ในเอกสารคำร้องขอเงินสนับสนุน จากสภาคองเกรสของกองทัพอากาศสหรัฐ ประจำปีงบประมาณ 2022 หรือ พ.ศ. 2565 ส่วนหนึ่งระบุว่า กองทัพอากาศสหรัฐจะลดการซื้อ ระเบิดนำร่องด้วยเลเซอร์ รุ่นเจแดม (Joint Direct Attack Munitions : JDAMs) รวมทั้งขีปนาวุธเฮลไฟร์ (อากาศสู่พื้นต่อต้านยานเกราะ) และระเบิดขนาดเล็ก เพื่อหันไปลงทุนพัฒนาอาวุธพิสัยไกลสมรรถนะล้ำยุค ที่มีความเหมาะสมมากกว่า สำหรับปฏิบัติการทางยุทธวิธีในภูมิภาคแปซิฟิก

กองทัพอากาศสหรัฐของบประมาณจำนวน 161 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,370 ล้านบาท) เพื่อจัดซื้ออาวุธความเร็วเหนือเสียง แอร์โรว์ (Air-launched Rapid Response Weapon : ARRW) รุ่นแรกจำนวน 12 ชุด ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนวิจัยและพัฒนา

กองทัพอากาศหันมาเน้น และทุ่มเททรัพยากรพัฒนาโครงการ ARRW (อ่านออกเสียงว่า แอร์โรว์) ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่การทดสอบครั้งแรก เมื่อเดือนพ.ค. ปีนี้ ปรากฎว่า ไม่ประสบความสำเร็จ

ในเอกสารของบประมาณ ระบุอีกว่า อาวุธล้ำยุคเทคโนโลยีสูงอีกรายการ ที่กองทัพอากาศสหรัฐกำลังเน้นพัฒนาคือ “ขีปนาวุธล่องหน” เจเอเอสเอสเอ็ม-อีอาร์ (Joint Air-to-Surface Standoff Missile-Extended Range : JASSM-ER) อาวุธปล่อยนำวิถีเทคโนโลยีสเตลธ์ พิสัยยิงไกลประมาณ 600 ไมล์ หรือ 965.6 กิโลเมตร

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐเผยว่า ขีปนาวุธ 2 แบบคือ เจเอเอสเอสเอ็ม (JASSM) และ แอลอาร์เอเอสเอ็ม (Long-Range Anti-Ship Missile : LRASM) ขีปนาวุธต่อต้านเรือในระยะไกล จะถูกใช้สำหรับโจมตีเป้าหมายนอกระยะปฏิบัติการของฝ่ายตรงข้าม (Stand-off) ทั่วภูมิภาคแปซิฟิก

พล.อ.ต.เจมส์ ดี. เพคเซีย รัฐมนตรีช่วยทบวงกองทัพอากาศสหรัฐ ฝ่ายกิจการงบประมาณ บริหารจัดการและตรวจสอบการเงิน กล่าวว่า เป้าหมายใหม่ของกองทัพอากาศ จะลดการซื้อเจแดม และขีปนาวุธเฮลไฟร์

ตอนนี้กองทัพอากาศสหรัฐ เข้าสู่ระดับ “อาวุธยุทโธปกรณ์ในคลังแสงสมบูรณ์” และจะหันมาเน้นการพัฒนาอาวุธเทคโนโลยีสูงล้ำยุคเป็นหลัก

กองทัพอากาศจะร้องขอสภาคองเกรส จัดซื้อเจแดมประมาณ 1,900 ลูก ในปีนี้ ลดลงจาก 16,800 ลูกในปีที่แล้ว และจัดซื้อขีปนาวุธเฮลไฟร์ เอจีเอ็ม-114 (AGM-114) จำนวน 1,176 ชุด ลดลงจาก 4,517 ชุด เมื่อปีที่แล้ว

และมีแผนลดการซื้อระเบิดขนาดเล็ก เอสดีบี วัน (SDB I : GBU-39 Small Diameter Bomb I) จาก 2,462 ลูกเมื่อปีที่แล้ว เหลือ 998 ลูกในปีนี้

กองทัพอากาศสหรัฐจัดซื้อเจแดมประมาณ 27,800 ลูกต่อปี ระหว่างปีงบประมาณ 2561–2563 เพิ่งจะลดการซื้อเป็นครั้งแรก อย่างฮวบฮาบเมื่อปีที่แล้ว

เพื่อเสริมอาวุธในรูปแบบในคลังแสง ที่เครื่องบินรบสามารถบินอยู่นอกเขตป้องกันภัยทางอากาศของศัตรู กองทัพอากาศสหรัฐของบประมาณ จำนวน 211 ล้านดอลลาร์ (7,037 ล้านบาท) เพื่อเพิ่มการผลิตขีปนาวุธล่องหน JASSM-ER โดยกองทัพฯ จะซื้อรุ่นนี้ 525 ชุดในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 400 ชุด เมื่อปีที่แล้ว

ในระยะหลายปีที่ผ่านมา กองทัพอากาศสหรัฐพยายามซื้อกักตุนเจแดม เอสดีบี และเฮลไฟร์ เข้าคลังแสงมากขึ้น โดยเฉพาะในปี 2560 ซึ่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐเผชิญกับปัญหาขาดแคลนระเบิดสมรรถนะสูง โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจาก การทำสงครามกับกลุ่มไอเอส ในซีเรียและอิรัก

ปัญหาขาดแคลนหนักขึ้นอีก เมื่อเหล่าทัพสหรัฐเริ่มแบ่งปันอาวุธ ตามข้อตกลงกับกองกำลังชาติพันธมิตร ในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรง ในภูมิภาคตะวันออกกลาง.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES