ยิ่งเป็นนักแสดงอิสระยิ่งเนื้อหอม สำหรับนางเอกหน้าหวาน บัว-นลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ ที่ตอนนี้งานละครและซีรีส์จ่อคิวออกอากาศเพียบ คอลัมน์ “ดาวต่างมุม” สัปดาห์นี้ มีนัดกับสาวบัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เลยต้องถามถึงบทบาทการแสดงที่หลากหลาย กล้าที่จะก้าวออกจากเซฟโซนเดิม ๆ เพื่อเจอสิ่งใหม่

 อัปเดตหน่อย ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?

“มีช่วงหนึ่ง ถ่ายละคร 7 วัน เพิ่งปิดกล้องเรื่อง ปริศนาปมไหม ไป ตอนนี้กำลังถ่าย รักมั้ยนะ เลขาคิม?”(Whats Wrong with Secretary Kim?) เวอร์ชันไทย แต่ใกล้จะปิดกล้องแล้วเหมือนกัน แล้วก็มีซีรีส์เรื่อง “Emergency Couple เวอร์ชันไทยแล้วก็เรื่อง “Remember จำ จน ตายที่ผ่านมาบัวไม่ได้หายหน้าไปไหน ถ่ายซีรีส์ตลอดค่ะ แต่แค่ยังไม่ได้ออนแอร์แค่นั้นเอง หลังจากนี้ก็จะออนติด ๆ กันนิดนึง”

มีปัญหาเรื่องการแยกคาแรกเตอร์บ้างไหม?

“ใช่ค่ะ แต่ละเรื่องค่อนข้างคนละขั้ว แตกต่างกันมาก อย่างเลขาคิมก็กุ๊กกิ๊กหวานเวอร์ ดูมุ้งมิ้ง ความรักสีชมพู แต่พอไปเรื่องปริศนาปมไหม คือ เปลี่ยนเลย ดราม่า สืบสวนสอบสวน ฆาตกรรม เรื่องนั้นบัวก็เล่นเป็นเด็กออทิสติก เลยแตกต่างกันมากเลย อย่างเช่น บัวถ่ายเลขาคิมวันจันทร์-พุธ แล้วพฤหัส เปลี่ยนมาเป็นอีกเรื่องนึง มันเปลี่ยนคนละขั้วเลย สถานที่ โลเกชัน การถ่ายทำมันก็แตกต่างกันมาก มันก็ดีอย่างที่มันทำให้เราแยกคาแรกเตอร์ออกอย่างชัดเจน พอเราไปอยู่ในสถานที่มันจะทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นตัวละครตัวนั้นได้”

รีวิวการเป็นนักแสดงอิสระหน่อย?

“สำหรับบัว บัวแฮปปี้กับตรงนี้นะคะ ตอนอยู่ช่องไม่ใช่ไม่ดี ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย ตอนอยู่ช่องบัวก็ได้รับโอกาสดี ๆ สำหรับบัว การอยู่ช่องเป็นเหมือนเซฟโซนของเราเราได้ทำงานต่อไปเรื่อย ๆ แต่เหมือนพนักงานประจำที่เราทำงานมานานจนถึงจุดที่เรารู้สึกว่าอยากออกไปเจออะไรใหม่ ๆ ดู พอออกมาบัวรู้สึกว่าเราได้รับคาแรกเตอร์ใหม่ ๆ มากขึ้นมันก็ท้าทายความสามารถของเราด้วย มันก็ดีคนละแบบ เราก็แฮปปี้ ณ ตอนนี้”

ตัดสินใจนานไหม?

“นานนะคะ เพราะเหมือนเราจากบ้านที่เราอยู่มานาน ตอนออกมาก็แอบกังวลเหมือนกันนะว่าจะโอเคไหมนะ แต่ก็ต้องลองดูสักครั้งนึงในชีวิต ถ้าเราไม่ลองออกจากเซฟโซนเลย ก็จะมีคำถามอีกว่าแล้วมันจะยังไงนะ เราจะยังอยากทำอยู่ไหม อะไรแบบนั้นค่ะ ตอนนี้ถึงจะออกมาเป็นนักแสดงอิสระแต่ก็ยังมีหลายอย่างที่บัวยังถือว่าอยู่ในเซฟโซนที่ยังไม่กล้าก้าวออกมาเหมือนกันในหลาย ๆ เรื่อง ก็พยายามปรับปรุงตัวเองให้กล้าที่จะลองทำ ถ้ามันไม่ดีสำหรับเราเราก็ลองใหม่ ทำใหม่แค่นั้นเองค่ะ ตอนนี้ก็ถือว่าโอเคแล้ว”

สิบกว่าปีกับอาชีพนักแสดงเป็นอย่างไรบ้าง?

“บัวชอบอาชีพนักแสดงนะคะ ยังคงเป็นอาชีพที่เราอยากทำต่อไปเรื่อย ๆ แต่ยอมรับว่ามีช่วงจังหวะหนึ่งที่รู้สึกว่าเหนื่อยจังเลย ไม่อยากทำแล้ว มีช่วงหมดแพสชันเหมือนกันนะ ไม่อยากทำอะไรเลย อยากอยู่เฉย ๆ ประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว บัวว่าสาเหตุมาจากหลาย ๆ อย่าง อาจจะด้วยบทด้วย คือ กว่าบัวจะมาถึงตรงนี้ได้ก็ไม่ได้ง่าย อุปสรรคเยอะกว่าจะผ่านมาได้ มีคำสบประมาทอะไรหลาย ๆ อย่างที่เคยทำให้รู้สึกว่าหรือเราไม่เหมาะกับวงการนี้นะ แต่ก็มีช่วงจังหวะที่เราดึงตัวเองขึ้นมาได้ว่า เราต้องทำให้เขาเห็นสิว่าเราทำได้ เราใช้ความพยายามของเรา ก็ไม่คิดเหมือนกันนะว่าจะอยู่มานานเป็นสิบปีขนาดนี้”

ย้อนไปถึงงานแรกในวงการ?

“บัวเริ่มจากการถ่ายโฆษณา น่าจะไม่มีใครเห็นเลย มันเป็นโฆษณา เบอร์ฮอตไลน์ 1900 1900 เด็กยุคใหม่ไม่เก็ทแล้ว ตอนนั้นญาติชวนไป ค่าตัว 1,500 บาท ตอนนั้น ม.2 ผมสั้นอยู่เลย ค่าตัวก็ถือว่าเยอะแล้ว เราก็แบบ หึ้ย! นี่คือการหารายได้ของเรา และวันนั้นพี่ชายไปเฝ้า เสร็จปุ๊บชวนพี่ไปสะพานพุทธเลย ซื้อเสื้อผ้าให้พี่ แล้วเงินก็หมดเลย (หัวเราะ) เราก็ภูมิใจเพราะเป็นการหาเงินได้ครั้งแรกของเรา คือ บัวทำงานเก็บเงิน อยากได้อะไรก็ใช้เงินตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ไม่ค่อยได้ขอพ่อแม่เท่าไหร่ แต่ก็มีช่วงที่เราหยุดไปเพื่อเรียน ไม่ได้ทำงานเลยก็มีนะคะ กลับมาเริ่มทำงานจริงจังตอนเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะเราไม่อยากทำงานประจำ รู้ตัวว่าเป็นคนขี้เบื่อ เลยส่งโปรไฟล์ตัวเองไปแคสต์โฆษณา บัววิ่งแคสต์หลายงานมากต่อวัน อาศัยใช้ความถี่ เน้นปริมาณมันต้องมีสักงานที่ได้แหละ ก็งานแรกไม่ได้ ได้งานที่สอง ก็ใจชื้นละ แล้วก็ได้มาเรื่อย ๆ โฆษณา จนมาเจอผู้จัดการพี่แพร ชวนไปเซ็นกับช่อง 3 ก็นานกว่าคนจะจำบัวได้ เพราะก่อนหน้านี้จะได้บทที่แบบอยู่แล้วคนจะอยากให้เอามันไปเก็บอ่ะ คนจะรำคาญซะส่วนใหญ่ แต่เราก็รู้สึกดีนะ เพราะอย่างน้อยก็เล่นให้คนเกลียด ก็ประสบความสำเร็จนะ”

วงการนี้ถ้าเริ่มจากนางร้ายมาเป็นนางเอกยากนะ?

“ใช่ค่ะ บัวก็โชคดีที่บัวยังได้รับโอกาส”

ตั้งรับเรื่องวัฏจักรขึ้นลง ของอาชีพนี้ไว้ยังไง?

“บัวคิดว่าเราคงจะต้องหาช่องทางในการทำอะไรอีกสักอย่างเพื่อเป็นตัวซัพพอร์ตในวันที่เราหยุดทำงาน แต่ตอนนี้บัวก็ยังไม่ได้มองเพราะบัวมองว่าอีก 10 ปีข้างหน้าบัวก็ยังอยากเป็นนักแสดงอยู่ แต่ว่าก็รู้ว่าช่วงอายุจะทำให้บทบาทที่ได้รับมันเปลี่ยนไป แต่บัวก็รู้สึกว่าเราเลือกได้ว่าอะไรที่เราอยากทำ บทไหนที่เราอยากเล่น ก็ยังอยากเล่นต่อไปเรื่อย ๆ เพราะเป็นสิ่งที่เราชอบ”

 เคยอ่านสัมภาษณ์บัวเรื่องความรักว่าจะไม่เปิดตัวจนกว่าจะแต่งงาน?

“บัวไม่ได้อยากให้มาโฟกัสเรื่องความรักของบัว บัวแฮปปี้กับการอยู่แบบนี้แหละ ให้เกียรติคนที่บัวคุยอยู่ด้วย ให้เขาได้ใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องมีใครมาสนใจ แล้วเขาก็สบายใจแบบนั้นเราไม่ได้อยากคบใครแล้วเปิดตัวแล้วสุดท้ายก็เฟล ไม่อยากเลิกกับใครแล้วมาเสียใจ แล้วต้องมาบอกให้คนอื่นรู้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงเลิกกัน ก็เลยใช้ชีวิตไปแบบนี้ เขาเป็นคนนอกวงการด้วย ถ้ามีคนไปสนใจเขาต้องไม่ชินแน่ ๆ”

เขาชินมั้ยที่มีแฟนเป็นดารา?

“ก็โอเคนะคะ เขาเป็นคนให้เกียรติและน่ารัก อย่างเวลามีคนมาขอถ่ายรูปเขาก็จะเดินแยกออกไป รอให้เสร็จก่อน”

ทุกวันนี้มุมมองความรักเปลี่ยนไปมั้ย?

“ก็เปลี่ยนนะ อย่างละครที่บัวเล่น มันมีคำถามว่าเราจะเลือกอะไรระหว่างคนที่รักกับคนที่ใช่ ถ้าสมมุติต้องเลือกในวัยเด็กเราคงจะมองแค่ความรักอย่างเดียว คงเลือกคนที่รัก ต่อให้เขาจะทำให้เราเสียใจแค่ไหนเราก็คงจะยอมอดทนเลือกคนที่รัก แต่พอโตขึ้นมันถอยออกมามองภาพรวมมากขึ้น เราไม่ได้มองแค่ข้อดีของเขา เราต้องยอมรับข้อเสียของเขาให้ได้ด้วย คนเราถ้าจะคบกันไปให้ความสัมพันธ์มันยืดยาวจริง ๆ เราต้องยอมรับข้อเสียของกันและกันให้ได้ มันต้องมีคนที่เสียสละ ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างไม่ยอม ก็รู้สึกว่า
ณ เวลานี้ต้องเจอคนที่ใช่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนที่ใช่ ก็ต้องเกิดจากการที่เรารักตัวเองก่อนแล้วมันจะนำพาคนที่ใช่มาในเวลาที่ถูกต้อง”

ชอบเด็กไหม?

“ชอบเล่นกับเด็ก แต่นึกภาพตัวเองไม่ออกเหมือนกันว่าถ้ามีลูกแล้วจะเลี้ยงลูกได้ไหม เพื่อน ๆ รุ่นเดียวกันก็มีทยอยมีลูกไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่ที่ถามก็ยังไม่ค่อยมีใครบอกว่าอยากมีลูก ด้วยสังคมมันเปลี่ยนไปด้วยแหละ บัวเคยคิดอยากมีลูกนะตอนช่วงอายุ 20 กว่า ๆ อยากโตทันลูก แต่พอเลยช่วงวัยนั้นมาแล้วก็รู้สึกว่ามีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ไม่ติดอะไร อยากใช้ชีวิตก่อน อยากมีเวลาให้ตัวเองเพราะทำงานมาเยอะ เริ่มคิดเรื่องฝากไข่แล้วเหมือนกัน เพราะทุกคนบอกว่าลองไปฝากก่อนไหม เผื่อในอนาคตอยากมี ก็ต้องรีบแล้วล่ะ (หัวเราะ) พอมันถึง 30 แล้ว ความรู้สึกมันเปลี่ยนนะ คือ ใจเรามันได้ แต่ร่างกายมันเห็นชัดมากเลยว่า เลข 2 กับ เลข 3 มันต่างกันจริง ๆ เช่นเรื่องทำงาน ตอนเลข 2 เราทำงานทุกวันเราแค่นอนแล้วตื่นมาเราก็ทำต่อได้ แต่พอเลข 3 มันใช้เวลานานกว่า มันไม่เหมือนเดิมแล้วจริง ๆ แต่ก็ยังไหวค่ะ ใจเรายังสู้อยู่ ต้องคิดว่าตัวเองไม่แก่”

เห็นว่าบัวค่อนข้างให้ความสำคัญกับแฟนคลับมากเลย?

“ใช่ค่ะ เขาเป็นคนที่ทำให้บัวมีทุกวันนี้ไม่ใช่แค่ตัวเราเอง เขาก็ช่วยทำให้เรามาอยู่ตรงนี้ได้ ทำให้เรามีกำลังใจ เวลาเราทำอะไรเรามีคนให้นึกถึงว่าเราทำเพื่อใคร จริง ๆ แค่เขามาหาบัวก็ดีใจแล้ว และเวลาเขามาหาเขาจะมีพร็อพน่ารัก ๆ มาให้ เขาตั้งใจทุกอย่างมันสัมผัสได้ว่ามันคือความจริงใจที่เขามีให้เราจริง ๆ เราก็อยากตอบแทนให้เขาบ้าง เราไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้เขาได้บ้าง เราก็ให้ใจเขา อะไรทำให้ได้ก็อยากทำให้ค่ะ”

มีอะไรอยากฝากถึงแฟน ๆ ไหม?

“ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ อยากขอบคุณแฟนคลับที่เขาคอยให้กำลังใจคอยซัพพอร์ตในทุก ๆ เรื่องจริง ๆ ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ยังเสมอต้นเสมอปลาย เขาน่ารักมากจริง ๆ ขอบคุณเขามาก ๆ ที่คอยเป็นกำลังใจให้ตลอด ก็อยากฝากให้เป็นกำลังใจให้ด้วย ไปเล่นช่องไหนก็ฝากตามไปดูด้วยนะคะ แล้วก็มีอะไรก็คอมเมนต์กันได้บอกกันได้”.

นฤมล แซ่แต้ : เรื่อง