@รัฐบาล”นิดหนึ่ง” บริหารประเทศได้เพียง 7 เดือน ยังไม่มี”ผลงาน” ที่” เป็นชิ้นเป็นอัน” ให้ประชาชนเกิดความ”ศรัทธา” และ”จับต้อง”ได้ อาจจะเป็นเพราะได้นายกรัฐมนตรี” ป้ายแดง” ที่เป็น”มือใหม่ขัดขับ” มาเป็น”ผู้นำรัฐบาล” และอาจเป็นเพราะความ”เร่งร้อน” ในการจัดตั้ง”รัฐบาล” โดยเร็ว เพราะ”สยบคลื่นใต้น้ำ” จึงทำให้การ”จัดทัพ” คนเป็น”รัฐมนตรี” แต่ละ”กระทรวง” ไม่”ตรงปก” ได้คนที่มีความรู้ความสามารถไม่ตรงกับงาน ดังนั้นเมื่อ”นายใหญ่” พร้อม”เศรษฐา ทวีสิน” นายยกรัฐมนตรีตาม”รัฐธรรมนูญ” จึงต้องมีการ”ปรับ ครม. จาก”รัฐบาลนิดหนึ่ง”เป็น”รัฐบาลนิดสอง” ถ้าไม่ หลัง”สงกรานต์” ก็ต้องเป็นต้นเดือน พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ตัว”นายกรัฐมนตรี” ยังเป็น” เสี่ยนิด” ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะต้องเป็นผู้”ขับเคลื่อน” โครงการ”ดิจิจัลวอลเล็ต” ใน”ไตรมาสที่ 4 “ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้ง”นายใหญ่” ยังต้องใช้บริการ”เสี่ยนิด” ในการ”บุกฝ่าขวากหนาม” ทั้งด้าน”เศรษฐกิจ” และ”การเมือง”ไปอีกระยะหนึ่ง ส่วน”เสนาบดี” ที่ถูก”ปรับออก” และถูก”ปรับเข้า” แม้วันนี้จะดูยัง”ไม่นิ่ง” แต่ก็”เห็นตัว” ที่ “ชัดเจน” มากขึ้น เช่น” สมศักดิ์ เทพสุทิน”ที่ต้อง”สละตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี” ที่”ขาลอย” เพราะไม่มี”อำนาจ” อะไร ไปเป็น” เสนาบดี” กระทรวงสาธารณสุข แทน “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” ที่”บอบช้ำ” จาก นโยบาย”ยาบ้า 5 เม็ด” เป็น”ผู้ป่วย” จาก” ประชาชนทั่ว”สารทิศ” ซึ่ง”เพื่อไทย” อ้างว่าต้องการให้”หมอชลน่าน” ไปทำหน้าที่งาน”การเมือง” ใน “สภาผู้แทนฯ ที่เป็นงานถนัดของ”หมอชลน่าน” แต่ สิ่งที่”หมอชลน่าน” ปรารถนา ไม่ใช่งาน”การเมือง” แต่คือตำแหน่ง”ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ที่มี”วันมูหะมัดนอร์ มะทา” นั่งแท่นอยู่ในขณะนี้  ซึ่งมี”ข่าววงใน” แจ้งว่ามีการ”พูดคุย” กัน”ภายใน” เพื่อหาห้วงเวลาที่”เหมาะสม” ให้กับ”วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ที่มีการอ้างว่า”สุขภาพ” ไม่ค่อยจะ”เป็นใจ” กับการทำหน้าที่…..

@สำหรับ”สุทิน คลังแสง” เสนาบดี” ว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งในการทำหน้าที่”เสนาบดี” ด้วยการ”ปกป้อง” กองทัพ มากกว่าการเข้าไป”เปลี่ยนแปลง” นโยบายของ”กองทัพ” จะกลับไปทำหน้าที่ ซึ่งมีความถนัดนั้นคือ”การเมือง” ใน”สภาผู้แทนฯ เพื่อให้”เพื่อไทย” เดินเกมการเมืองในสภาผู้แทนฯใน”เชิงรุก” เป็นเรื่องที่”เหมาะสม” ไม่ใช่เรื่อง”นาเกลียดน่าชัง” แต่อย่างใด…..และเห็นด้วยนะที่ “เศรษฐา ทวีสิน” จะ “ควบตำแหน่ง” เสนาบดีกระทรวงกลาโหม โดยมีการแต่งตั้ง”พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” มาเป็น รัฐมนตรีช่วยกลาโหม เพื่อให้การ”ขับเคลื่อน”งานด้านความมั่นคง ที่วันนี้เป็น”หัวใจ” ของประเทศ ไปได้อย่าง”คล่องตัว” และ”รวดเร็ว” ทันกับ” สถานการณ์”  ความไม่สงบด้านชายแดนฝั่งที่ติดกับ”ประเทศเมียนมา”และใน “สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ซึ่งเป็นงานที่”นายกนิด” ไม่ถนัด และไม่ทัน”เกม”ของ”เพื่อนบ้าน” รวมทั้ง”ประเทศมหาอำนาจ”……ที่ “นายใหญ่” คิดถูกคือการให้ “พิชัย ชุณหวชิร” ผู้ เชี่ยวชาญ ด้าน เศรษฐกิจ ด้าน “ตลาดหลักทรัพย์” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ไปทำหน้าที่”ขุนคลัง”  หรือ “เสนาบดี” กระทรวงการคลัง เป็นการ”ผ่าทางตัน”ของ”เศรษฐกิจไทย”  ที่ผ่านไปแล้ว 7 เดือน ของ”รัฐบาลนิดหนึ่ง”ที่ยังคง”ตกหล่ม” และหาทาง”ตะกาย”ขึ้นมาไม่ได้ เพราะหน้าที่หลักของ”เสี่ยนิด” คือไปทำหน้าที่”เซลล์แมน” เดินทางไป”ขายโครงการใหญ่ๆ” ของ”ประเทศไทย  กับ”ประเทศมหาอำนาจ” ที่ไม่ต่างกับการ”ขายฝัน” จนไม่ได้”ขยับขับเคลื่อน” เศรษฐกิจภายในประเทศเท่าที่ควร…..ส่วน”สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” ที่มาจากครอบครัวในการทำธุรกิจ”แป้งมันรายใหญ่” นั้น 7 เดือน ที่ผ่านไปกับตำแหน่ง”เสนาบดี” กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทุกคนก็คงจะเห็น”ฝีมือ” ของการ”บริหาร” แล้ว จึงอาจจะต้อง”เปลี่ยนตัว” ให้ไปดูกระทรวงอื่นๆเช่น”กระทรวงวัฒนธรรม” ที่มี”เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช” เป็น” เสนาบดี”  ส่วนจะโยกใครมาเป็น” เสนาบดี”กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ฝากให้ “นายใหญ่” และ”นายกนิด” ทบทวนครวญใคร่ ให้มากๆ กระทรวงนี้ต้องการ”เสนาบดี” ที่”มีกึ๋น” มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องของ”การท่องเที่ยว” เพราะเป็น”กระทรวง” ที่สามารถ”ปั๊มเม็ดเงิน” เข้าสู่ประเทศในการ”ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ได้ดีที่สุด…..

@และที่ ทุกฝ่าย “จับตามอง” อย่างไม่”กระพริบ” คือการที่การปรับ”ครม.” ครั้งนี้จะมี”ประชาธิปัตย์” เข้าร่วมรัฐบาลด้วย เพราะ”รู้และเห็น” อย่างไม่ต้อง”เปิดถ้วยดู” ก็รู้ว่า 25 เสียง 25 สส. ของ”ประชาธิปัตย์” ถ้าได้เข้าร่วม”รัฐบาล” ก็ไปไม่หมดทั้งพรรค จะต้องมีสส.จำนวน 5 คน หรืออาจจะ มากกว่า ที่ประกาศ ไม่เข้าร่วม”รัฐบาล” ซึ่งนำโดย “ชวน หลีกภัย” ที่ในอดีตเคยได้ชื่อว่าเป็น”เสาหลัก” ของ”ประชาธิปัตย์” แต่”ปัจจุบัน” คน”รุ่นใหม่” ใน”ประชาธิปัตย์” เห็นว่าเป็น”เสาหัก” เป็น”ฝ่ายค้าน”ในฝ่าย”รัฐบาล”อย่างไม่ต้องสงสัย  ใช่แล้ว 5 เสียง จาก 25 เสียง ของ”ประชาธิปัตย์” ที่ออกมาเป็น”ฝ่ายค้าน” อาจจะทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่”สง่างาม” และเป็นเหมือน”เม็ดทรายในรองเท้า” ที่อาจจะไม่”เจ็บปวด” แต่เป็นเรื่อง”รำคาญใจ” ที่สำคัญ “เพื่อไทย” มีความ”จำเป็น” อะไรที่ต้อง”หาเหาใส่หัว” ในเมื่อเสียงที่มีอยู่”แน่นปึ๊ก” รวมทั้ง”ก้าวไกล” ก็อยู่ใน”ชะตากรรม”ของการถูก”ศาลรัฐธรรมนูญ” ทำการ”ยุบพรรค”…..แต่ถ้า”ประชาธิปัตย์” เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ต้องติดตามดูว่าจะมีการ”ต่อรอง” เพื่อต้องการเข้าไปเป็น “รัฐมนตรีว่าการ” และ”รัฐมนตรีช่วยว่าการ” ของ กระทรวงไหน เพราะ 20 เสียงที่ยอมไป”เสี่ยงตาย” กับการเป็น”พรรคแตก” และอาจจะเป็น”พรรคต่ำสิบ” ในการ เลือกตั้งครั้งหน้า ต้อง”สมราคา” และ”ความสุ่มเสี่ยง”ของ “อนาคต”ทางการเมือง…..

@ถ้าได้เข้าร่วมรัฐบาลจริง  บรรทัดนี้ก็ขอแสดงความยินดีกับ” เดชอิศม์ ขาวทอง” ( นายกชาย) ที่เพิ่งจะจัดงาน”ครบรอบ 60 ปี” เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ที่จะได้เป็น”เสนาบดีป้ายแดง” ตาม”ความฝัน” ที่ต้องการ และเป็น”นักการเมือง” ที่ประสพความสำเร็จในทางการเมืองอีกคนของ จังหวัดสงขลา ส่วนตำแหน่ง” รัฐมนตรีช่วย” ก็ต้องติดตามดูว่า”หวย” จะออกที่ใคร เป็น”ชัยชนะ เดชเดโช” รอง “หัวหน้าพรรค” หรือคนอื่น เพราะถ้าทั้ง” รัฐมนตรีว่าการ” และ”รัฐมนตรีช่วย” ต่าง”กระจุก” ตัวที่”ภาคใต้ “อนาคต” ของ”ประชาธิปัตย์” ก็หนีไม่พ้นพรรค”ท้องถิ่นนิยม” ที่มี”นโยบาย” ในการ”รอร่วม” หลังเลือกตั้ง กับพรรคอะไรก็ได้ ที่เป็นผู้”จัดตั้งรัฐบาล” และความ”ยิ่งใหญ่” ที่เคยมีบน”ถนนการเมือง”ของ”ประชาธิปัตย์” ก็น่าจะ”จบลง” ใน”รูปแบบ” นี้โดยประมาณ……ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล อย่าง”ภูมิใจไทย, พลังประชารัฐ, รวมไทยสร้างชาติ” และ”ประชาชาติ” ยังไม่มีพรรคไหน ที่ออกมา”ให้ข่าว” การปรับเปลี่ยนตำแหน่ง”เสนาบดี” ของ”กระทรวง” ที่ตนเอง”รับผิดชอบ” ซึ่งก็มีอยู่หลายกระทรวงที่”โลกลืม” ว่าใครเป็น”เจ้ากระทรวง” และบางกระทรวงก็มีเรื่อง”อื้อฉาว” ทั้งเรื่อง”สปก.”รุกที่”อุทยาน” และเรื่อง อื่นๆ บางกระทรวงก็ “ปล่อยปละ” ให้มีการ”อนุญาต. ขนย้ายสารพิษ” อย่าง”กากแคดเมี่ยม” จนเข้าสู่”กลางใจเมืองหลวง” อย่างนี้เป็นต้น……ส่วนอีกสองกระทรวง ที่มี”เสนาบดี” มี”ผลงาน” ที่”จับต้องได้” อย่าง” กระทรวงแรงงาน”ที่มี “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” เป็น”เสนาบดี” จากพรรคภูมิในไทย ก็ไม่ควรที่จะมีการ”ปรับเปลี่ยน” แบบ” เปลี่ยนม้ากลางศึก” เพื่อ”เพื่อไทย” ต้องการที่จะเข้ามาบริหาร”กระทรวงจับกัง” เสียเองเพื่อใช้เป็น”เครื่องมือ” ในการสร้าง ผลงานด้วยการ”ขึ้นค่าแรง” ส่วน”กระทรวงยุติธรรม” ที่มี” พ.ต.อ.ทวี สองส่อง” เป็น”เสนาบดี” ซึ่งมีการสร้าง”ผลงาน” ตั้งแต่การ”แก้หนี้ กยศ” การอำนวยความยุติธรรม และการ”ขับเคลื่อน”ปัญหาของ”ยาเสพติด” ทั้งการ”เอาผิดกับพืชกระท่อม, การเอากัญชา” กลับไปเป็นยาเสพติด และการ ปราบปรามขบวนการค้ายา เสพยาที่เป็นปัญหาของสังคม วันนี้งานของ”กระทรวงยุติธรรม” ขับเคลื่อนไปด้วยดี ถ้ามีการ”เปลี่ยนตัว” เสนาบดี  งานที่เดินหน้าก็อาจจะ”สดุด” และต้องไป”นับหนึ่งใหม่” ตามแบบ”การเมืองไทย” ที่ “เสนาบดี” เจ้าของกระทรวง”โละทิ้ง” งานของ”เสานาบดีคนเก่า” ทั้งที่เป็นเรื่องที่ดี……

@ประมวลสถานการณ์ความไม่สงบของจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการบริหารประเทศ “7 เดือน” ของ”เพื่อไทย” และ”7 เดือน” ของ”เศรษฐา ทวีสิน” ในตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” ความรุนแรงเกิดขึ้นอย่าง”ต่อเนื่อง” แม้แต่ในระหว่างเทศกาล”รายอปอซอ” และเทศกาล”สงกรานต์” กองกำลังติดอาวุธ”บีอาร์เอ็น” ยังมีการ”ซุ่มสังหาร” และ”ประกบยิง” เจ้าหน้าที่”ทหาร” ยศ จสอ. สังกัด “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าไปถึง 2 คน ใน 3 วัน และทั้งสองเหตุการณ์เกิดที่ อ.ปะนาเระ และ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี นี่คือความ”ล้มเหลว”ของ”รัฐบาลเพื่อไทย” กับการ”ดับไฟใต้” เพราะการที่”นายกรัฐมนตรี” มองปัญหา”ความมั่นคง”สำคัญน้อยกว่าปัญหา”เศรษฐกิจ” ไม่มีแม้แต่”รมช.” กระทรวงกลาโหม เข้ามาช่วย”บริหารความมั่นคง” ทั้งที่ประเทศไทย”ทุกด้าน” ต่างมีปัญหา”ด้านความมั่นคง. เช่นชายแดน”ภาคเหนือ” และ”ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” เป็นเส้นทางของ”ขบวนการค้ายาเสพติด,การค้ามนุษย์” และ”แกงค์คอลเซ็นเตอร์” แม้จะไม่มี”สงครามระหว่างรัฐบาลเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์” ชายแดนด้านนี้ต้องใช้ กำลัง”ทหาร”เป็นกำลังหลัก ชายแดนด้าน ภาคใต้ ตั้งแต่ จ.ประจวบ.ชุมพร.ระนอง ก็มีปัญหาด้านความมั่นคง ทั้งเรื่อง”คนเถื่อน” และการลักลอบนำเข้าสินค้า”ทางการเกษตร รวมทั้ง”ยาเถื่อน” โค กระบือ” ส่วน “สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ไม่ต้องพูดถึง เพราะ 20 ปี ที่ผ่านมา ยังมีเพียง “เสียงระเบิด, เสียงปืน” คนตาย บาดเจ็บ หญิงหม้าย เด็กกำพร้า คนพิการ เพิ่มขึ้นทุกเดือน…..

@การ”วางระเบิด  การวางเพลิง โรงงานอุตสาหกรรม ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ และ อื่นๆ  ในพื้นที่สามจังหวัด 4 อำเภอ หลังจากที่”เศรษฐา ทวีสิน” ลงพื้นที่ “สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” พร้อมการประกาศ”ก้าวข้ามความรุนแรง” ด้วยการ”ส่งเสริมเศรษฐกิจ”และ”การท่องเที่ยว” คือ”คำตอบ” จาก”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” เพื่อทำลาย”เศรษฐกิจ” และ”การท่องเที่ยว” ตามที่”นายกรัฐมนตรี” มาประกาศเอาไว้ นั้นเอง   ดังนั้น “นายกรัฐมนตรี” ต้องให้ความสำคัญกับปัญหา”ความมั่นคง” ต้องมีการ”ปรับเปลี่ยน” นโยบายของ”กองทัพ” ของ”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ให้”สอดคล้อง”กับ”สถานการณ์” และ”ยุทธศาสตร์” ของ”ฝ่ายศัตรู” ไม่ใช่ปล่อยให้” กองทัพ” และ” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ดำเนินการไปตาม”รูปแบบ” ที่ต้องการ โดยที่”รัฐบาล” และ”รัฐมนตรีกลาโหม” ทำหน้าที่เป็น”ตรายาง” หรือเป็น”โฆษก” เพื่อการ”แก้ต่าง” ให้ “กองทัพ” เพื่อรักษา”หน้าตา” ของ”รัฐบาล” ไป วันๆ อย่างที่ผ่านมา……

@ที่สำคัญ ที่ต้องติดตามคือ “นายรัฐมนตรี” ต้อง”ใส่ใจ” กับการทำหน้าที่ของ”สภาความมั่นคงแห่งชาติ” หรือ” สมช.” ต้องให้ความสำคัญกับ”สมช.” ให้พ้นจากการเป็น”เครื่องมือทางการเมือง” และให้เป็น”องค์กรนำ” ในการทำ”ยุทธศาสตร์”ในด้าน”ความมั่นคง” ของประเทศอย่าง “ถูกต้อง” บน”ฐานของความจริง” แต่ เมื่อดูตาม สถานการณ์ความมั่นคงที่เกิดขึ้น ทั้งที่ชายแดนด้าน จ.ตาก และสถานการณ์ใน “จังหวัดชายแดนภาคใต้” ก็บอกได้ว่า ณ วันนี้ ประเทศนี้ ยังฝาก”ความหวัง” ด้านปัญหา”ความมั่นคง”กับ”สมช.” ไม่ได้ ก็ได้แต่หวังที่จะเห็น” พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์” เลขาธิการ สมช. ที่ไปจาก”รอง ผบ.ตร. ได้ แสดงฝีมือให้เห็น ก่อนที่จะ”เกษียณอายุราชการ” ในวันที่ 30 กันยายน ที่จะถึงนี้…..เห็นด้วยนะกับการที่ “พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์” แม่ทัพน้อยที่ 4 เรียกประชุม หน่วยงาน”ภาคประชาสังคม” ของ “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” เพื่อ”เคาะสนิม” หรือให้ “นโยบาย”งานด้าน”การเมือง”ของ”ภาคประชาสังคม” ที่วันนี้ยังไม่ใช่”คู่ต่อสู้”กับ”ภาคประชาสังคม” ของ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” เพราะ”ยุทธศาสตร์” และ”ยุทธวิธี” ของ”ภาคประชาสังคม”ของ” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ยังไม่มีอะไรใหม่ที่จะไป”ต่อกร” กับ” ปีกทางการเมือง” ของ”บีอาร์เอ็น” ข่าว”วงใน” เล่าว่า มีการ”วิพากษ์”ถึงการทำหน้าที่ของ”ภาคประชาสังคม” ของ” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า “ ว่ายัง”ล้าหลัง” และ”ตามหลัง” ขบวนการ “บีอาร์เอ็น”ไม่น้อยกว่า 10 ปี “พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์” แม่ทัพน้อยฯ  ฟังแล้ว นอกจาก”สะอึก” ก็ต้องเร่ง”ปรับเปลี่ยน” ให้”หน่วยงานนี้” เป็นประโยชน์ในการ”ดับไฟใต้” โดยเร็ว แบบอย่างเก่าๆ ที่ “พล.อ.วิทยา อรุณเมธี” “เสธเปี๊ยก” อดีต ผอ.ศูนย์สันติวิธี และ” พล.ต.ฐกรณ์ เนียมรินทร์” อดีต รอง ผอ.ศูนย์สันติวิธี เคยทำไว้ ก็น่าจะเป็น”แบบอย่าง” ได้อยู่ นอกจากนั้น ยังมี”นายทหาร”หลายนาย เล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมา ปี 2566 งานด้านการ”ต่อสู้ทางการเมือง” ถูก”ละเลย” จนแทบจะไม่มี”กิจกรรม”ใดๆ ในพื้นที่ ถ้าเป็นเรื่องจริงก็เป็น”เรื่องเศร้า” ที่ “แม่ทัพ นายกอง เสนาธิการ” มองไม่เห็นความสำคัญในเรื่องการ”เอาชนะทางการเมือง” ซึ่งถือเป็น”หัวใจ” ของการ”แย่งชิงมวลชน” ใน”สงครามการแบ่งแยกดินแดน……

@การจัด”กิจกรรม” วัน”มาลายูเดย์” ที่เป็นการรวมตัวของ”เยาวชนชาย” ( เปอร์มูดอ) และ”เยาวชนหญิง” ( เปอร์มูดี ) ที่ หาดวาสุกรี อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 13 และ 14 เม.ย. ในปี นี้ ผ่านไปด้วยดี นอกจากการแต่งกายใน”อัตลักษณ์” ของชาว”มาลายู” แล้ว ก็มีเรื่อง”การเมือง” ต่างประเทศ”แทรก”เป็น”ยาดำ” นั้นคือเรื่องของ”นักสู้” และเรื่องของ”ปาเลสไตน์” และเรื่องการที่”นักการเมือง” ( บางคน ) มีการ”แจกเสื้อ” ให้ผู้ร่วมชุมนุม ที่เขียนว่า”ปาตานี ไม่ใช่ สยาม” เป็นเรื่องที่มี นัย อะไรหรือไม่นั้น ก็ให้ทุกฝ่าย “ใคร่ครวญ” เอาเอง…..ส่วน”ควันหลง”หลังการจบ”กิจกรรม” คือการ”ไซโค” และ”ไอโอ” เรื่องตัวเลขของผู้ชุมนุม ที่”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า”ที่รายงานว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุม 8,500 คน ในขณะที่ “กลุ่มผู้จัด” อ้างว่ามีผู้ร่วมงานครั้งนี้ 50,000 คน ก็ไม่รู้ว่า หน่วยงานไหน ที่”สอบตก” เรื่องของ”คณิตศาสตร์” และนี่แหละที่บอกว่าเรื่องของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ทุกฝ่ายมี”ชุดความจริงคนละชุด” และ”พูดกันคนละเรื่องมาโดยตลอด และที่ สำคัญต่างคนต่างมี”เบื้องหลัง” ที่ “แอบแฝง” อยู่……นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจยิ่ง เมื่อ อดีต หัวหน้าคณะ”พูดคุยสันติสุข” สมัยของ”  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็น”นายกรัฐมนตรี” อย่าง “พล.อ.อักษรา เกิดผล” เขียน”บทความ” ไม่เห็นด้วยการการ”พูดคุยสันติสุข” ในกรอบของ”แผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติภาพแบบองค์รวม” ( JCPP ) ที่มองว่าเป็นการเดิน”เข้าสู่กับดัก” ที่จะทำให้”ฝ่ายไทย” เสียเปรียบ เสียรู้ ต่อ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน” บีอาร์เอ็น” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่” รัฐบาล” และ”ฉัตรชัย บางชวด” หัวหน้าคณะพูดคุยคน”ปัจจุบัน” ต้อง รับฟัง โดยเฉพาะการประชุมระะหว่าง”ฝ่ายเทคนิค” ของทั้งสองฝ่ายในปลายเดือน เมษายน นี้ ต้อง”รอบคอบ” และไม่สร้าง”เงื่อนไข” ให้”บีอาร์เอ็น”ได้เปรียบ และที่สำคัญ  “คณะพูดคุยสันติภาพ” ที่เป็น”คณะใหญ่” ต้อง กลับไป “พิจารณา” ถึง”ข้อเสีย” ในแผน “JCPP “ ให้”ละเอียดรอบคอบ” อีกครั้ง ถ้า “ไม่ใช่ “  และ  “ใช้ไม่ได้”  ก็ต้อง”ยกเลิก” และ “ยกร่าง”กันใหม่อีกครั้ง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง”รีบเร่ง” เพราะ รู้ๆกันว่า ฝ่าย”บีอาร์เอ็น” เอง ก็ไม่ได้มีความ”จริงใจ” กับ”โต๊ะพูดคุยสันติสุข” แต่อย่างใด ทุกอย่างเป็นเพียง”กิจกรรม” เพื่อการ”ต่อรอง” และสร้างความ”ได้เปรียบ” ให้เกิด”เงื่อนไข” นำไปสู่”เวทีสากล” เท่านั้น……

@ส่วนการ”ขับเคลื่อน” ของ”คณะพูดคุย”ของฝ่ายไทย ถ้า”ลงลึก” ติดตามดู”บริบท”ต่างๆ มีการนำใคร เข้ามา เป็น “คณะกรรมการ” และ”คณะทำงาน” เพื่อการ”ขับเคลื่อน” ก็จะเห็นถึง”ร่องรอย” ของ”ความ”ลึกลับ” และเรื่อง”งบประมาณ” ที่มีการใช้ในการ”พูดคุย” มากกว่าเรื่องของความ”สำเร็จ” นี้คือ”นิยาม”ของคำว่า”นอนเตียงเดียวกัน แต่ ฝันคนละเรื่อง” ระหว่าง “คณะพูดคุย” ของทั้งสองฝ่าย อ่านแล้วอย่า”หัวเราะ” เพราะนี้คือ”เรื่องจริง”…..นี่ก็”ควันหลง” จาก”เทศกาลสงกรานต์ที่ “หาดใหญ่” เมื่อ”คนหัวใส” นำ”น้ำประปา” มา”ขาย” ให้กับ”นักท่องเที่ยว” ชาวมาเลเซีย ที่เข้ามาเที่ยว”สงกรานต์” ถังละ 1,200 บาท ( 200 ลิตร )  เพื่อใช้ในการ”สาดน้ำ” ปีนี้ ผ่านไปแล้ว แม้ว่าจะไม่มีใคร”แจ้งความ”เอาผิด แต่ ปีต่อๆไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องเข้าไป”ตรวจสอบ” และหาความ”พอดี” ว่าจะ”ซื้อ-ขาย” กันอย่างไร ที่จะไม่เป็นการ”เอาเปรียบ” ผู้ที่เป็น”นักท่องเที่ยว” และอีกเรื่องมีการ”ลอยแพ” นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 120 โดย “ไกด์” ที่เป็นคนไทย ที่เรียก”เก็บเงิน” ค่าจองห้อง แต่”เชิดหนี”จนกลายเป็น”ภาระ” ให้กับ” พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี” นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ต้อง ร่วมมือกับ เจ้าของโรงแรม เปิด”ห้องประชุม” และ”ห้องนวดแผนโบราณ” ให้เป็นที่พัก”ชั่วคราว” เพื่อเป็นการ แก้ปัญหา คนที่”ทำผิด” เดิน”คอตก” เข้าห้องขัง และ พบว่า มี”พฤติกรรม” หลอกลวง นักท่องเที่ยวมาแล้ว หลายครั้ง และ เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุลใหม่ หลายครั้ง เพื่อ หลบหนีการจับกุม”ไกด์” อย่างนี้ “สมาคมมัคคุเทกศ์” ต้องมีการถอนใบอนุญาต เพราะ สร้างความ “เสื่อมเสีย” ให้กับ จังหวัดสงขลา…..โดยภาพรวมของ “จังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่” เทศกาลสงกรานต์” และ” เทศกาลฮารีรายอ” หรือ”รายกปอซอ” ตรงกัน จึงทำให้มี”สองแรงบวก” ที่ทำให้งานเทศกาลสงกรานต์ เต็มไปด้วย”สีสัน” และ”คึกคัก” ในทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด และไม่มีเหตุ”ความรุนแรง”เกิดขึ้น ทุกคนได้รับ”ความสุข” ถ้วนหน้า” ส่วน”สงขลา” มีเรื่อง”อุบัติเหตุ” ที่ยังถือว่า”ไม่ลดลง” ในห้วงของ “เจ็ดวันอันตราย” ซึ่ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำไป”พิจารณา” เพื่อวาง”มาตรการ” ในการ”ลดอุบัติเหตุ” ให้ได้…..

@มีการ ร้องกันมาว่า ใน”ทะเลสาบสงขลา” วันนี้เต็มไปด้วย”ไซหนอน” เครื่องมือการทำประมงแบบ”ทำลายล้าง” มี “สัตว์น้ำตัวเล็กตัวน้อย” ติดไซ จำนวนมาก ที่ถูกนำมา”ขาย” ในท้องตลาด เรื่อง”ไซนั่ง” เรื่อง”โพงพาง” เครื่องมือประมง”ผิดกฎหมาย” ในทะเลสาบสงขลาที่”เต็มพรืด” ก็ยัง”คาราคาซัง” นี้มีเรื่อง”ไซหนอน” เข้ามาสร้างปัญหาขึ้นอีก ก็ฝากให้”สมนึก พรหมเขียว” ผวจ.สงขลา สั่งการให้”ประมงจังหวัด” ติดตาม ตรวจสอบ และ แก้ปัญหาด้วย มีผู้ร้องกันมา ที่นี้ในฐานะของ”สุนัขเฝ้าบ้าน” ก็ต้องทำหน้าที่ แจ้งให้ทราบ…..หลัง”บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล  รอง ผบ.ตร.  ต้อง”ชะตากรรม” ในการทำผิดกฎหมายเรื่อง”ส่วย”และ”ฟอกเงิน” กลายเป็น”ผู้ต้องหา” และรอการ”ฟัน”ด้านวินัย” ว่าจะถึงคราต้อง”สำรองราชการ” หรือไม่ เรื่อง คดี”เกาะหลีเปะ” ที่ อ.เมือง จ.สตูล ก็คงจะ”ขยับขับเคลื่อน”แบบเป็น”หอยทาก” อีกครั้ง เพราะ”เฟืองใหญ่” ในการ”ขับเคลื่อน” คดีนี้คือ”บิ๊กโจ๊ก” งานนี้ข่าวว่า”นายทุนเริงร่า” และ เชื่อว่า เรื่องการ”บุกรุก” ที่ดินของ”อุทยานแห่งชาติ เกาะหลีเปะ” ในส่วนที่ยังไม่มีการ ดำเนินคดี คงเกิดขึ้นต่อไป เพราะเรื่องนี้เป็น”มหากาพย์” ที่เกิดขึ้นนานแล้ว และ “เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น” ก็ต่าง”เอาหูไปนาเอาตาไปไร่” แต่”กระเป๋าตุง” ……จับตา”เกษตรกร” ในพื้นที่ภาคใต้ เห็นถึงปัญหาความ”เสดสา” ที่เกิดขึ้น กับผู้เป็น”เกษตรกร” เช่น ปัญหา”ฝนทิ้งช่วง” ภัยแล้ง แผ่ขยายไปทั่วทุกจังหวัด”สวนทุเรียนขาดน้ำ” ยืนต้นตาย” ต้นปาล์ม”ขาดคอ” เพราะ”ขาดน้ำ” ทุเรียนที่กำลัง”ติดลูก” ลูกร่วง และ”มังคุด” ที่เริ่มมี”ผลผลิต” ราคาตก ส่วน”ยางพารา” ที่ มีการ”ดีอกดีใจ” กันใหญ่ ที่ราคา”พุ่งพรวดๆ” ไปเกือบ 100 บาท ต่อ กิโลกรัม วันนี้ ราคา ลดลงเรื่อยๆ เหลือ กิโลกรัมละ 70 กว่าบาท และถ้าเดือน”พฤษภาคม” ยางพาราเปิดกรีดทุกพื้นที่ “ผลผลิต” ออกสู่”ตลาด” มากขึ้น ราคายังจะ”คงอยู่” ที่ กิโลกรัมละ 70 กว่าบาทอีกหรือไม่ ตรงนี้ “รัฐบาล” และ”กระทรวงที่เกี่ยวข้อง มี”แผน” ในการ”รับมือ” ความเดือดร้อนของ”เกษตรกร” หรือยัง อย่ารอให้มีการ”ปรับ ครม.” หรือรอให้”ไฟลนก้น” แล้วค่อย”รุกลี้รุกรน”เพื่อแก้ปัญหา “รัฐบาลที่ดี” เขาต้องมีการ”วิเคราะห์” มีการ”ประเมิน” และมีแผนในการ”รับมือ” ประเทศเขาจึง เจริญก้าวหน้า…..

@ ฟัง “สรรเพชญ บุญญามณี” สส. เขต 1 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย ถึงเรื่อง”ผลประโยชน์ทับซ้อน” ของโครงการ” แจกเงิน 10,000 บาท หรือ “ดิจิตัลวอลเล็ต” เห็นชัดถึง “ผลประโยชน์” ที่”ทับซ้อน” กัน และ ยิ่งการเปิดโอกาสให้”ร้านสะดวกซื้อ” ใน ตัวอำเภอ เข้าร่วมรายการได้ ก็ยิ่ง”ชัดเจน” ว่า เงิน 10,000 บาท เกือบทั้งหมดจะตกที่”ร้านสะดวกซื้อ” ที่มีสินค้าทุกอย่าง และมีการ ดำเนินการ ตามโครงการ”เงินดิจิตัลวอลเล็ต” ส่วนร้าน”ส่วนร้านชำ” ร้านค้าย่อยในหมู่บ้าน ตำบล “ชิดซ้ายตกขอบ”ไปเลย เงิน 500,000  ล้านบาท ที่ใช้ในโครงการนี้ มากกว่า”ครึ่งหนึ่ง” ก็จะถูก”ผ่องถ่าย” เข้ากระเป๋าของ”เจ้าสัวใหญ่” ผู้กุม”ชะตากรรม”ทาง”เศรษฐกิจ”ของประเทศ อีกครั้ง…..

@เทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านไป เห็น”ชวน หลีกภัย” อดีตประธานสภาผู้แทนฯ ลงพื้นที่ใน”เมืองตรัง” พบปะ “ประชาชน” ร่วมกิจกรรม”ปีใหม่ไทย” แบบเรียบๆง่ายๆตามแบบฉบับของ”นายหัวชวน” ท่ามกลาง”กระแส” เลือกตั้งสมัยหน้าจะไม่มีชื่อ”ชวน หลีกภัย” ลงสมัครใน”บัญชีรายชื่อ” ของพรรค เพราะผู้บริหาร”รุ่นใหม่” เห็นว่าหมดยุคของ”ผู้เฒ่าชวน” แล้ว หรือนี่คือ”เรื่องจริง” ของการเมืองไทย และเป็น”เรื่องจริง” ของ”ประชาธิปัตย์” ในยุคของ”การเมืองบ้านใหญ่”……”เดินก่อน เดินเร็ว และ เดินนำ” คือ การลงพื้นที่”หาเสียง” ของ”ปลัดแป้น” ณรงค์พร ณ พัทลุง  อดีต ปลัดจังหวัดสงขลา ที่กระโดดลง “สนามเลือกตั้ง”เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นครั้งที่ 2 ซึ่ง เที่ยวนี้มีความพร้อม และ “เปิดตัว” ก่อนทีมอื่นๆ ข่าวว่ามีเสียง”ตอบรับ” อย่าง”อบอุ่น” จาก ประชาชน ในพื้นที่ ทำให้”มีไฟ” และ”กำลังใจ” ในการ ลงสนามเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้ อย่างไรเสีย ก็อย่าง”เพลินกับการเมือง” จน”ลืมเป็ดไล่ทุ่ง” ฝูงใหญ่ ที่เลี้ยงเอาไว้นะ” ปจ.”…..

@นี่ก็ ประกาศชัดเหมือนกันว่าจะ”ทวงคืน” เก้าอี้”นายยกเทศบาลเมืองปัตตานี” คือ” พิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์” อดีต “นายก 4 สมัย” ของ เทศบาลเมืองปัตตานี ที่ ครั้งล่าสุด “ปราชัย” คู่แข่ง เพราะถูก”สาดโคลน” ในเรื่อง”ศาสนา” เที่ยวนี้ เตรียมตัวมาดี และ คนในพื้นที่ มีการ”เทียบชั้น” กับ”คู่แข่ง” แล้ว ลงความเห็นว่า” พิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์” มี”กึ๋น” ของความเป็น”ผู้บริหาร” และ”นักเมือง” มากกว่า และสร้างประโยชน์ให้”เทศบาลปัตตานี” มากกว่า ก็อย่าเดินเร็วนัก “แดดร้อน” เป็นห่วง”สุขภาพ”นะ…..

@เตือนมาจาก เจ้าหน้าที่ประมง ถึง กลุ่มผู้”เลี้ยงปลากะพง” ใน จ.สงขลา ให้ดูแล ปลาในกะชัง ให้ดีๆ เพราะ อากาศที่ร้อนกว่าทุกๆปี อาจะมี”ผลกระทบ” ที่ทำให้ปลาตายได้ ลำพังการที่ผู้เลี้ยงปลากะพง ต้อง”แข่งราคา” กับปลากะพงที่มีการ”นำเข้า” จาก”ประเทศมาเลเซีย ก็”สาหัสสากรรจ์” อยู่แล้ว ถ้า”ปลาตาย” เพราะ”อากาศร้อน” เข้าอีก น่าจะถึงความ”หมดตัว” กันอีกครั้ง  ก็เตือนมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใน…..แล้วพบกันใหม่ วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ

———————————————————–

ไชยยงค์ มณีพิลึก

ดอกไม้พระราชทาน.   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส อัญเชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4613 กรมทหารพรานที่ 46 จำนวน 5 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากการซุ่มโจมตีของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ซึ่งรักษาตัวที่ ร.พ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส

ห่มผ้าพระนอน.   ณรงค์พร ณ พัทลุง (ปลัดแป้น ) ร่วมกิจกรรม”ทำบุญเดือนห้าห่มผ้าพระนอน และ รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ พระเถระผู้ใหญ่ ในเทศกาลสงกรานต์ ณ วัดมหัตตมังคลาราม ( วัดหาดใหญ่ใน) โดยมี เอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นประธานในพิธี

วันผู้สูงอายุ.   พล.อ.อาคม พงศ์พรหม อดีต ปษ.ทบ. อดีต ผบ.มทบ.41เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่า และเปิดงานวันผู้สูงอายุ ณ วัดทุ่งหล่อ ต.ควนชุม อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรม ราช

พิธีปลุกเสก.   เอก  ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ พร้อมด้วย  ปารเมศ เห้งสวัสดิ์   นายอำเภอสทิงพระได้เข้าร่วมพิธีปลุกเศกหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด”รุ่นเสาร์5″ณ  วัดพะโคะ  ต.ชุมพล อ. สทิงพระ จ.สงขลา

ห่มผ้าพ่อท่านฯ.  อำพล พงศ์สุวรรณ ผวจ.ยะลา  เปิดงานประเพณีห่มผ้าพ่อท่านบรรทม (พระพุทธไสยาสน์) ประจำปี พ.ศ.2567 พร้อมด้วย ฉลวย พงศ์สุวรรณ นายกเหล่ากาชาด จ.ยะลา ธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล  อำนาจ ชูทอง รอง ผวจ.ยะลา นายอำเภอเมืองยะลา  นำหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน พุทธศาสนิกชน แห่ผ้า ห่มผ้าพ่อท่านบรรทม (พระพุทธไสยาสน์) และนุ่งผ้าท่านเจ้าเขา ถ้ำพระนอน ณ วัดคูหาภิมุข ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา

สืบสานประเพณี.   มุขตาร์ มะทานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา มอบหมายให้ เฉลิมพล เรืองเริงกุลฤทธิ์ รอง นายก อบจ.ยะลา เป็นประธานในโครงการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเพณีวันสงกรานต์ และพิธีสรงน้ำพระพุทธรูป และรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ โดยมีเจ้าหน้าที่ในสังกัดฯและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมโครงการฯ ณ วัดพุทธภูมิ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา

ห่มผ้าฯ.    นพพร หนูเพชร นายอำเภอเมือง จ.ยะลา   ร่วมพิธีห่มผ้าพ่อท่านบรรทม ( พระพุทธไสยศาสตร์) เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ณ วัดคูหาภิมุข (วัดหน้าถ้ำ) ต.หน้าถ้ำ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา

ขอพรสงกรานต์.  นิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย กัลยา บุญญามณี อดีตปลัดเทศบาลนครสงขลาให้การต้อนรับ  ประธานชมรมไทเก็กสวน 72 พรรษาเทศบาลนครสงขลาและสมาชิกชมรม ในโอกาสเดินทางมารดน้ำดำหัว และขอพรวันสงกรานต์ ณ บ้านพักเขารูปช้าง  อ.เมือง จ.สงขลา

รดน้ำขอพร.   คณะ พสบ.19  รดน้ำขอพร เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ ( ปีใหม่ไทย )ต่อ พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ณ ห้องรับรอง มณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

สงกรานต์ ศอ.บต.  ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นำโดย นันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการฯ แต่งชุดไทย ร่วมรดน้ำขอพร พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต.เนื่องในวันสงกรานต์ (ปีใหม่ไทย.) ณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อ.เมือง จ.ยะลา

ลงพื้นที่.     บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและหกรณ์ พร้อมด้วย  ทัศนีย์ เมืองแก้ว ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   นิรันตร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะลงพื้นที่ตรวจราชการและพบปะพี่น้องเกษตรกร ได้รับฟังการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกแตงโมเกาะสุกร เกษตรกรผู้ปลูกเมล่อน “มีตรังฟาร์ม”และเกษตรกรสมาชิกธนาคารปลูกม้า ในพื้นที่ตำบลเกาะสุกร เพื่อรับฟัง และร่วมแก้ไขปัญหา

ตรวจสอบ.   อิศร เอกพิศาลกิจ รองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดตรัง   นำคณะฯลงพื้นที่ติดตามโครงการ ในพื้นที่ ต.ปะเหลียน  อ. ปะเหลียน จ. ตรัง   โครงการก่อสร้างทางเดินยกระดับ และลานจอดรถ  ในวนอุทยาน น้ำตกพ่าน งบประมาณ 4,325,000 บาท  ลานจอดรถได้สร้างแล้วเสร็จ  ส่วนทางเดิน สร้างไปได้ประมาณ 65% หัวหน้าอุทยานยืนยันว่าเสร็จตามเวลาที่กำหนดอย่างแน่นอน

แข่งกีฬา.   ณ สนามโรงเรียนวัดท่าพญา  ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ณัฐวุฒิ สังข์สุข นายอำเภอปะเหลียน เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันกีฬาประจำปี เทศบาลตำบลท่าพญา พร้อมมอบรางวัล และถ้วยรางวัล ให้กับ กีฬาฟุตบอล และกีฬาเปตอง

แข่งเรือ.  ไพเจน มากสุวรรณ์ นายกอบจ.สงขลา ได้เป็นประธานเปิดงานสืบสานประเพณีการแข่งขันเรือพายประจำท้องถิ่นปี 2567.ณ อบต.ป่าขาด  อ.สิงหนคร  จ.สงขลา

บ้านปันสุข. พ.ต.อ.ถาวร ผลกล้า ผกก.สภ.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา นำคณะลงพื้นที่ ติดตามความคืบหน้าโครงการบ้านปันสุข ซึ่งเป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างตำรวจกับประชาชน ณ หมู่ที่ 2 ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา

ตรวจเยี่ยม   ธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รอง ผวจ.ยะลา นำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วม ช่วงรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567  จำนวน 4 จุดตรวจ ในพื้นที่ อ.รามัน และ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ประกอบด้วย จุดตรวจหน้า สภ.รามัน ,จุดตรวจ โกตาบารู  ,จุดตรวจหน้า ชคต.กรงปินัง, และจุดตรวจหน้าที่ว่าการอำเภอกรงปินัง พร้อมทั้ง ได้มอบสิ่งของ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่

สร้างขวัญกำลังใจ.  ว่าที่ พ.ต.อ.ต่อพันธุ์ ปุสันเทียะ ผกก.สภ.กรงปินัง จ.ยะลา พร้อมด้วยทีมงาน ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมจุดตรวจการรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 พร้อมมอบสิ่งของ ขนมและน้ำดื่ม เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติหน้าที่ ณ.ชคต.กรงปีนัง จ.ยะลา

สงกรานต์ชายแดน.    พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม. ผกก.สภ.สะเดา จ.สงขลา นำกำลัง รักษาความเรียบร้อย และต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางมาเล่นสงกรานต์ ในพื้นที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจ ชายแดนไทย-มาเลเซีย