@การเมือง ก่อนถึงวันที่”ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ” มีความ”เคลื่อนไหว” จาก”ทีมเศรษฐกิจ” ของ”เพื่อไทย” อย่างคึกคัก” ทั้งจากการ”กระตุ้น”นโยบาย”ซอฟต์พาวเวอร์” จาก” อุ๋งอิ๋ง” แพทองธาร ชินวัตร  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และจาก”ภูมิธรรม เวชชัย” รองนายกรัฐมนตรี และ “เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์” ในการ ประชุมกับ กลุ่ม”อุตสาหกรรม”และ”กลุ่มทุน” จาก ประเทศต่างๆ รวมทั้งการ เร่ง ให้มีการลงนาม”FTA” ที่ “ไทย” กลายเป็นประเทศ”ล้าหลัง” ในเรื่องการค้า” ระหว่างประเทศ…..เรื่องของ”ซอฟต์พาวเวอร์” วันนี้เริ่ม”เห็นดอก ออกผล” แล้ว จากเรื่อง”กางเกง-เสื้อผ้า” ที่มี”สัญลักษณ์” ของจังหวัด ของพื้นที่ ส่วนเรื่อง อื่นๆ ทั้งเรื่อง อาหาร การกิน เรื่อง ภูมิปัญหา ที่เป็นการ ส่งเสริมเรื่อง “กีฬาที่เป็นเอกลักษณ์ไทย” เรื่อง “วัฒนธรรม” ก็จะตามมา ถ้ามีการ”ส่งเสริม” อย่าง จริงจัง เช่นเรื่อง”ประเพณีสงกรานต์” ซึ่งต้อง ติดตามดูว่า “เทศกาลสงกรานต์” ในปีนี้ จะ”ติดดอก ออกผล” ให้เป็นเรื่องของ”ซอฟต์พาวเวอร์” อย่างไร ….. รวมทั้งเรื่องของการ”ท่องเที่ยว” จำนวนตัวเลขของ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” โดยเฉพาะประเทศที่”ฟรีวีซ่า” จะมี “นักท่องเที่ยว” เพิ่มขึ้นหรือไม่ และเป็น”นักท่องเที่ยวเกรดไหน” มาเพื่อ”สร้างเม็ดเงิน” หรือ”สร้างปัญหา” โดยเฉพาะ”ชาวจีน” ที่มีการ”แอบแฝง” เรื่อง”ท่องเที่ยว” แต่เข้ามา”ทำมาหากิน” ในประเทศไทย และ “ก่ออาชญากรรม” ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่”คอลเซ็นเตอร์” จนถึง” อาชญากรรม” อื่นๆ ซึ่งเป็น”อาชญากรทางเศรษฐกิจ” และที่ต้อง”ระวังป้องกัน” อย่าให้เกิดขึ้นอีกคือเรื่องของ” ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ที่เคย”โด่งดัง” มาแล้ว ในประเทศไทย  เพราะ”รัฐบาลนิดหนึ่ง” ให้ความสำคัญกับเรื่อง”เศรษฐกิจ” หวังเพียง”ปั๊มเม็ดเงิน” เพียงอย่างเดียว แต่”ละเลย” ปัญหาที่เกี่ยวกับ”ความมั่นคง” ของประเทศ   คงลืมไปว่า ประเทศไหนก็ตาม ถ้า”รัฐบาล” ปล่อยให้มี”อาชญากรรมข้ามชาติ” เต็มบ้านเต็มเมือง”เศรษฐกิจ-สังคม” ก็จะ”พังทลาย”…..

@เข้าใจนะ ว่าเรื่อง”เศรษฐกิจ-การค้า” เป็นเรื่องสำคัญ เพราะ ณ วันนี้” ประเทศไทย” กำลัง”หัวทิ่ม” ประสบกับปัญหา”เศรษฐกิจ” อย่างรุนแรง  “หนี้ครัวเรือน” พุ่งไปถึง 91% ในขณะที่ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ต่างประเทศ ( BIS ) กำหนดเพดานไว้ไม่เกิน 80 % ส่วนหนี้เสีย ( เอ็นพีแอล ) ไม่ต้องพูดถึง รู้ได้อย่างเดียว ถ้า “เศรษฐกิจ” ยังไม่”โงหัว” ปี 2568 ทั้งรถยนต์ ทั้งบ้านช่อง ที่ติดภาระ”หนี้เสีย” จะถูก ยึดกันแบบ”ระเนระนาด” วันนี้ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ยังจะ”ถ่างขา” นั่งควบตำแหน่ง”ขุนคลัง”  เสนาบดีกระทรวงการคลัง  ต่อไป หรือจะ”เลือกเฟ้น” บุคคลที่มี”ฝีมือ” มา บริหาร”การเงิน การคลัง” เพื่อแก้ปัญหา”วิกฤติเศรษฐกิจ” ของประเทศโดยเร็ว…..เพราะจะให้รอการ”แจกเงิน” ให้กับ”ประชาชนหัวละ 10,000 บาท ตามโครงการ”ดิจิตัลวอลเล็ต” เพื่อการ”กระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะ”เมื่อไหร่” และ”เป็นจริง” หรือไม่ คงจะไม่ไหว และอาจจะเข้าตำรา”ถั่วสุกงาไหม้” เสียก่อน…..โดยเฉพาะปัญหา”พลังงาน” ราคาน้ำมัน จะต้อง”ตรึงราคาต่อ”  หรือจะ”พอแค่นี้” เพื่อให้ “สะท้อนความเป็นจริง” เพราะถ้ายังอยู่กับ”ความจอมปลอม” แล้ว “รัฐบาล” จะ เอาเงินที่ไหนมา”อุ้ม”ทั้ง”ดีเซล และ เบนซิน” รวมทั้ง”ค่าไฟฟ้า” ที่ไม่สามารถทำให้ ราคาต่ำกว่านี้อีกแล้ว ทั้งหมดเป็นการ”ซ้ำเติม”ภาคธุรกิจ ให้ต้องขึ้นราคา”สินค้า” และ”แข่งขัน” กับประเทศอื่นไม่ได้ ในขณะที่”ประชาชน” ต้อง”แบกรับ” ความเดือดร้อนกับ”ค่าน้ำมัน ค่าไฟ” กำไรจากการประกอบธุรกิจ” เงินเดือน “ และ “ ค่าแรง “ กลายเป็น” ค่าน้ำมัน “และ “ค่าไฟ “  ที่เป็นการ”ซ้ำเติม”นี้กระมังที่เรียกว่า”ยิ่งทำยิ่งจน” ก็เห็นนะว่า “พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรี และ “เสนาบดีกระทรวงพลังงาน” มีการ”พูดคุย”กับ” กลุ่มทุนพลังงาน” แต่หลังการ”พูดคุย” ยังไม่เห็นการ”เปลี่ยนแปลง”เกิดขึ้น ดังนั้นคนที่ผลักภาระไม่พ้นก็คือ” เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะ”นายกรัฐมนตรี” ต้อง เร่งรัด กับปัญหา”พลังงาน” ที่เกิดขึ้น ซึ่งถ้าไม่มีการ”ตรึงราคา” โดย”กลไก” กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง” ที่”ติดลบ” อย่าง”มโหราฬ”ในขณะนี้ ราคาน้ำมันต้องแพงแบบ”ก้าวกระโดด” เป็นการ”ซ้ำเติม” เศรษฐกิจ “ และ”ปากท้อง”ของ ประชาชน ให้ “เลวร้าย” มากขึ้น…..

@ยิ่งการ”ปรับขึ้นค่าแรง” เป็น 400 บาท แม้จะไม่”ครอบคลุมทุกพื้นที่” แต่ก็จะทำให้คน”ตกงาน” จำนวนหนึ่ง จากการขึ้น”ค่าแรง” ของ”รัฐบาล” ในครั้งนี้ เพราะ วิธีการง่ายๆ ของ “เจ้าของกิจการ” เมื่อต้องจ่าย”ค่าแรง” เพิ่มขึ้นตาม”กฎหมายแรงงาน” หลักคิดเพื่อความ”อยู่รอด” ที่ง่ายที่สุดคือ จากคนงาน 10 คน ก็จะทำให้เหลือ 7 คน เพื่อเอาเงินส่วนนั้นมาจ่ายให้กับคนงานตาม”กฎหมายแรงงาน” คนที่ไม่”ตกงาน” ต้องทำงานเพิ่มขึ้นตามจำนวนคนงานที่”ลดลง” ส่วนคนที่”ตกงาน” ก็จะต้องรับสภาพ”ว่างงาน” ตามแต่”ยถากรรม” เรื่องนี้ก็จะเป็นการ”ซ้ำเติม” ให้เกิดความ”เดือดร้อน” กับ “แรงงาน” ที่ส่วนใหญ่คือ”คนหาเช้ากินค่ำ” นั้นเอง และ นี่คือการ”มีได้ มีเสีย” กับการ”ขึ้นค่าแรง” ในขณะที่”เศรษฐกิจ”ของประเทศ”อ่อนปวกเปียก”ในทุกด้าน   แน่นอน”เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน” นายกตาม”รัฐธรรมนูญ” อาจจะคิดไม่มาก เพราะการ”ขึ้นค่าแรง” เป็นการที่”ต้องทำ” ตาม นโยบาย”การเมือง” ที่ “เพื่อไทย” ได้”หาเสียง” เอาไว้ในเวทีการเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่ หลังจากที่มี”บังคับใช้” ค่าแรงวันละ 400 บาท สิ่งที่ติดตามมา อาจจะทำให้”เสี่ยนิด” นอนไม่หลับ เพราะมี”ปัญหา”ทาง”เศรษฐกิจ,การค้า,การลงทุน” มากมายตามมาให้ แก้ไข โดยเฉพาะ”คนตกงาน” จะกลายเป็น”ปัญหา”ของ”สังคม” และ”บ่อเกิดอาชญากรรม” ที่เพิ่มมากขึ้นจะมาจากตรงนี้…… เพราะ หลากหลายปัญหา ที่แก้ไม่ได้ และ “เศรษฐกิจ” ที่ไม่ยอม”โงหัว” ทำให้”เกจิทางการเมือง” มั่นใจว่า หลังการ”อภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน” จะเห็นการ”ปรับ ครม.” เพื่อการ”เปลี่ยนตัวเสนาบดี”และการ” แลกเปลี่ยนกระทรวง” เพราะผลงาน 6 เดือน ที่ผ่านมา “เพื่อไทย” ยังไม่มีอะไรที่”เป็นชิ้นเป็นอัน”  และการเปิด”อภิปราย” ของ”ก้าวไกล” ในครั้งนี้เป็นการ”ทิ้งทวน” ก่อนที่พรรค”ก้าวไกล” จะ”ถูกยุบ” ตามความ”คาดหมาย” ของ”เกจิการเมือง”และ”ก้าวไกล”เองก็เชื่อว่า”ไม่รอด” ยกเว้นมี”ปาฎิหารย์”เกิดขึ้น จึงต้องดูว่า”ก้าวไกล” จะสามารถ “เปิดแผล” และ”ขยายแผล”ของ”เพื่อไทย” และ”พรรคร่วม”ได้ แค่ไหน เพียงใด

@ส่วน”ประชาธิปัตย์” ที่เป็นพรรค”ฝ่ายค้าน” แม้ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน “ หัวหน้าพรรค จะ”การันตี” ว่าการ”อภิปราย” รัฐบาลครั้งนี้ไม่มีทั้งการ”ซูเอี๋ย” และการ”เกี๊ยเซี้ยะ” เกิดขึ้น ระหว่าง”เพื่อไทย”กับ”ประชาธิปัตย์” ไม่มีการ”ต่อสาย”ของ”แกนนำ” ทั้งสองฝ่าย เพื่อทำให้”สำนวนอ่อน” และ”ไม่พอฟ้อง” แต่ สังคมไทย ยังไม่เชื่อถือ เพราะรู้ว่า”ประชาธิปัตย์” ไม่ต้องการเป็น”ฝ่ายค้าน” ที่ต้องอยู่อย่าง”อดยากปากแห้ง” ดังนั้น”คนไทย” จึงต้องจับตามองว่าการ”อภิปราย” ของ”ขุนพล” ประชาธิปัตย์ครั้งนี้” มีการดึงหลักฐาน” ทิ้ง เพื่อที่จะทำให้”สำนวนอ่อน” หรือไม่ วันนี้”คนไทย” รู้”เท่าทัน” การเมือง เป็นอย่างดี ดังนั้น พรรคการเมืองไม่ว่าพรรคไหนจะ” หลอกประชาชน”ง่ายๆไม่ได้อีกแล้ว นักการเมืองทุกคน ทุกพรรค”พึงสำเหนียก” ให้มาก ที่สำคัญคน”วงใน” ต่างมีการแสดงความ”ยินดี” กับ”เดชอิศม์ ขาวทอง” ( นายกชาย ) เลขาธิการพรรคฯ และ”ชัยชนะ เดชเดโช” รอง หัวหน้าพรรคฯ ที่จะได้เป็น “รัฐมนตรีว่าการฯ และ”รัฐมนตรีช่วยฯ เรื่องอย่างนี้”มีไฟย่อมมีควัน” ปิดกันไม่มิด…..

@การเมืองร้อน อากาศร้อน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”ร้อนฉ่า”จนใกล้”ปรอทแตก” และ”เละเป็นโจ๊ก”จนอยากที่จะ”กอบกู้” ให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกลับมาให้”ดูดี” ในความรู้สึกของประชาชน “สงกรานต์”ปีนี้ จึงเป็น”งานหนัก” ของ” พล.ต.อ.กิตต์รัฐ เพ็ชรพันธุ์ “ รักษาการ ผบ.ตร. ที่ งานแรกหลังเข้ารับตำแหน่งคือการเข้มงวด”ส่วยบ่อนการพนัน ทำเอา”บ่อนออฟไลน์” ต้องประกาศ”หยุดก่อน” เพื่อรอ”ทิศทางลม” ส่วน”บ่อนออนไลน์” ยังสามารถเปิดให้”นักเลงนักเล่น” เล่นได้อยู่ แต่ใน ช่วง “เทศกาลสงกรานต์” ปัญหา”อาชญากรรมจะเบ่งบาน” ขบวนการ”ขนยาเสพติด”ขบวนการ”ขนน้ำมันเถื่อน” และ”ธุรกิจเถื่อน” แม้แต่การ”ขนคนเถื่อน” จาก”ทุกสารทิศ” เพื่อไปยังชายแดนไทย-มาเลเซีย ก็จะ ฉกฉวยโอกาส”เทศกาลสงกรานต์” เพราะ”ประชาชน” และ”นักท่องเที่ยว” ที่ หลั่งไหล เดินทาง อย่างมากมาย ประเด็นนี้ถ้า เจ้าหน้าที่”หละหลวม” ก็เป็น”โอกาส” ของ” กลุ่มขบวนการ” รักษาการ “ผบ.ตร. จะ”รับมือ” กับปัญหานี้อย่างไร…..

@ปัญหา”อาชญากรรม” ทั่วไป ที่เกิดขึ้นใน”เทศกาลสงกรานต์” ในหัวเมืองที่เป็นเมือง”เศรษฐกิจการท่องเที่ยว” อย่าง   “ภูเก็ต,พังงา ,เกาะสมุย,เกาะพงัน” ที่มี”ต่างชาติ” เข้ามา”ท่องเที่ยว” จะ “วุ่นวาย” ขนาดไหน  อากาศร้อน คนเยอะ เจ้าหน้าที่น้อย จะเกิด ปัญหา”คนคลั่งยาบ้า”ทำร้ายคนในชุมชน และจะมี”ฝรั่งอั้งม้อ” ทำร้าย”คนไทย” เกิดขึ้นอีกหรือไม่ เนื่องนี้” พล.ต.ท.สุรพงศ์ ถนอมจิตร “ ผบช.ภ. 8 ต้องมีการ”ตั้งรับ” ให้ดี……เพราะในพื้นที่ของ ตำรวจภาค 8 มีเหตุ สะเทือนขวัญ ผู้คนทั้ง”แผ่นดิน” สองวันติดกัน นั้นคือ “คนติดยา” ที่” อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี และ”คนติดยา” ที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา “คลุ้มคลั่ง” ใช้อาวุธ”บั่นคอ” บุพการี เสียชีวิตอย่าง” อเนจอนาถ” และ เมืองท่องเที่ยว ในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ก็คือแหล่งการค้า”ยาเสพติด” และ”นักท่องเที่ยว” จำนวนมากจาก”ต่างชาติ” มาเที่ยวก็ด้วยต้องการ”เสพยาเสพติด” ด้วย เรื่องนี้ต้อง “ระวังป้องกัน” เกิด”นักท่องเที่ยว” กลายเป็น”เหยื่อ” ของคน”ติดยา” และถูก”บั่นคอ” กลายเป็นข่าวขึ้นมา การท่องเที่ยวซึ่งเป็น”เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ” ที่ดีที่สุดในขณะนี้ เกิด”ดับวูบ” เศรษฐกิจไทยจะ เหลืออะไร….. เรื่องนี้ อย่าโยนภาระให้”ตำรวจ”หน่วยเดียว “ปกครอง,ท้องที่.ท้องถิ่น” ต้อง”บูรณาการ” ด้วยกัน ก็ต้องดูว่า”ผู้ว่าราชการจังหวัด” แต่ละจังหวัด จะมี”วิสัยทัศน์” แบบไหน และมีความ”สัมพันธ์” กับ” ผู้บังคับการตำรวจ” อย่างไร ถ้า”แย่งกันเก็บ แย่งกันกิน” ก็”เอวังพอดี”ต่างคนต่างเดิน…..

@นี่ก็ “อันตราย” สิบวันสุดท้ายของ”เดือนรอมฎอน” ที่”ฝ่ายข่าว” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” แจ้งเตือนว่าจะมีการ”ก่อการร้าย” จาก” กองกำลังติดอาวุธ” ของ”บีอาร์เอ็น” อาจจะมีการ”ป่วน” ครั้งใหญ่   เหมือน กับที่เกิดขึ้นเมื่อ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่มีการ”ก่อวินาศกรรม” คืนเดียว 45 เป้าหมาย  ก็ แจ้งเตือน เหมือนทุกครั้ง แต่ไม่เคย”ป้องกัน”ได้ เพราะไม่มี”การข่าว” ที่ “แน่ชัด เป็นการ”แจ้งเตือนแบบ”เหวี่ยงแห” ที่อาจจะไม่”ติดปลา” แม้แต่ตัวเดียว และ ต่อไปก็”แจ้งเตือน” หลัง”วันรายอ” อีก 10 วัน ก็เป็น”10 วันอันตราย” อีกครั้ง และที่สำคัญ “วันรายอฯ” กับวัน”สงกรานต์” อยู่ในห้วงเวลาเดียวกัน ดังนั้น”คนไทยพุทธ” ในพื้นที่ 3 จังหวัด 4 อำเภอของ จ.สงขลา โปรดระวัดระวังป้องกันตนเอง”เอาตัวให้รอด” ด้วย”สติปัญญา” และด้วยความ”ไม่ประมาท” อย่างหวังจะพึ่ง”เจ้าหน้าที่รัฐ เพราะ”เจ้าหน้าที่รัฐ” ต่างก็ “เอาตัวไม่รอด” ต้อง “ระมัดระวัง” ในการ”รักษาชีวิต” ตนเองยิ่งกว่า”ประชาชน” เสียอีก  เพราะ”เจ้าหน้าที่”คือ”เหยื่อ” คือ”เป้าหมาย” ของ” แนวร่วม” หรือ”กองกำลังติดอาวุธ” ของ”บีอาร์เอ็น” …… ที่สำคัญ”ยุทธศาสตร์” ของ”บีอาร์เอ็น” ปี 2567-2568 ยังเน้นหนักทั้งในเรื่อง”การเมือง” นั้นคือการ”บ่มเพาะ” นำเยาวชน เข้าสู่ขบวนการ ซึ่ง”สอดคล้อง”กับ”รายงาน” ของ” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ที่กล่าวว่ามี”สมาชิกหน้าขาว” หรือ”แนวร่วมรุ่นใหม่” ถูกนำเข้าสู่ ขบวนการมากยิ่งขึ้น ประเด็นนี้ สำคัญ เพราะเมื่อ”กลุ่มหน้าขาว” ได้รับการ”ฝึกฝน”แล้ว ต้องให้ “ทดลองงาน” ด้วยการ “ก่อวินาศกรรม” และการ”ฆ่าคน” และ เมื่อ “ทอดลองงานสำเร็จ” ก็ต้องมีการ”บรรจุ” เข้าเป็น”กองกำลังติดอาวุธ” การได้มาซึ่งอาวุธประจำกาย ก็ต้อง”ปล้น ,แย่งชิง” จาก” เจ้าหน้าที่รัฐ “ นั้นคือการ”ซุ่มโจมตี” และการ”ประกบยิง” เพื่อการ”แย่งชิงอาวุธ”ของเจ้าหน้าที่ เพราะตั้งปี 2536 เป็นต้นมา “ปืนทุกกระบอก” ที่”กองกำลังติดอาวุธ”ของ”บีอาร์เอ็น”ใช้อยู่ มาจากการ”แย่งชิง” และ “ปล้น” มาจาก เจ้าหน้าที่รัฐทั้งสิ้น ดังนั้นการ”ซุ่มโจมตี” เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อ”แย่งชิง” อาวุธปืน จะ ถี่ขึ้น…..

@อีกประเด็น เดือน มีนาคม-เมษายน นี้ “บีอาร์เอ็น” จะมีการ”เปลี่ยนยศ เลื่อนตำแหน่ง ระดับ “ผู้บังคับการฝ่ายทหาร” จาก “ผบ.หมู่เป็น” ผบ.หมวด จาก ผบ.หมวด เป็น ผบ.ร้อย และจาก ผบ.ร้อย เป็น ผบ.พัน” อาจจะมีการ แสดง”ศักยภาพ” ของแต่ละหน่วย ด้วยการ”ก่อการร้าย” ดังนั้น สถานการณ์ความ”ร้อนแรง” ในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจจะ”ระอุอ้าว” เหมือน ความร้อนของกาศ  “เดือนเมษายน” ก็ต้องฝาก”ความหวัง” ไว้กับ” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” โดย “ พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค” แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ว่า เรื่องการ”ปล่อยลูกโป่งสีขาว” เรื่องการลงพื้นที่”หิ้วตะกร้า” ไป “คำนับ” ผู้นำ”ศาสนา”ในพื้นที่ และการไปร่วม”ละศีลอด” กับ “ประชาชน” ในพื้นที่ต่างๆ จะมีความ”คุ้มค่า” ที่ทำให้”แกนนำ” ของ”บีอาร์เอ็น” ในพื้นที่เห็นถึง”ความปรารถนาดีของแม่ทัพ-นายกอง” และ หยุดการ”ก่อการร้าย การ รบรา ฆ่า ฟัน” เจ้าหน้าที่ เพื่อให้”เทศกาลรายอฯ”และ”เทศกาลสงกรานต์” สร้างความสุขให้กับคนในพื้นที่ กับเขาบ้าง……เรื่องความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องมีอะไร”ในกอไผ่” ที่มากกว่า”งูจงอาง” ที่ผ่านมา จะมีเพียงตัวแทนของ”ประเทศมุสลิม” ที่เรียกว่า “OIC” ที่จะ”จัดทัพ” เดินทางมา ติดตาม สถานการณ์ ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ปีละครั้ง แต่ ล่าสุด”เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงต่างประเทศ” ได้เดินทางมาพบกับ”พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ “ แม่ทัพน้อยที่ 4 เพื่อเตรียมนำ”ฑูตานุทูต”จากกลุ่มประเทศ”ตะวันตก”เพื่อมาเยือน “จังหวัดชายแดนภาคใต้”ในเร็วๆ นี้ สังเกตุไหมว่า “องค์กรตะวันตก”องค์กรแรกๆ ที่เข้ามา คือ”เจนีวาคอลล์” และ”ไอซีอาร์ซี” หรือ”องค์การกาชาดสากลระหว่างประเทศ ตามมาด้วย”สหภาพยุโรป” ส่วน”สหรัฐอเมริกา” ยกเว้นไม่ต้องกล่าวถึงเพราะเป็น”เจ้าประจำ” ที่”เคลื่อนไหว” ใน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” มาอย่างยาวนาน วันนี้จะมี”ฑูตานุทูต” จาก”ชาติตะวันตก”เข้ามา เขาหวังจะมี”ส่วนร่วม” กับการแก้ปัญหาความไม่สงบของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อประโยชน์ อะไร ตรงนี้ “พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์” เลขาธิการสภาความมั่นคง ( สมช.) และ” หน่วยงานของ”กระทรวงต่างประเทศ” น่าจะมีคำตอบให้กับ”ประชาชน”บ้าง…….

@อีกเรื่องสำหรับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้  หลายวันก่อน”ฉัตรชัย บางชวด” รองเลขาธิการสภาความมั่นคง ในฐานะ”หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข”เดินทางมาพบปะกับ”ผู้ว่าราชการจังหวัด” ในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อ “เล่าแจ้ง” ถึงเรื่องการ”พูดคุย” กับ”บีอาร์เอ็น” ที่ผ่านมา หลังจากนั้น มีการ”แถลงการณ์” ว่า “ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าใจ” และ”เห็นด้วย” กับเรื่องของการ”พูดคุย” ทำเอา”ผู้ว่าราชการจังหวัด” หลายคน” ถึงกับ”สะอึก” และงงเป็น”ไก่ตาแตก” เพราะมีแต่”รับฟัง”แบบ”งูๆปลาๆ” ไม่ได้”ลงลึก” ในปัญหาของการ”พูดคุย” แต่อย่างใด นี่เป็นเรื่องที่”เคลม” เพื่อ”เอาความดีความชอบ”กันชัดๆ……

@กฎหมาย”กาสิโนเสรี” ผ่าน”สภาผู้แทนราษฎร” แล้ว ฟังว่ามีเสียง”ไชโยโห่ร้อง” จาก” กลุ่มทุน” ในพื้นที่ซึ่งเป็น”หุ้นส่วน”ของ”กลุ่มทุนต่างประเทศ” เพื่อเตรียมหา”ทำเลทอง” ในการสร้าง” อินเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์” ที่มี”บ่อนการพนัน” ที่” ถูกต้องตามกฎหมาย” ไว้”บริการนักการพนัน” วันนี้กลุ่มผู้”เห็นด้วย” เห็นแต่เรื่องที่”ดีงาม” คือได้”เงินเข้ารัฐ”นักการพนันทั้งเทศทั้งไทย จะได้มี”บ่อนเล่นการพนัน” ในประเทศไทย ไม่ต้อง”เดินทางไปเล่นการพนันยังประเทศเพื่อนบ้าน” อย่าง”.กัมพูชา,สปป.ลาว .มาเลเซีย สิงคโปร์”……ในส่วนที่เสีย เรา”ละเลย” ที่ไม่มีการนำมา”ถกแถลง” เช่น หลายประเทศที่เขามี”บ่อนการพนันถูกต้องตามกฎหมาย” แต่ทำไม่ “ประชาชน” ของเขาจึง”ยากจน” ต้อง”ทะลักทลาย” เดินทาง ทั้ง” ถูกต้อง” และ “หลบหนีเข้าเมือง” มายังประเทศไทย เพื่อ”หางานทำ” ทำไมคน”มาเลเซีย” ใน รัฐที่มีบ่อน จึงยัง”ยากจน” ดังนั้น เป็นไปได้หรือที่เมื่อ”เปิดบ่อนถูกต้องตามกฎหมาย” แล้ว”เศรษฐกิจ”ของประเทศไทยจะ”อู้ฟู้” ทันตาเห็น และ ประชาชน จะได้”อานิสงส์” จากการมี”บ่อนการพนันที่ถูกต้องตามกฎหมาย” ยืนยันได้ด้วยอะไร….. ที่สำคัญ”บ่อนที่ถูกต้องตามกฎหมาย” ไม่ได้ทำให้”บ่อนเถื่อน, บอนออฟไลน์ออนไลน์”  หมดไปจากประเทศไทย หรือจาก “สังคมไทย” เพราะ”นักเลง นักเล่น” ใน”บ่อนเถื่อน” เป็นคนละส่วน คนละพวก กับ “นักเล่น” ที่เข้าไปเล่นในบ่อนที่ถูกต้องตามกฎหมาย  ที่สำคัญ เมืองไทยเป็น”เมืองพุทธ” และ “สังคมไทย” ไม่ให้”ค่านิยม” กับ คนที่ เล่นการพนัน มอง”นักการพนัน” ในภาพลบ ไม่ไว้วางใจ  ดังนั้นถึงจะมีบ่อนที่”ถูกต้องตามกฎหมาย” แต่”นักเล่น นักการพนัน” ที่เป็น”เจ้าของธุรกิจ” ในประเทศไทย ที่เดินทาง”เข้า-ออก” ต่างประเทศ และ ใน”วันหยุด” เพื่อไป”เล่นการพนัน” ใน “ต่างประเทศ” อาจะไม่เล่นใน”บ่อนของประเทศไทย” เพราะไม่ต้องการให้สังคม”รับรู้” ว่า ตนเองเป็น”นักการพนัน”……

@ติดตามกันให้ดีๆ “เจาะข่าว” กันให้ ลึกๆ แล้ว อาจจะพบว่า คนที่”ตีปีก” ดีอกดีใจกันยกใหญ่ ในเรื่องที่ประเทศไทยจะมี”อินเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์” อาจจะเป็น”พรรคการเมืองบางพรรค” กลุ่ม”คนการเมืองบางกลุ่ม” ที่มี”ผลกระโยชน์ร่วมกับ”กลุ่มทุน” ที่จะเข้ามา ดำเนินการในเรื่องของ”อินเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์” ไม่แน่นะ อาจจะมีการจ่ายค่า”ไลน์เซ่น” หรือ”ใบอนุญาต” เพื่อเปิดบ่อนไปแล้ว ใน 10 จังหวัด ที่เป็น”เป้าหมาย” ในการตั้ง”อินเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์” ก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น สำหรับ”บ้านนี้เมืองนี้” ที่ ประชาชน ยัง”ฝากฝีฝากไข้” และฝาก”อนาคต”ของประเทศกับ”นักการเมือง” ไม่ได้…..ดังนั้น ประชาชน อย่าง เราๆ ท่านๆ อย่างเพิ่งดีใจว่า”บ่อนการพนันที่ถูกต้องตามกฎหมาย” จะทำให้”ประเทศเจริญรุ่งเรือง” ประชาชน”อยู่ดีกินดี” เพราะ หลายครั้งแล้วที่ประชาชน”ถูกหลอก” จากนโยบาย”ขายฝัน” ของ”นักการเมือง” และ”พรรคการเมือง” จำเรื่อง”กัญชาเสรี” ได้หรือไม่ ที่”นักการเมือง” บอกกับประชาชนว่า ปลูกกัญชา ครอบครัวละ 6 ต้น แล้วจะ “อยู่ดีกินดี” แล้ว  วันนี้ เป็นอย่างไร ใครที่”ปลูกกัญชา” แล้วรวย” ยกมือขึ้น….. หรือการ”ปลดล็อก” ให้”พืชกระท่อม” พ้นจากการเป็น”ยาเสพติด” ประเภท 5  แล้ว มีการ”ส่งเสริม” ให้ ปลูกพืชกกระท่อม แทนพืชเกษตรอื่นๆ แล้วจะ”มีกินมีใช้” วันนี้ เป็นอย่างไร เห็นแต่คนที่”เชื่อ” นักการเมือง “เดินขึ้นโรงพัก” กันทุกภูมิภาค เพื่อ”แจ้งความ” เอาผิดกับการถูก”กลุ่มทุน” หลอกให้”ซื้อพันธุ์กระท่อมมาปลูก” และหลังจากนั้นก็”เปิดตูด” ไม่รับซื้อ” ใบกระท่อม” ตาม สัญญา จนทำให้ เกษตรกร”เจ๊งบ้ง” เป็นหนี้ สถาบันเงินกู้ ที่กู้มา “ลงทุนปลูกพืชกระท่อม” กันเป็นทิวแถว นั้นคือ”บทเรียน” ที่ยัง”สดๆร้อนๆ เพราะ ฉะนั้น อย่าได้ เชื่อว่า “บ่อนการพนันถูกต้องตามกฎหมาย” เป็น”ของวิเศษ ที่จะ”พลิกฟื้นเศรษฐกิจ” ของ”ประเทศไทย” เพราะสุดท้ายแล้วผู้ได้รับประโยชน์จาก” การมี”บ่อนการพนัน” ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นคนแค่เพียง”หยิบมือ”เดียวเท่านั้น……

@ผู้สัมปทานรังนกอีแอ่นใน “เกาะสี่เกาะห้า” อ.ปากพะพูน จ.พัทลุง “ร่อนสาร” ถึง”นิศากร วิศิษฎ์สรอรรถ” ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้”จัดการ” กับ เรือ สปีดโบ๊ต” ที่ นักท่องเที่ยว ขับวนเวียนอยู่รอบๆ “เกาะสี่เกาะห้า” ซึ่งเป็นเขต”สัมปทาน”ในการ”จัดเก็บรักนกอีแอ่น”ของบริษัท เพราะ จำนวนเรือ และเสียงเครื่องยนต์ อาจจะทำให้จำนวนของ”นกอีแอ่น”หายไป รวมทั้ง วันนี้ รอบๆเกาะมี”ประมงพื้นที่” เข้าไปทำการ”ประมง” เป็นจำนวนมาก แยกไม่ออกว่า ใครเป็นใคร ระหว่าง”ชาวประมง” และ”มิจฉาชีพ” ที่เข้าไปเพื่อ”ขโมยรังนก”……ส่วนที่ “ อ.เกาะยาว จ.พังงา ปีนี้เข้าปีที่ 3 ที่ ไม่มีผู้ขอ”สัมปทาน” เพื่อเก็บ”รังนกอีแอ่น” จนเป็นว่า ณ วันนี้” “รังนกอีแอ่น” ที่ถูกขนานนามว่า”ทองคำขาว” ไม่รู้ว่าเป็นของใคร เรื่องนี้ “สุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย “ พ่อเมืองพังงา” ไม่คิดที่จะแสดง”ฝีมือ” เพราะ”ปกป้อง” ทรัพยากรของแผ่นดินหรือไร  เช่นเดียวกับ “เกาะรังนก” ใน จ.กระบี่ ที่ ไม่มีผู้”สนใจ” เข้าไป”สัมปทาน” ทั้งที่ ณ วันนี้ “รักนกอีแอ่น” ยังมี”ราคา” และ”ตลาดรังนก” ในประเทศ และต่างประเทศ ก็ยังเติบโต เรื่องนี้ต้องมีอะไรที่”ไม่ชอบมาพากล” หน่วยงานไหนที่ “รับผิดชอบ” โปรด”ตื่นตัว” มาดูสภาพของปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย…..

@จับตาดูความ”เคลื่อนไหว” ของ”บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่ยังมีการ”เดินหน้า”ในการ”ต่อสู้” กับ”คดีความเรื่องบ่อนพนันออนไลน์” วันนี้เรื่อง”กฎหมาย” เป็นหน้าที่ของ”ทีมทนายความ” และ”มือปืนรับจ้าง” ในการออกมา”แฉขบวนการส่วย” แบบที่เคยประกาศไว้ว่าถ้า”เอาจริง” สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะ”ตายยกรัง” ส่วน”บิ๊กโจ๊ก” ทำการ”เดินสาย”ในภาคใต้เพื่อ”เช็คเรตติ้ง” ของ”มวลชน” เริ่มจากพบประชาชนที่ จ.พัทลุง และการมาพบ”มวลชน” ที่ จ.สงขลา ในงาน”เพชรคืนถิ่น” ที่ โรงเรียนวิเชียรชม สงขลา และงานต่อไปของ”บิ๊กโจ๊ก” ก็คือลงเกาะ”หลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล ที่ “บิ๊กโจ๊ก” ทำคดีเรื่อง”นายทุน” บุกรุกที่ดินของ”อุทยานแห่งชาติ” เพื่อเป็นการ สร้างผลงาน ให้”เข้าตา”ประชาชน และ”พรรคการเมือง” แผนนี้เรียกว่า”แยกกันเดิน รวมกันตี” เพื่อ”บดขยี้” ฝ่ายตรงกันข้าม….

@กรณีการที่ “ตำรวจไซเบอร์” และ” ดีเอสไอ” บุก “ทลายห้าง”  ขบวนการแกงค์คอลเซ็นเตอร์” ที่  อ.ฉวาง อ.นาบอน  อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้ผู้ต้องหาเกือบ 100 คน มี “นักการเมืองหญิง” ติด”ร่างแห”ไปด้วย จับตาให้ดี จะมีอีก”หลายแก๊งค์” ที่จะถูก”เช็คบิล” แม้แต่ในวงการ”ค้าบุหรี่เถื่อน” ในภาคใต้ ที่เป็นแหล่ง”ทำมาหากิน” ของ”ตำรวจน้อยใหญ่” ก็หวาดผวา กลัวว่าจะ”ลุกลาม”เข้ามาทำลายผลประโยชน์ที่ได้รับ…..

@ปิดท้าย “เทศกาลสงกรานต์” ของ จ.สงขลา ปีนี้ มีความ”คึกคัก” เป็นอย่างยิ่ง โรงแรม ที่พัก ทั้ง หาดใหญ่ สะเดา และ เมืองสงขลา ถูกจองเต็มเอี๊ยด  มีการ จัดงาน “รื่นเริง” มากมาย เพื่อการต้อนรับ”สงกรานต์” ทุกฝ่าย”ยืนยัน” เงิน”สะพัด” อย่างแน่นอน  แต่สิ่งที่ต้องไม่ลืมคือการ”ป้องกันเหตุ” จาก”การก่อการร้าย” เพราะ ณ วันนี้”บีอาร์เอ็น” ต้องการทำลาย”เศรษฐกิจ”ของคนในพื้นที่  แต่ก็ยัง”อุ่นใจ” ที่เห็น”สมนึก พรหมเขียว” ผวจ.สงขลา ที่ให้ความ”สำคัญ” ในเรื่องการ “ป้องกันเหตุ” ใน เทศกาลสงกรานต์ และด้วย ประสบการณ์ที่เป็น”รอง ผวจ.” ใน จ.ปัตตานี มาก่อน รู้ถึง วิธีการของ”บีอาร์เอ็น” เป็นอย่างดี และยังมี “เศวต เพชรนุ้ย “ รอง ผวจ.ฝ่ายความมั่นคง ที่ใช้ชีวิตรับราชการในพื้นที่ “จังหวัดชายแดนภาคใต้” มายาวนาน ประกอบกับที่ อ.หาดใหญ่ มี “เอก ยังอภัย ณ สงขลา “ เป็น”นายอำเภอ” ที่ อ.สะเดา มี วิเชษต์ สายกี้เส้ง” เป็น”นายอำเภอ” ซึ่งทั้ง 2 คน ล้วนเป็น”ผลผลิต” จาก ปัตตานี,ยะลา และยังมี “ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี” นายกเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่ เป็น”อดีตตำรวจมือปราบ” ที่ รู้เรื่องของ”บีอาร์เอ็น” ได้ดี เชื่อว่า ถ้าไม่”ประมาท” และ”แนวป้องกัน” ที่เป็นพื้นที่”กันชน” อย่าง อ.จะนะ อ.นาทวี ไม่ถูก”บ่อนเซาะ” พื้นที่ของ “สงขลา” คงจะ “ปลอดภัย” และ ประชาชน นักท่องเที่ยวชาว มาเลเซีย คงจะมีความ สนุกสนาน ใน เทศกาลสงกรานต์ หรือ”ปีใหม่ไทย”……แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ

—————————————————————-

ไชยยงค์ มณีพิลึก

ถวายเป็นพระราชกุศล.   พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)นำบุคลากร ศอ.บต.ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระกนิษฐาธิราขเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามพระบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ณ วัดเวฬุวัน อ.เมือง จ.ยะลา

ฉลองตราตั้ง.   นิพนธ์ บุญญามณี  อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานงานฉลองพระบัญชาตราตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัด สงขลา-สตูล(ธรรมยุต)ของ(ดร.)พระครูวิจิตร ศีลาจาร.ณ.วัดห้วยพุด ต.รำแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา

ตรวจหน่วยเลือกทหาร.  อัมรันท์ บากา นายอำเภอกาบัง จ.ยะลา พร้อมด้วย ผบ.ฉก.47 รอง.ผผก.สภ.กาบัง ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้อนรับ พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รอง แม่ทัพภาคที่ 4/รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยคัดเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ประจำปี 2567  ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา

ร่วมละศีลอด.  ซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ เขต 2 จ.ยะลา ลงพื้นที่ เข้าร่วมโครงการ จัดงานร่วมละศีลอด รอมฎอนสัมพันธ์ ประจำปี 2567 นำโดย อับดุลอาซิ ดือราแม นายก อบต คณะผู้บริหาร อบต.กาบัง ณ มัสยิดอับซอลาฮุดดีน ต.กาบัง จ.ยะลา

สานใจไทยฯ .   นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง รอง เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นผู้แทน พ.ต.ท. วรรณพงษ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมกิจกรรมสานใจไทย สู่ใจใต้ ณ สมาคมเยาวชนสานใจไทย สู่ใจใต้ ต.จะบังติกอ  อ.เมือง จ.ปัตตานี

สำรวจ.  สรรเพชญ บุญญามณี  สส.สงขลาเขต 1 พรรคประชาธิปัตย์   ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย”อวาเรียมหอยสังข์ “เพื่อหารือมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยมี สุรัตน์ ลายจันทร์ นายอำเภอเมืองสงขลา พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก.สภ.เมืองสงขลา  ร่วมประชุมในวาระเร่งด่วนสำหรับการดูแลรักษาเครื่องมืออุปกรณ์หลังจากเกิดเหตุมีคนร้ายเข้ามาขโมยสายไฟและอุปกรณ์ภายในอาคาร “อวาเรียมหอยสังข์” ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.เมือง สงขลา

วันข้าราชการพลเรือน.   จิระวิทย์ แซ่เจ็ง ประธานผู้พิพากษาสมทบ ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.ยะลา ทำหน้าที่แทนผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดยะลา ในพิธี”วันระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า และ”วันข้าราชการพลเรือน”2567 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา

ร่วมกิจกรรม.  อนันต์ บุญสำราญ รอง ผวจ.ยะลา และ รอมดอน หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมกิจกรรมละศีลอดกับ ผู้นำศาสนา และ เยาวชน ณ สถาบันปอเนาะ ดารุลอูรูมวิทยา (บ้านพงกราเสาะ) ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา

งานสร้างงาน.  พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน มอบใก้ สิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯเป็นประธานเปิดงานสร้างงานและเส้นทางสู่อาชีพ โดยมี สมนึก พรหมเขียว ผวจ.สงขลา นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมในพิธี ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฯ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

รอมฎอนสัมพันธ์.  พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ รอง ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ร่วมโครงการรอมฎอนสัมพันธ์ (ละศีลอด) ฮ.ศ.1445 พร้อมทั้งนี้ยังได้พบปะพูดคุยกับพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ ที่มาร่วมงานอย่างอบอุ่น  โดยมี วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธาน ณ หอประชุมมูลนิธิมะทา  อ.เมืองยะลา

บรรพชาสามเณร.   พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา เป็นประธาน โครงการบรรพชาสามโณรภาคฤดูร้อน ประจำปี 2567 ณ วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ยะลา

พัฒนาคุณภาพฯ   ณ ศาลาอเนกประสงค์บ้านหาดทรายทอง หมู่ที่ 4 ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง สุเทพ แก้วประดิษฐ์ ปลัดจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต สู่สังคมปลอดภัย ไร้ยาเสพติด โดยพลังชุมชน (CBTx) ประจำปี 2567 โดยมี  ณัฐวุฒิ สังข์สุข นายอำเภอปะเหลียน กล่าวรายงาน และหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายเข้าร่วม โดยการค้นหาผู้เสพยาเสพติด (Re x-ray) พื้นที่ทั้ง 4 หมู่บ้าน

ผลาญงบ.  ชาวบ้านบนเกาะลิบง ต.ลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง โอดครวญถึงปัญหาความทุกข์ และเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับถนนที่สร้างแล้วใช้งานไม่ได้ งบประมาณกว่า 28 ล้านบาท ยาวประมาณ  6 กม. สร้างได้เพียง 3 เดือน ถนนกลับพังเสียหายเกือบตลอดทั้งสาย ทำให้ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว เกิดอุบัติเหตุนับครั้งไม่ถ้วน ไม่มีผู้ที่รับผิดชอบเข้าแก้ไขซ่อมแซมแต่อย่างใด  ที่สำคัญใกล้จะหมดสัญญาประกันแล้วในอีก 2 เดือนข้างหน้า

ชี้แนะ.  ณ เกาะเหลาเหลียง ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา พื้นที่ ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษฯ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง ลงพื้นที่พร้อมผู้สื่อข่าว ติดตามการจัดเก็บรายได้ภายใน  พบว่าเจ้าหน้าที่ยังคงจัดเก็บแบบเก็บเงินสด ด้วยการฉีกตั๋ว ซึ่งเสี่ยงต่อการทุจริต และยังเป็นช่องโหว่ที่เงินจะร่วงหล่นระหว่างทาง โดยมีการเรียกร้องให้กรมอุทยานฯ จัดทำบริการและดำเนินการจัดเก็บแบบ e-ticket หรือแบบออนไลน์แทน

ต้อนรับ.  ถาวร ไชยมโณ   นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลชะแล้ อ.สิงหนคร จ.สงขลาพร้อมผู้นำในเขตอำเภอสิงหนคร ต้อนรับ ประเสริฐ บูรณะ  ในโอกาสย้ายมารับตำแหน่งผู้จัดการไฟฟ้าสิงหนครคนใหม่ ณ ห้องอาหาร โรงแรมหาดแก้วรีสอร์ต อ.สิงหนคร จ.สงขลา

ยุทธการฟ้าสาง.    ตำรวจ สอบสวนกลาง ตำรวจน้ำ ตำรวจ สภ.ตากใบ ศุลกากร สรรพสามิต ตชด และ ฝ่ายปกครอง สนธิกำลัง เปิดยุทธการฟ้าสาง ตรวจยึดบุหรี่เถื่อน จากขบวนการค้าบุหรี่ ที่ริมแม่น้ำบางนรา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้ของกลางมูลค่ากว่า 10 ล้าน ส่วนผู้ต้องหา หลบหนีลอยนวล

หนีไม่พ้น.   วันชัย เพชรรัตน์ ผอ.ส่วนบังคับใช้กฎหมาย ปปส.ภ.9พ.ต.อ.พรชัย สุวรรณวงศ์ ผกก.สส.2 บก.สส.จชต.และ เจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้อง รับตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 2 ราย ที่หลบหนีหมายจับไปหลบซ่อนในประเทศมาเลเซีย จากเจ้าหน้าที่มาเลเซียที่ส่งตัวมาให้ ณ ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

ประเมินความเสียหาย.   พ.ต.อ.พรหมพัฒน์ สนิทศรี รอง ผบก.ศรฝ.ภ.9 นำเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบ ประเมินความเสียหาย จากการได้รับผลกระทบจาก คลังแสง ที่เก็บวัตถุระเบิด ที่เกิดระเบิดขึ้น และ สร้างความเสียหายให้กับ บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อทำความเข้าใจ และการเยียวยา