra Factor เลยสักชาเลนจ์ แล้วชุดว่ายน้ำเป็นสิ่งที่ตัวเองถนัดมากที่สุด พอมีคนทักคนติงรอบซ้อมว่ายังปล่อยไม่เต็มที่ ก็เก็บมาคิดเองว่าเราทำไม่ดีเหรอเลยไม่ชายน์ (Shine) ออกมา พอร้องไห้ปุ๊บ!! เหมือนปลดปล่อยหมด อีกทั้งเพื่อน ๆ ก็ให้กำลังใจ พอเราได้ยินดังนั้นก็ “Let It Go” พอเขาประกาศรางวัลเป็นชื่อเราก็ช็อก!! หลังจากนั้นไม่ร้องไห้แล้ว อย่างน้อยได้สักแฟคเตอร์ก็อุ่นใจ ทำดีที่สุดแล้ว

หลังจากได้ตำแหน่งแล้วตั้งใจจะทำอะไรกัน?

ต้องแก้บนก่อนค่ะ แตงกวากล่าวพร้อมกับหัวเราะ แตงกวาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้เยอะมาก เมื่อพูดถึงตอนนี้โจ้ก็พยักหน้าและกล่าวเสริมว่าบนทุกสิ่งที่บนได้ โดยทั้งคู่คาดว่าน่าจะไปบนอีกครั้ง ก่อนเดินทางไปประกวดที่ประเทศโปแลนด์ โดยแตงกวาจะเดินทางวันที่ 17 มิ.ย. ก่อนชิงชัยวันที่ 7 ก.ค.นี้ ส่วนโจ้จะเดินทางวันที่ 21 มิ.ย. แต่รอบตัดสินจะจัดขึ้นก่อนในวันที่ 4 ก.ค.นี้

สุดท้ายอยากให้ขอกำลังใจจากด้อมของเรากันหน่อย?

พวกเราทั้งสองคนทำเต็มที่และตั้งใจมาก ๆ เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจสำหรับตัวเองและแฟน ๆ ด้วย เพราะว่าสำหรับแตงกวา แฟน ๆ ทุกคนอยากให้คัมแบ๊กมาประกวดทุกปี สมมุติว่าแตงกวาไม่ประกวดปีนี้ แตงกวาจะไม่ประกวดอีกแล้ว อยากให้ทุกอย่างมันจบที่เวทีซูปร้าฯ อยากจะขอขอบคุณแฟน ๆ นางงามทุกคนที่เชียร์แตงกวามาตลอด เชียร์เราสองคนเพื่อเป็นสายสะพายไทยแลนด์

“มันภูมิใจนะคะ ที่ได้พูดชื่อตัวเอง แล้วได้มีชื่อประเทศตามหลัง มันเป็นเกียรติยศของเราทั้งสองคน อยากจะให้ช่วยเชียร์และสนับสนุน แน่นอนว่าพอเข้ากองปุ๊บเราจะไลฟ์ทุกวัน เพื่อให้ทุกคนได้ดูความเคลื่อนไหวของเรา ไม่ปล่อยให้คิดถึงแน่นนอนค่ะ” แตงกวากล่าว และโจ้เสริมทัพว่า “ขอให้ทุกคนวางใจ เราทั้งสองคนจะทำเต็มที่ทุกวัน”

มองเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของทั้งสองคนแล้ว เชื่อมั่นว่า “มงฯ สอง” ของ “มิสซูปร้า เนชันแนล 2024” และ “มงฯ แรก” “มิสเตอร์ซูปร้าเนชันแนล 2024” คงไม่ไกลเกินเอื้อม.

ช้องมาศ พุ่มสวัสดิ์ : เรื่อง จุมพล นพทิพย์ : ภาพ