พบกับคอลัมน์ “สังคมภูมิภาค” ออนไลน์ทุกวันเสาร์ “เมธ บานเย็น” ศูนย์ข่าวเดลินิวส์ภาคอีสานตอนล่าง มารับใช้ผู้อ่านบนโลกออนไลน์ เช่นเดิม วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม 2564
@ “เหมือนเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก”…เดือดร้อนเก่าจาก “โควิด” ยังไม่ทันจางหาย ก็มีเรื่องเดือดร้อนใหม่ “น้ำท่วม” เข้ามาอีก….จากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาไม่กี่วันในหลายพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัดในภาคอีสาน และเกิดขึ้นกับจังหวัดที่อยู่ปลายน้ำ ที่กำลังประสบภัยถูกน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้นั้น
@ ได้สร้างความเสียหายอย่างมากมายมหาศาล แก่ทรัพย์สินของประชาชน…ชาวบ้านจำนวนมากแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ตกทุกข์ได้ยาก หมดสิ้นทรัพย์สมบัติ ที่จมหายและถูกพัดพาไปกับสายน้ำ…รัฐบาล และหน่วยงานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบ ต้องเร่งและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน ทำการฟื้นฟู เยียวยาชดเชยความเสียหาย ตลอดจนสภาพจิตใจ รวมทั้งระบบสาธารณูปโภค และอื่นๆ เป็นการด่วน…
@ ที่ จ.ชัยภูมิ…จากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในรอบ 50 ปี ในเขตพื้นที่จังหวัด โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองชัยภูมิ ต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติทั้ง 16 อำเภอไปแล้วนั้น มีพื้นที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด เป็นเขตภัยพิบัติเกิดน้ำท่วมใหญ่ทั้ง 16 อำเภอ มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 200,000 ไร่ เฉพาะนาข้าว กว่า 140,000 ไร่ ในพื้นที่ 108 ตำบล 1,169 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ขณะนี้น้ำที่ท่วมได้ลดลง และแห้ง ถนนทุกสายในเมืองชัยภูมิ ใช้งานได้ตามปกติแล้วก็ตาม แต่ในขณะเดียวกันยังท่วมอยู่รอบนอกเมือง ด้านทิศใต้ตัวจังหวัด ตามหมู่บ้านต่างๆ ทั้งในพื้นที่ ต.หนองนาแซง ต.บุ่งคล้า และ ต.บ้านค่าย โดยเฉพาะหมู่บ้านติดกับแม่น้ำชี น้ำท่วมที่ท่วมพื้นที่ในหมู่บ้านยังสูงกว่า 1 เมตร ซึ่งชาวบ้านยังเดือดร้อนขาดแคลนเครื่องอุปโภค บริโภคจำนวนมากอยู่
@ จ.นครราชสีมา… ยังต้องประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำในอ่าง “ห้วยบ้านยาง” อีกแห่งหนึ่งที่เกินความจุในรอบ 10 ปี โดย “นายวิเชียร จันทรโณทัย” ผวจ.นครราชสีมา ว่าสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำบ้านห้วยยาง ต.สุรนารี ให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำภายในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ เนื่องจากขณะนี้น้ำภายในอ่างบ้านห้วยยาง มีปริมาณน้ำที่ 6.519 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จากความจุของอ่าง 6.52 ล้าน ลบ.ม. หรือ 100% ของความจุอ่าง จากอิทธิพลจากพายุเตี้ยนหมู่ เป็นต้นมา ทั้งนี้โครงการชลประทานนครราชสีมา แจ้งว่า ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำห้วยบ้านยาง มีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่อ่างอย่างต่อเนื่อง จนระดับน้ำเหนืออ่างใกล้ถึงระดับเก็บกัก และอาจจะไหลล้นผ่านอาคารระบายน้ำล้น ลงสู่คลองธรรมชาติ
@ เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหมือนกรณี “อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร” ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชน ที่อาศัยอยู่ริมคลองธรรมชาติคลองยาง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน จึงได้ออกประกาศแจ้งเตือน พี่น้องประชาชนในพื้น อ.เมือง ต.โคกรวด ต.สุรนารี และ ต.บ้านใหม่ ให้ทราบถึงสถานการณ์ อ่างเก็บน้ำห้วยบ้านยางอยู่ในภาวะเฝ้าระวัง ระดับการแจ้งเดือนสีน้ำเงิน และให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ริมคลองธรรมชาติคลองยาง ให้เก็บทรัพย์สินสิ่งของจำเป็นขึ้นไว้ที่สูงกว่าที่เคย ระวังติดตามมวลน้ำไหลเชี่ยวแรง ดูแลเด็กเล็ก คนชรา และผู้ป่วยติดเตียง พร้อมทั้งประสานท้องถิ่นในพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ในจุดสำคัญทางเศรษฐกิจ จัดหาและสนับสนุนกระสอบทรายให้กับประชาชน เพื่อปิดกั้นน้ำไหลเข้าสู่บ้านเรือนและพื้นที่สำคัญ จัดรถกระจายข่าวแจ้งเตือนประชาชนให้ทั่วถึงต่อไป
@ ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์…ด้านอำเภอคูเมือง มวลน้ำลำเชียงไกร ที่ไหลมาจาก จ.นครราชสีมา ปริมาณน้ำเริ่มเอ่อท่วมบ้างแล้ว ทางอำเภอได้ประกาศ ให้นำสัตว์เลี้ยง และข้าวของขึ้นที่สูงแล้ว เพราะคาดว่ามวลน้ำจะทะลัก และจะหนักหรือมากกว่าปี 2554 โดยที่มูลนิธิสวนแก้ว สาขาบุรีรัมย์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสายบุรีรัมย์-พุทไธสง ติดกับแม่น้ำมูล ต.บ้านแพ อ.คูเมือง ได้มีน้ำเริ่มเอ่อเข้ามาท่วมอาคารบ้างแล้ว หลังจากระดับน้ำของแม่น้ำมูล ได้เริ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพราะได้รับอิทธิพลมวลน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ที่เริ่มหนุนเข้ามา ทางมูลนิธิ จึงได้รับคำสั่งจากพระพยอม ว่าให้เตรียมความพร้อมนำสัตว์เลี้ยง และสิ่งของที่อยู่ในที่ลุ่ม ขึ้นไปที่สูงไว้ทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
@ ที่ จ.ยโสธร…”นายชลธี ยังตรง” ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วย “นางแสงเสน่ห์ เกษกระทุ่ม” หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัด “นางยุพิน ภัทรกุลพงศ์” นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว พร้อมคณะ ร่วมตรวจสอบพนังกั้นลำเซบาย สาย C ขาดชำรุด จำนวน 2 จุด พื้นที่บ้านปักแฮด ต.นาคำ อ.คำเขื่อนแก้ว พนังอยู่ในความรับผิดชอบของโครงการชลประทานจังหวัดยโสธร ส่งผลให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร นาข้าวเกิดความเสียหาย ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ถ้าไม่มีฝนตกในพื้นที่ ซึ่งโครงการชลประทาน กำลังดำเนินการซ่อมส่วนที่ขาดชำรุด
@ ไปที จ.อุบลราชธานี…สถาการณ์น้ำยังต้องเตรียมรับมวลน้ำจากลุ่มน้ำชี ที่จะไหลจากจังหวัดขอนแก่น และน้ำฝนที่จะตกลงมาเพิ่มอีก ทำให้ “นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์” ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี คนใหม่ หลังเข้าทำงาน ได้มอบ 9 นโยบายเร่งด่วน ให้กับหัวหน้าส่วนราชการ, รัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว ได้ลงพื้นที่ตรวจดูสภาพน้ำใน “แม่น้ำมูล” ทันที ที่สถานีตรวจวัดระดับน้ำ M7 ท่าน้ำมูลตลาดสดเทศบาล 3 สะพาน 200 ปี ตรวจดูบ้านเรือนราษฎรที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย เพื่อหาทางช่วยเหลือ และได้เยี่ยมเยียน ดูความเป็นอยู่ของผู้อพยพตามชุมชนต่างๆ ที่ได้อพยพมาพักอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ของเทศบาลนครอุบลฯ และเทศบาลเมืองวารินชำราบ สร้างความอบอุ่นใจให้กับผู้ประสบอุทกภัยเป็นอย่างมาก
บรรยายภาพข่าวสังคม
จ.นครราชสีมา…”พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมคณะลุยน้ำท่วม แจกถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และสร้างขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจ ที่ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา
จ.ศรีสะเกษ…นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดให้การต้อนรับ “ดร.ซก ซกกรัดทะยา” ที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และคณะ เข้าหารือข้อราชการในเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาเครือข่ายการท่องเที่ยวตามแนวชายแดน การเชื่อมโยงการค้า และการแลกเปลี่ยนสินค้าพืชผลทางการเกษตร และสินค้า SME ครบวงจร การพัฒนาความร่วมมือ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา การเชื่อมโยงและการบูรณาการร่วมกันในทุกๆด้าน ตามพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยทางกัมพูชาได้ทำการเปิดประเทศแล้วนั่นเอง
จ.สุรินทร์…“พังโย” กลับมาสู่มาตุภูมิ “นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์” ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมด้วย “พล.อ.ธเนศ วงศ์ชอุ่ม” พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน ร่วมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญให้ “ช้างพังโย” รับขวัญที่หายไปจาก จ.สุรินทร์ นานถึง 18 ปี
จ.อุบลราชธานี…นพ.สุวิทย์ โรจนศักดิ์โสธร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด พร้อมด้วยนางเพชรา โรจนศักดิ์โสธร ประธานแม่บ้านสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ในการให้บริการฉีดวัคซีนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค COVID-19 ให้แก่พี่น้องประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวบ่อบำบัดอำเภอวารินชำราบ, ศูนย์พักพิงห้วยม่วง และศูนย์พักพิงวัดบ้านท่าบ่อ พร้อมกับมอบเวชภัณฑ์ยาสามัญประจำบ้าน หน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ ให้กับคณะเจ้าหน้าที่และพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย
“ประเมธ เพราะพินิจ” หัวหน้าศูนย์ข่าวเดลินิวส์ ภาคอีสานตอนล่าง รายงาน