“น้ำใจ-ช่วยเหลือ-แบ่งปัน” เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกขณะ
อย่างสัปดาห์นี้ “เสือสมุทร” มีเรื่องราวดีๆ ของโชเฟอร์รถสองแถวช่วยเด็กชาย 11 ขวบตกรถส่งกลับบ้านปลอดภัย
“ถนอม เด็ดดวง” เป็นโซเฟอร์รถสองแถวรับจ้างสายหัวถนน-สนามกีฬา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ที่ผู้คนแถวนั้นรู้จักกันดี
ช่วงเย็นย่ำของวันที่ 23 เม.ย. 67 “ถนอม” ได้พบเด็กชายคนหนึ่งทราบชื่อในเวลาต่อมา “น้องเต้” อายุ 11 ปี บ้านอยู่ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เดินร้องไห้อยู่ริมถนน จึงจอดรถสอบถามและแจ้งให้นายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ทราบเพื่อช่วยประสานงานหาทางช่วยเหลือ
“น้องเต้” เด็กน้อยผู้น่าสงสาร เล่าว่า ผมเดินทางจาก อ.จุฬาภรณ์ มาเรียนพิเศษช่วงปิดเทอม ที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ตามปกติจะเลิกเรียนพิเศษตอนเที่ยง แต่วันนี้มีเรียนพิเศษเพิ่มเติมวิชาคณิตศาสตร์ จึงให้รถตู้ที่พ่อแม่ผู้ปกครองร่วมกันเช่าเหมาให้มารับส่งกลับไปก่อน คิดว่าเมื่อเลิกเรียนจะมีรถโดยสารกลับบ้านเองได้ แต่ไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อเลิกเรียนพบว่ารถโดยสารจากในตัวเมืองหมดแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงโทรศัพท์หาแม่ โดยแม่แนะนำบอกให้ไปขึ้นรถกลับบ้านที่ท่ารถหัวถนนศาลามีชัย ซึ่งผมมีเงินติดตัวแค่ 60 บาท ไม่แน่ใจว่าจะเพียงพอกับค่ารถ 2 ต่อจากในตัวเมืองไปถึงหัวถนนศาลามีชัยและจากหัวถนนไปยัง อ.จุฬาภาณ์ หรือไม่
ด้วยไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว “น้องเต้” จึงตัดสินใจเดินเท้าไปตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อไปขึ้นรถโดยสารที่หัวถนนศาลามีชัย และคิดว่าระยะทางคงไม่ไกลนักแค่ 1-2 กม. ไม่นึกว่าระยะทางจริงๆ มันไกลถึง 7-8 กม. เดินมานานกว่า 30 นาทีได้ระยะทาง 3-4 กม. ก็ยังไม่ถึงท่ารถหัวถนนศาลามีชัยเสียมทีและใกล้ค่ำแล้ว จนมาเจอ “ถนอม เด็ดดวง” คนขับรถสองแถวหัวถนนสนามกีฬา จอดรถแถวหัวถนน-สนามกีฬา ลงมาสอบถามและให้การช่วยเหลือ
“ถนอม เด็ดดวง” บอกว่า ตอนแรกขับรถสองแถวโดยสารจากหัวถนนไปยังสนามกีฬา (ขาเขาเมือง) พบน้องเต้ เดินอยู่บริเวณสี่แยกตลาดแขก มุ่งหน้าไปทางสี่แยกหัวถนน จนเมื่อขับรถสองแถวขากลับจากสนามกีฬาไปหัวถนนศาลาชัย (ขาออกเมือง) ก็ยังพบน้องเต้ เดินมาถึงสะพานสวนหลวง ห่างจากจุดแรกประมาณ 3-4 กม. สังเกตเห็นความผิดปกติ โดยน้องเต้ มีท่าทางตื่นกลัวกระวนกระวายใจ จึงตัดสินใจจอดรถลงไปสอบถามและแจ้งให้ศูนย์ข่าวนครศรี 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ทราบ
ผมให้น้องเต้ ขึ้นรถสองแถวของผม และขับไปส่งที่สี่แยกหัวถนนศาลามีชัย โดยคิดวาหากรถโดยสารหมด ก็จะพาไปนอนค้างที่บ้านตนก่อน 1 คืน รุ่งเช้าจะพามาส่งที่เรียนพิเศษ แต่โชคดียังมีรถสองแถวรับจ้างปลายทาง อ.ทุ่งสง ซึ่งเป็นรถเสริมจากเที่ยวปกติเหลืออยู่เป็นคันสุดท้าย แต่รถสองแถวสาย อ.ทุ่งสง เมื่อถึงสามแยกสวนผักจะแยกไปทุ่งสง คนละทางกับ อ.จุฬาภรณ์ บ้านของน้องเต้ จึงประสานแม่ของน้องเต้ ให้ขับรถ จยย.มารับน้องเต้ ที่สามแยกสวนผักระยะทางประมาณ 4-5 กม.และทราบว่าโชเฟอร์รถสองแถวคันดังกล่าวใจดีไม่เก็บค่าโดยสารแต่อย่างใด
แม่ของน้องเต้ เองนั้น ก็ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าได้มารับน้องเต้ที่สามแยกสวนผัก กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย และขอขอบพระคุณคุณถนอม เด็ดดวง และศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช เป็นอย่างมากที่ให้การช่วยเหลือ โดยตามปกติ น้องเต้ จะมาเรียนพิเศษเลิกเที่ยง และจะกลับรถตู้เช่าเหมาพร้อมเพื่อนๆ แต่ในวันนี้น้องเต้ได้ให้รถตู้กลับไปก่อนเพราะตัวน้องเต้ จะไปเรียนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม โดยคิดว่าเลิกเรียนในช่วงเย็นจะยังมีรถโดยสารจากในตัวเมืองตามปกติจะสามารถโดยสารกลับบ้านเองได้ แต่เมื่อเลิกเย็นรถโดยสารจากในตัวเมืองหมด จึงต้องไปขึ้นรถโดยสารที่หัวถนนศาลามีชัย แต่ด้วยความที่น้องเต้ ไม่รู้ว่ามีรถสองแถววิ่งระหว่างตัวเมืองกับหัวถนนศาลามีชัย น้องเต้จึงตัดสินใจเดินเท้าจากในตัวมืองไปยังหัวถนนระยะทาง 7-8 กม.
ต้องขอบคุณพี่ถนอม เด็ดดวง โชเฟอร์รถสองแถวหัวถนนสนามกีฬา ที่สังเกตุเห็น “น้องเต้” แล้วได้จอดรถสอบถามและให้การช่วยเหลือ โดยนำมาส่งที่ท่ารถหัวถนนสนามกีฬา และยังโชคดีที่มีรถสองแถวสายทุ่งสงยังเหลืออยู่ 1 คันน้องเต้จึงโดยสารมาลงรถที่สามแยกสวนผัก
ต้องขอบพระคุณคนขับรถสองแถวสายทุ่งสง อีกคนหนึ่งใจดีไม่คิดเงินค่าโดยสาร ซึ่งตนขับรถ จยย.มารับน้องเต้ จากสามแยกสวนผักกลับบ้านอย่างปลอดภัย
“แม้ทุกวันนี้คนในสังคมจะเห็นแก่ตัว เชื่อไม่ค่อยได้ แต่ในความเป็นจริงในสังคมทุกวันนี้ยังมีคนใจดีมีเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่นที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่ไม่น้อย” แม่น้องเต้ กล่าวในที่สุด
อีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ไม่ใช่สำหรับโชเฟอร์น้ำใจงามอย่าง “ถนอม เด็ดดวง”
…………………………………………………
คอลัมน์ “เรื่องราวดีๆ ของสังคม”
โดย “เสือสมุทร”
ขอบคุณข้อมูล “ไพฑูรย์ อินทศิลา” ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ จ.นครศรีธรรมราช
อ่านเรื่องราวดีๆ ของสังคม ได้ที่นี่..