ชีวิตที่น่าสงสารของเด็กหญิงณิชานันท์ ลาดนาเรา หรือ น้องจูน ลูกครึ่งไทย-บาห์เรน วัย 10 ขวบ อาศัยอยู่กับ นางทองเหลือง หรือ ยายไก่ คงเมือง อายุ 62 ปี ผู้เป็นยาย ในบ้านเช่าเลขที่ 274 หมู่ 2 ตำบลคณฑี อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร สองยายหลานยากจนต้องอยู่อย่างลำบากต้องอาศัยข้าววัดประทังชีวิต เดิมทีแม่ของน้องจูนไปทำงานต่างประเทศได้สามีเป็นชาวต่างชาติตั้งท้องน้องจูนก่อนเดินทางกลับมาคลอดที่บ้านเกิดแล้วจากไปไม่กลับมาอีกเลย ยายที่มีอาชีพรับจ้างไปวันๆ จึงต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานสาวด้วยเบี้ยผู้สูงอายุเพราะงานรับจ้างมีบ้างไม่มีบ้าง และต้องจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 800 บาท
น้องจูน เป็นเด็กนิสัยดีน่ารัก กิจวัตรประจําวันก่อนไปโรงเรียนต้องขี่รถจักรยานไปวัดที่ห่างจากบ้าน 2 กม. เพื่อขอข้าวก้นบาตรจากพระมากินมื้อเช้าแล้วไปโรงเรียน ในช่วงเพลก็จะกลับไปที่วัดอีกครั้งเพื่อนำข้าวไปกินมื้อเย็น วันไหนคนทำบุญน้อยไม่มีข้าวเหลือ พระก็จะเมตตาให้ขนมหรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาให้กินประทังชีวิตได้อยู่รอดไปวันๆ หรือหากไม่ได้ข้าวจากวัดเลย ก็จะอาศัยกล้วยสุกคนละลูกกับยายกินแทนข้าวกันทั้งวัน หลังได้ข้าวจากวัดแล้วก็จะไปเรียนหนังสือ ทุกๆ วันน้องจูนจะช่วยยายทำงานบ้านทุกอย่าง
น้องจูน บอกว่า หนูอยากเรียนสูงๆ โตไปจะได้มีอาชีพดีๆ ทำ จะได้เลี้ยงยายได้ ถ้ายายจะให้ออกจากโรงเรียน ถ้าจำเป็นก็ต้องออก หากมีคนช่วยเหลือได้เงินเยอะๆ จะไปซื้อที่ให้ยายไปสร้างบ้าน ยายจะได้ไม่ต้องเช่าบ้านเขาอยู่ และจะนำเงินไปเรียนหนังสือด้วย
ขณะที่ยายไก่ เล่าถึงความลำบากให้ฟังว่า ด้วยฐานะที่ยากจน รับจ้างทั่วไปไม่มีเงินพอที่จะใช้จ่ายก็ต้องให้หลานไปขอข้าวที่วัดมากิน ตนตั้งใจจะให้เรียนแค่ป.4 เพราะไม่มีเงินส่งให้หลานเรียน แต่หลานเองก็อยากจะเรียนให้จบป.6 ก็ยังไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาส่งเรียน ตนอยากให้ช่วยเหลือแค่ข้าวที่จะมากินกันในบ้านและมีเงินส่งหลานเรียนให้จบก็พอ ไม่ขออะไรมาก ขอแค่นี้จริงๆ
ด้าน พระขจร อินทปัญโญ พระลูกวัด กล่าวว่า อาตมาบวชมาเดือนครึ่งก็จะเห็นพระที่วัดนำข้าวปลาอาหารที่บิณฑบาตมาแบ่งให้น้องจูนประจำ โดยน้องจูนนั้นมีฐานะยากจนจริงๆ ทำให้เกิดความเมตตาและให้กับข้าวที่บิณฑบาตมาแบ่งให้ไปทุกวัน โดยจะให้ในรอบเช้ากับรอบเพล หากวันไหนบิณฑบาตไม่ได้ก็จะให้นมบ้าง ปัจจัยบ้างแบบนี้เรื่อยมา
โชคดีที่เรื่องราวชีวิตของน้องจูนกับยายได้มีผู้สื่อข่าวถ่ายทอดออกไปจนเป็นกระแสในโซเชียล ธารน้ำใจหลั่งไหลเข้ามาช่วยเหลือสองยายหลาน โดยวันนี้มีผู้ใจบุญชื่อ นางกมลพรรณ สุนทรยิ้ม แม่ภรรยาของนายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย เจ้าของโรงสีสิงโตทองไร้ซ์ ได้เดินทางมาเยี่ยมพร้อมนำข้าวสารไปมอบให้ และนางกมลพรรณ ได้สอบถามความเป็นอยู่พร้อมเข้าไปดูภายในบ้านเช่า พบว่าภายในบ้านไม่มีข้าวของมีค่าใดๆ ก่อนจะมอบข้าวสารให้ 1 กระสอบ สร้างความดีใจให้กับน้องจูนอย่างมากถึงกับนั่งกอดกระสอบข้าวสารไว้แน่น โดยนางกมลพรรณ บอกว่า ต่อไปนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีข้าวกินอีกแล้ว ข้าวหมดเมื่อไหร่ขอให้บอกจะส่งข้าวสารมาให้ทันที
ต่อมาก็มีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือสองยายหลานเข้ามาเป็นจำนวนมาก หลังเป็นข่าวเพียง 1 วัน ยอดเงินบริจาคมีมากกว่า 1.4 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่อัปเดตสมุดบัญชีธนาคารแล้ว น้องจูนกับยายถึงกับงงและดีใจมาก โดยยายไก่เห็นยอดเงิน 1,437,484 บาท ถึงกับยืนโงนเงนบอกว่าจะเป็นลมเพราะไม่คิดว่าจะมีเงินขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ยายไก่และน้องจูนต่างกล่าวขอบคุณผู้ใจบุญทุกคนที่ช่วยเหลือมา และสัญญาว่าจะใช้เงินก้อนนี้ไปเพื่อเป็นทุนการศึกษาของน้องจูนเป็นอันดับแรก
“น้องจูน” บอกว่า “อยากจะเรียนหมอ เพราะจะได้มาดูแลรักษายาย เนื่องจากยายป่วยเป็นโรคความดันบางครั้งสูงถึง 200 กว่า ส่วนเบาหวานเคยสูงถึง 400 กว่า จึงอยากเป็นหมอรักษายายให้หาย ขอบคุณผู้ใจบุญทุกท่านที่เมตตาช่วยเหลือหนูกับยาย หนูจะตั้งใจเรียน เป็นคนดี และดูแลยายให้ดีที่สุดค่ะ”
คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : พิพัฒน์ จงมีความสุข จ.กำแพงเพชร
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..