ได้ฤกษ์เบิกชัยใช้เงินพัฒนาประเทศในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือน โดยตามไทม์ไลน์คาดว่างบประมาณปี2567 จะมีผลบังคับใช้ในช่วงเดือนพ.ค.ซึ่งรัฐบาลจะมีเวลาใช้งบราว 5 เดือนก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณในเดือนก.ย.งานนี้บรรดาหน่วยงานราชการคงต้องเร่งปั่นงานกันรัวๆ เพื่อให้ทันกับช่วงระยะเวลาที่เหลือเหลืออยู่ ขณะที่สว.เตือนภาระการคลัง-กู้ 5แสนล้าน แจก “ดิจิทัลวอลเล็ต” ปมเสี่ยง

แต่รัฐบาลไม่สนประกาศเดินหน้าเงินดิจิทัลวอลเล็ต1หมื่นบาท โดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต  แต่งานนี้ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ได้เข้าร่วม ส่ง“รณดล นุ่มนนท์” รองผู้ว่าการ ธปท.ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน เป็นตัวแทนเข้าประชุม

หลังจากประชุมได้ไม่นาย “นายกฯเศรษฐา” ออกบอกทุกภาคส่วนเห็นด้วยหมด ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นด้วยในขั้นตอนทั้งหมดให้รอฟังข่าวดีในวันที่ 10 เม.ย. จะได้ข้อสรุปทั้งหมด และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนเม.ย. ยืนยันกรอบไทม์ไลน์ตามที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แถลง โดย 1. ไตรมาสที่ 3 ลงทะเบียนร้านค้าและประชาชน 2. ไตรมาสที่ 4 เงินถึงมือประชาชน

ด้าน “ลวรณ แสงสนิท” ปลัดกระทรวงการคลัง ออกมาบอกว่า “นายกฯเศรษฐา” ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณไปดูแหล่งเงิน โดยให้ไปพิจารณาผ่าน 3 แนวทาง คือ 1.กู้เงินเพื่อทำโครงการนี้อย่างเดียว 2.ใช้งบประมาณอย่างเดียว เพราะขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 68 ซึ่งรัฐบาลมีความจำเป็นที่ต้องใช้โครงการนี้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจก็สามารถดำเนินการได้ โดยอาจปรับเปลี่ยนวงเงินในการจัดทำงบประมาณปี 68 ซึ่งเป็นทางเลือกเพิ่มเติม ส่วนจะใช้เงินงบประมาณปี 67 หรือไม่ก็ต้องหารือกับสำนักงบประมาณอีกครั้ง และ 3.ใช้รูปแบบผสมโดยใช้ทั้งงบประมาณฯ และกู้เงินเพื่อดำเนินโครงการ โดยทั้งหมดจะชัดเจนในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ที่เตรียมแถลงให้ประชาชนทราบอีกครั้ง

ตามติดด้วยเรื่องการขึ้นเงินเดือนครูทั่วประเทศ โดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม มีผล 2 งวด คือ งวดที่ 1 วันที่ 1 พ.ค. 2567 และงวดที่ 2 วันที่ 1 พ.ค. 2568

กลุ่มที่ 1 การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุทุกคุณวุฒิ โดยทยอยปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุเพิ่มปีละ 10% จำนวน 2 ครั้ง เริ่มงวดเงินเดือนพฤษภาคม ปี 2567 และปี 2568 ผู้ที่บรรจุด้วยคุณวุฒิปริญญาตรีจะได้เงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท พร้อมทั้งปรับคุณวุฒิอื่น ๆ ให้สอดคล้องกัน  กลุ่มที่ 2 การปรับเงินชดเชย แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุพร้อมกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ

นอกจากนี้การประชุมคณะกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำ ชุดที่ 22 (ไตรภาคี)มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 นำร่อง 10 จังหวัดท่องเที่ยว เฉพาะกิจการโรงแรม 4 ดาวขึ้นไป ชงครม.สัปดาห์นี้ให้มีผลบังคับใช้ 13 เม.ย.ปีใหม่ไทย

“นายกฯเศรษฐา” โชว์ผลงานแบบต่อเนื่องล่าสุด ส่ง ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานผู้แทนการค้าไทย และนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตั้งโต๊ะแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาล หลังนายกฯทำหน้าที่สวมบท “เซลล์แมน” โรดโชว์ 14 ประเทศ  พบ 60 บริษัทในรอบ 6 เดือนของ “นายกฯเศรษฐา” เดินหน้าการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ Data Center Cloud Service  และสำนักงานภูมิภาค คาดการณ์ลงทุนจากการโรดโชว์ของนายกฯ ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศรวมประมาณ 5.58 แสนล้าน

ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงในรอบเจ็ดเดือนที่เพิ่ง จะออก ดอกออกผลให้ประชาชน สัมผัสได้ รวมถึงล่าสุดที่ได้เฮกันไปสดๆร้อนๆเห็นจะเป็นเรื่องที่สภาผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม

ขณะที่ “พรรคเพื่อไทย” ใจฟูหลังนายใหญ่ใหญ่ตัวจริง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี โคตรประชานิยมย่างกายเข้าพบสมาชิกพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงในรอบ 17 ปี ที่ตึกอาคาร โอเอไอ (OAI Tower) ซึ่งเป็นอาคารที่เรียกชื่อเล่นของลูกทั้ง 3 คน (โอ๊ก-พานทองแท้,เอม-พินทองทา,อิ๊งค์-แพทองธาร )โดยมี “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยประกบอยู่ข้างๆตลอด

บรรดารัฐมนตรีพากันลางานตบเท้าเข้าพรรครอต้อนรับ ทำเอา “นายใหญ่ ทักษิณ” คึกคักประกาศพร้อมลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชน สส.คนไหนอยากให้ไปในพื้นที่เสนอมา จะพิจารณาอีกครั้ง เพราะเมื่อได้เจอชาวบ้านแล้ว มีกำลังใจเพราะตนเป็นลูกชาวบ้าน

เชื่อว่าการขยับของ “นายใหญ่ทักษิณ” หวังปลุก กระแสฟีเวอร์ เพื่อฟื้นพรรคเพื่อไทย หลังสึนามิสีส้มถล่มแลนด์สไลด์ทำคะแนนแซงหน้าเสื้อแดงมาแล้ว

แต่ปมร้อนที่คอยกระตุกขายังมีอีกเยอะทั้งปมป่วยทิพย์เป็นนักโทษเทวดาชั้น 14 ทั้งการใช้ระบบยุติธรรมแบบ 2 มาตรฐานเอื้อคนคนเดียวไม่ให้ติดคุกและได้กลับบ้านแบบเท่ๆ ซึ่งหลายคนมองว่ากรณี “นายใหญ่” จะเป็นต้นแบบให้ “นายหญิง” น้องปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินตามรอย เห็นได้จากการสร้าง สตอรี่ของ “เสี่ยอ้วน” “ภูมิธรรม เวชชัชชัย “ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ที่ระบุว่า เจอข้าวคุณภาพดีในโครงการรับจำนำข้าว 1.2 แสนกระสอบ คาดว่าจะขายได้ราคาดี พร้อมเตรียมสร้างฉากตรวจสอบโกดังทั่วประเทศหากมีการแจ้งเบาะแสเข้ามา

ฝ่ายจ้องแซะออกมาดักคอว่าประหนึ่งเป็นการสร้างฉากล้างผิดให้ใครหรือไม่ แม้จะมี “ดีลลับ ดีลลวง” แต่ก็หนีความจริงไปไม่พ้น 

ดังนั้นการฟื้นพรรคเพื่อไทยที่ดีที่สุดในตอนนี้ คือ ลุยแก้ปัญหาเศรษฐกิจเสกเงินเข้ากระเป๋าประชาชนให้อยู่ดีกินดีอย่างแท้จริงน่าจะทำให้พรรคเพื่อไทยมีลุ้นสู้ศึกสงครามเลือกตั้งครั้งหน้าได้ เพราะตอนนี้ดูบทบาทพรรคก้าวไกล อยู่ในช่วงห้ามเลือดไหลออก จากกรณีที่กกต.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล กระทำการเข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์หรือล้มล้างการปกครองฯ จากนโยบายหาเสียงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อน ทำลายสถาบันให้ชำรุดทรุดโทรม ซึ่งตอนนี้รอฟังคำตัดสินของศาลธรรมนูญเป็นคำตอบสุดท้าย

จากคำพูดของ ผู้นำจิตวิญญาณ ของ “เสี่ยเอก” “ธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เหมือนบอกให้ทำใจและเตรียมตัวรับสถานการณ์ เพราะสัญญาณยุบพรรคก้าวไกลค่อนข้างแน่นอน ขอให้ไปทำงานร่วมกับพรรคใหม่ ที่ได้เตรียมรองรับไว้ชื่อ “พรรคก้าวใหม่”  

แม้ “ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล” สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกมาปฏิเสธไม่ได้เตรียมแผนสำรองไม่ได้จัดตั้งพรรคก้าวใหม่ แต่ต้องยอมรับว่าคดียุบพรรคทำเอาสส. ป้ายแดงใจละส่ำ แต่ก็ต้อง GO GO GO !!! เดอะ โชว์ มัส โก ออน “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ต้องไปให้สุดทาง”

เกมนี้ก้าวไกลจะเดินหน้าต่อ คือ เวทีซักฟอกรัฐบาล โดยไม่มีการลงมติตามมาตรา 152 ที่จะเป็นบทพิสูจน์ฝีมือของพรรคก้าวไกล จัดขุนพลเปิดศึกซักฟอกรัฐบาลไว้ 30 คน ตั้ง 3 ข้อเป็นโจทย์ซักฟอก 1.การทำงานของรัฐบาลตามที่นายกฯแถลงไว้แล้วไม่ทำ 2.เศรษฐกิจไม่กระเตื้องแก้ปัญหาอย่างไร 3.ยาเสพติดที่ต้องเร่งแก้ไขโดย เฉพาะกฎกระทรวงจากผู้ที่ถือครองยาเสพติด 5 เม็ด เหลือ 1 เม็ด จากผู้เสพกลายเป็นผู้ป่วยแค่ 1-2 เม็ดคลุ้มคลั่งแล้ว ถ้า 5 เม็ดคงบานปลาย รวมไปถึงเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ที่โยงไปถึง “ทักษิณ ชินวัตร”

ศึกซักฟอกครั้งนี้ไม่ใช่เป็นตัวชี้วัดรัฐบาล แต่เป็นการเปิดแผลให้ประชาชนได้เห็นและอาจนำไปสู่การปรับครม.ได้.

คลิกอ่านบทความทั้งหมดที่นี่