กฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษ และวัตถุออกฤทธิ์ ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี 

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ติดตามการดำเนินงานและให้กำลังใจผู้ป่วยยาเสพติด ที่รับการบำบัดที่มินิธัญญารักษ์ รพ.อุทัย และชุมชนล้อมรักษ์ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลลุมพลี อำเภอพระนครศรีอยุธยา ตามหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย”

**ชุมชนล้อมรักษ์ต้นแบบบำบัดผู้ติดยา
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำหนดให้การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยเร่งลดความรุนแรงจากภัยยาเสพติดอย่างเป็นระบบและเห็นผลเป็นรูปธรรม ตามแนวทาง “ปลุกชุมชนให้เข้มแข็ง เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วยฯ” กระทรวงสาธารณสุข จึงบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดระบบคัดกรอง บำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดให้ครอบคลุมทุกระดับความรุนแรง เพื่อคืนคนสู่สังคมอย่างปลอดภัย

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า จ.พระนครศรีอยุธยา มีการดำเนินงานเป็นผลสำเร็จอย่างดี โดยผู้ป่วยสีแดงที่มีภาวะวิกฤติด้านจิตเวชและยาเสพติด มีหอผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป รวม 2 แห่ง ผู้ป่วยสีส้ม ที่พ้นภาวะวิกฤติแล้ว มีมินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลวังน้อย ให้การบำบัดระยะกลาง (Intermediate care) ผู้ป่วยสีเหลืองที่ไม่มีปัญหาซับซ้อน จะมีมินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลอุทัย ให้การบำบัดระยะยาว (Long Term Care) ส่วนผู้ป่วยสีเขียว ที่เป็นผู้ใช้ยาเสพติด จะบำบัดโดย “ชุมชนล้อมรักษ์” ที่เป็นกระบวนการบำบัดโดยชุมชนมีส่วนร่วม (CBTx) ซึ่งมีครบทุกอำเภอ รวม 43 แห่ง

**จัดตั้งศูนย์คัดกรองผู้ติดยาทุกตำบล
นอกจากนี้ ยังจัดตั้งศูนย์คัดกรองผู้ติดยาเสพติด 213 แห่ง ครอบคลุมทุกตำบล ตั้งแต่ปี 2566 – ปัจจุบัน คัดกรองผู้ป่วยทั้งหมด 4,380 ราย พบเป็นกลุ่มสีแดง 120 ราย สีส้ม 1,314 ราย สีเหลือง 2,185 ราย และสีเขียว 761 ราย

“การทำงานของชุมชนล้อมรักษ์ โดยเครือข่าย 5 เสือ คือ ทหาร ตำรวจ นายอำเภอ  นายก อบต. และสาธารณสุข ของพระนครศรีอยุธยา ถือว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยปี 2566 มีผู้ป่วยสีเขียวสมัครใจบำบัดถึง 699 ราย ซึ่งมากเป็นอันดับ 7 ของประเทศ ล่าสุด กำลังจะขยายชุมชนล้อมรักษ์เพิ่มขึ้นอีก 23 แห่ง รวมเป็น 66 แห่ง ซึ่งจะช่วยให้คืนคนสู่สังคมอย่างปลอดภัยได้มากขึ้น” นพ.ชลน่าน กล่าว

สำหรับมินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลอุทัย เปิดบริการเมื่อเดือนมกราคม 2567 รับเฉพาะผู้ป่วยชาย จำนวน 8 เตียง ให้การบำบัดระยะยาว (Long Term Care) ใช้ระยะเวลาประมาณ 90-120 วัน และติดตามต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 1 ปี มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรวม 11 ราย ผู้ป่วยกลับสู่ชุมชนแล้ว 5 ราย ทุกรายสามารถประกอบอาชีพ มีรายได้ 300-500 บาท/วัน โดยจากการติดตาม พบว่าผู้ป่วยไม่กลับไปเสพซ้ำ 3 ราย ส่วนอีก 2 รายที่กลับยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ได้ติดตามดูแลเรื่องการลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติดไปพร้อมกับการบำบัดรักษา เพื่อให้สามารถเลิกยาเสพติดได้อย่างเด็ดขาด

**สสส.สนับสนุนเครือข่ายภาคประชาชน
ด้าน นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. สนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่ายภาคประชาชนสร้างพื้นที่ปลอดภัยจากยาเสพติด และเสริมสร้างชุมชนสุขภาวะ ขับเคลื่อนงานป้องกันระดับพื้นที่หมู่บ้านชุมชน ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข มาอย่างต่อเนื่อง เกิดพื้นที่ต้นแบบ 25 แห่ง ใน 48 จังหวัด ป้องกันเด็ก และเยาวชนไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับวงจรยาเสพติด เกิดแกนนำเป็นกลไกขับเคลื่อนงานป้องกันในเครือข่าย 5 ภูมิภาค  2,683 คนรวม 1,527 หมู่บ้าน/ชุมชน สู่การพัฒนาองค์ความรู้การจัดการปัญหายาเสพติดขยายผลสู่พื้นที่ชุมชนอื่นทั่วประเทศ โดย สสส. ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชม มินิธัญญารักษ์ รพ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ของกระทรวงสาธารณสุขเป็นหนึ่งในเครือข่าย “ชุมชนล้อมรักษ์” (CBTx) บำบัดผู้ที่ติดยาเสพติด โดยชุมชนดำเนินการรักษา ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการได้ง่าย ไม่ต้องเดินทางไกล ดูแลทางการแพทย์ จิตสังคม การศึกษา และฟื้นฟู ปัจจุบันมีเครือข่ายกว่า 146 แห่ง รองรับผู้ป่วยยาเสพติดได้ 1,957 เตียง ช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติดให้กลับสู่สังคม ซึ่งการลดปัญหาสิ่งเสพติดทุกประเภทเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ สสส.ในการลดปัจจัยทำลายสุขภาพ สร้างสุขภาวะที่ดีให้กับทุกคนในสังคม