เรียกได้ว่าเป็นเรื่องสุดช็อกในวงการเกม กับการสูญเสีย คุณดิว รุ่งกิจ ทศานนท์ ตำนานเกมเมอร์ตู้อาร์เคด เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา เขาคือผู้ที่เคยสร้างสีสันให้กับวงการเกม ในยุคที่ “ตู้เกม” กำลังเป็นที่นิยมในสังคมไทย เขาเป็นที่จดจำได้อย่างดีในสายตาเกมเมอร์หลายคน จากลีลาการเล่นตู้เกมยิงปืนสุดเร้าใจ และยังเป็นผู้ทำอันดับสูงสุดในตู้เกมยิงปืนชื่อดังหลายเกมอีกด้วย

ในบทความนี้ FLINT K. จาก เดลินิวส์ออนไลน์ ได้มีโอกาสในการสัมภาษณ์ ดิว ถุงมือดำ ในช่วงเดือนเมษายน 2024 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับความเป็นมาของเขา ในการสัมผัสกับบรรยากาศของตู้เกม รวมถึงช่วงเวลาที่เขาได้สร้างตำนานภาพจำลีลาการเล่นจนเป็นที่ประจักษ์ในวงการเกมมาแล้ว ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

**หมายเหตุ: บทสัมภาษณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในบทความนี้ คือบทสนทนาที่ถอดมาจากคลิปวิดีโอการสัมภาษณ์กับคุณดิว ที่มีการบันทึกไว้ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2024

แนะนำเกี่ยวกับ “คุณดิว 

คุณดิว รุ่งกิจ ทศานนท์ หรือที่หลายคนอาจรู้จักในฉายาอื่น เช่น Dew Black Glove Gamer, นูเบ, Mr. Smith, Dew_Akashima และ The Greatest Awesome Gamer in Thailand เคยเป็นหนึ่งในเกมเมอร์ที่เคยได้สัมผัสบรรยากาศกับตู้เกมมาอย่างช่ำชอง ในอดีต เขาโด่งดังจากความสามารถและลีลาที่โดดเด่นกว่าใคร ๆ ในการเล่นตู้เกมยิงปืนในช่วงยุคมิลเลนเนียล 

หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ผู้คนเริ่มจดจำเขาได้ คือการที่เขาได้เล่น ตู้เกม Ghost Squad และ The House of the Dead 4 ที่ตั้งอยู่ในโซนตู้เกมของห้างมาบุญครอง (MBK) ชั้น 7 พร้อมกับแสดงสไตล์ในการเล่นแบบแทคทิคอล เหมือนกับว่าตัวเขาเองกำลัง ‘คอสเพลย์’ เป็นตัวละครที่อยู่บนหน้าจอเกมให้ทุกคนได้เห็น 

แล้วที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เขามีความเป็นโปรในการเล่น เขารู้ในทุกจังหวะที่ตัวเองจะต้องลั่นไกยิง หรือสมมติบทบาทตัวเองให้เข้ากับแต่ละคัทซีนและบทพูดของเกม ทำให้ใครก็ตามที่เข้ามายืนดู ก็จะรู้เลยว่าชายคนนี้คือ “ตัวจริงเรื่องเกมตู้”

ประสบการณ์อาร์เคดครั้งแรก

คุณดิว ได้รู้จักและสัมผัสกับเกมตู้เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ช่วงยุค 90s ที่ห้างบิ๊กซีวงศ์สว่าง (ในปัจจุบันคือ Market Place Wongsawang) โดยเขาได้อธิบายว่า เกมตู้ในยุคนั้น ใช้พื้นที่เพียงนิดเดียวในการวางตู้ติดกัน ผู้เล่นหนึ่งคนจะเสียเงินเพียงแค่ 5 บาทในการเล่น 1 ครั้ง แต่ขนาดของตู้เกมนั้นเล็กและมีจอยสติ๊กสำหรับ 2 ผู้เล่นให้บังคับบนพื้นที่อันน้อยนิด ทำให้ผู้เล่นสองคนต้องนั่งหรือยืนเบียดกันเพื่อเล่นด้วยกัน

ส่วนตัวเลือกเกมนั้นจะมีอยู่ไม่กี่เกมที่เป็นระบบกราฟิกแบบสองมิติให้เลือก โดยส่วนใหญ่จะเป็นเกมที่ใช้ระบบ Side Scrolling (หน้าจอเลื่อนไปด้านข้างตามตัวละคร) เป็นหลัก

หนึ่งในเกมยอดนิยมของยุคนั้นก็คือเกมต่อสู้ Street Fighter II ที่ผู้เล่นทั้งยุคเก่าและยุคปัจจุบันคุ้นเคยกันดี โดยเขาก็ใช้เวลาว่างของตัวเองหลังจากเลิกเรียน มานั่งเล่นเกมอย่างสนุกสนาน

จุดเปลี่ยนสำคัญที่เขาได้เจอ ก็คือการที่โซนตู้เกมในห้างบิ๊กซีวงศ์สว่างเริ่มมีการขยายพื้นที่ พร้อมกับมีการนำเกมแนวใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นเกมเต้น เกมดนตรี และเกมตู้ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้ ‘คุณดิว’ โปรดปรานที่สุด ก็คือการมาของเกมที่ใช้ Light Gun หรือเกมที่ใช้ ปืนจำลอง เป็นครั้งแรก!

โดยเกมแรก ๆ ที่เขาได้เล่น คือเกม Rail Chase ที่เป็นเกมแรก ๆ ของค่าย SEGA ที่ใช้ระบบการยิงแบบ Rail Shooter หรือการยิงแบบไหลไปตามฉาก เขาได้อธิบายกับประสบการณ์ในการเล่นเกมแนวนี้ว่ามันคือการ “เปิดโลก” เป็นครั้งแรกจริง ๆ!

แต่สองเกมที่ทำให้เขารู้สึก ‘ว้าว’ ยิ่งกว่า! คือเกม The House of the Dead และ Virtua Cop จากค่าย SEGA ที่กลายเป็น Game Changer แห่งยุคเลยก็ว่าได้ นี่คือเกมที่นำระบบกราฟิก โพลีกอนสามมิติ (3D Polygon) มาใช้ในเกมอาร์เคดเป็นครั้งแรก โดยทั้งสองเกม ยังมีการเพิ่มระบบเนื้อเรื่อง รวมถึงตัวเลือกในการช่วยตัวประกัน และโบนัสพิเศษที่จะซ่อนอยู่ตามฉากในเกมอีกด้วย!

ต่อมา ทางค่าย Namco ก็ได้ทำเกม Time Crisis ออกมาแข่ง! โดยมีการนำระบบ Pedal (แป้นเหยียบ) มาใช้ในการเล่น ทางคุณดิวรู้สึกว่า การยิงแบบเข้าและออกจากกำบังเพื่อยิง มันดูมีความเป็น “หนังแอ็คชั่น” จริง ๆ เพราะถ้าจะยิง ก็ต้องเหยียบแป้นออกจากกำบัง เพื่อโผล่ไปยิง หรือถ้าจะรีโหลด ก็ต้องปล่อยแป้นหลบเข้าไปในกำบัง แถมยังมีระบบเวลามาบีบผู้เล่นให้รีบเคลียร์แต่ละสเตจอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ ทำให้เขาเริ่มชอบทั้ง 2 เกมที่เปิดตัวออกมาในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้แบบจริงจัง และมีความคิดอยากจะท้าทายตัวเอง ด้วยการเล่นเกมเหล่านี้ให้เก่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปลุกอินเนอร์จากการเล่นเกม

ด้วยความที่ คุณดิว เป็นผู้ที่หลงรักการเล่นเกมเป็นอย่างมาก เขาก็เริ่มมีความรู้สึกว่า “เกมยิงปืน” มันใช่ สำหรับตัวเขาจริง ๆ โดยในแต่ละช่วงเวลาที่เขาได้เล่นเกมเหล่านี้ เขาก็จะแสดง “อินเนอร์” ในการเล่นเกมออกมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นการซึมซับไปกับบทพูด ท่าทาง หรือแอ็กชั่นต่าง ๆ ของตัวละคร ทำให้เขาเริ่มติดภาพจำจากสิ่งเหล่านั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ

ในอีกไม่กี่ปีถัดมา ทาง SEGA ก็ได้เปิดตัวเกมตู้ Ghost Squad ออกมาให้เล่น ทางคุณดิวที่เริ่มชื่นชอบการเล่นเกมยิงปืนมาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ก็ไม่รอช้า! เขาก็ได้ไปลองเล่นเกมนี้ ที่มาตั้งอยู่ในโซนตู้อาร์เคดของ ห้างมาบุญครอง (MBK) ชั้น 7 พร้อมกับเริ่มเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ของเกมไว้ให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นฉาก (คัตซีน) บทพูดของตัวละครในเกม ตำแหน่งของศัตรู รวมถึงไอเทมโบนัส และปริศนาต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ในเกม โดยผ่านการหยอดเหรียญแล้วเล่นในหลาย ๆ รอบ เพื่อให้ตัวเองซึมซับกับเกมให้มากที่สุด

โดยก่อนหน้านี้ คุณดิวเองก็ยังเคยมีโอกาสได้ไปลองเล่น “บีบีกัน” กับเพื่อนคนหนึ่ง แล้วเขาก็ได้สังเกตว่า เพื่อนคนนี้ก็มีท่าทางในการยิงปืนที่ชวนแปลกตา แล้วมันก็ทำให้เขาเริ่มจุดประกายความคิดว่า “ถ้าเราลองเอาท่าทางแบบนี้ไปใช้กับตู้เกม มันก็คงจะดี”

จนต่อมา เขาก็ได้ลองเอาท่าทาง รวมถึงการแต่งตัวสไตล์ทหารในช่วงที่ได้ไปฝึกยิงบีบีกัน และ “ถุงมือดำคู่ใจ” ไปลองใช้กับตู้เกม Ghost Squad บนห้างมาบุญครองชั้น 7 อย่างจริงจัง โดยเขาพยายามเล่นไปด้วย แล้วก็โชว์ท่าทางในการต่อสู้ในสไตล์แบบทหารที่ติดภาพจำมาจาก ‘เพื่อนของเขา’ ไปด้วย

การเล่นตู้เกมในสไตล์สุดแปลก ไม่ซ้ำใคร แถมยังสามารถเก็บคะแนนสูงสุดในการจัดอันดับของเกม ก็ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านรอบโซนตู้เกมอาร์เคด ต่างให้ความสนใจและจับจ้องไปที่การเล่นของชายคนนี้แบบไม่ละสายตา! โดยคุณดิวก็ได้สนุกสนาน และฝึกฝนกับตู้เกมยิงอย่าง Ghost Squad และ The House of the Dead 4 เป็นชีวิตจิตใจ จนต่อมา หลายคนก็เริ่มคุ้นหน้าคุ้นตาเขา แล้วก็มีการชักชวนกันมารับชมการเล่นของคุณดิวกันอย่างต่อเนื่อง ในทุกที่ที่เขาไปเล่น

เขายังได้อธิบายเพิ่มเติมไว้อีกด้วยว่า กระแสเกมในสมัยก่อนยังมีความเป็น “เฉพาะกลุ่ม” เท่านั้น หลายคนที่ได้ลองเล่นตู้เกมยิงปืนเหล่านี้ ก็มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ โดยในส่วนคนที่ไม่ชอบ มักจะเกิดจากการที่ไม่เข้าใจระบบการเล่น แล้วอาจ “แพ้” ได้ไว ทำให้เขายอมแพ้ไป ส่วนในมุมของคนที่ชอบ ก็อาจเกิดจากการเป็นคนชอบเล่นเกมอยู่แล้ว หรืออาจชอบความท้าทายก็อาจเป็นได้

แต่สำหรับเขา เขาเลือกที่จะเล่นเกมยิงปืน เพราะเขาสนุกกับมันจริง ๆ และเขาก็รู้สึกว่ามันเป็นความท้าทายที่ตัวเขาเองก็พร้อมที่จะเรียนรู้ และเป็นเบอร์ 1 กับตู้เกมยิงปืนให้ได้!

เส้นทางสู่การเป็น “ผู้มีชื่อเสียงในวงการเกม”

หลังจากที่ คุณดิว เริ่มเป็นที่จดจำได้ในกลุ่มเกมเมอร์หลายคนที่ผ่านเข้ามาในโซนตู้เกมอาร์เคด เขาก็เริ่มได้รับการติดต่อจากผู้คนในวงการเกม รวมถึงผู้จัดอีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับตู้เกมมากขึ้น

อีเวนต์แรก ๆ ที่คุณดิวมีโอกาสได้ไปเข้าร่วม คือช่วงเปิดตัว ห้างสยามพารากอน ซึ่งในช่วงนั้น ทางห้างก็มีการนำตู้เกม The House of the Dead 4 ที่ใช้จอเกมขนาด 50 นิ้ว มาตั้งให้เล่นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

โดยในช่วงนั้นเขาก็ได้ไปดูโซนตู้เกมด้วยตัวเอง แล้วก็ได้เจอกับ “แฟนคลับคนหนึ่ง” ที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ได้กล่าวกับเขาว่า “ผมเคยเห็นพี่เล่นเกมแบบนี้อยู่บ่อย ๆ ที่มาบุญครอง ไหนพี่ลองเล่นให้ดูหน่อยได้ไหมครับ?” มันเลยเป็นประสบการณ์ชวนอึ้งสำหรับเขามาก ๆ ที่เจอคนไม่รู้จักกันมาก่อน แต่คุ้นเคยการเล่นของเขา ได้ชวนให้เขาไปทดลองเล่นให้ทุกคนได้ดูกันอีกครั้ง

หลังจากนั้นเป็นต้นมา คุณดิวก็ได้ไป ‘เดินสาย’ เล่นตู้เกมทั่วประเทศไทย โดยเขาก็มักจะสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับหลายคนที่ผ่านเข้าไปในโซนตู้เกมอยู่เสมอ ด้วยลีลาการเล่นสุดเร้าใจ แถมยังเป็นผู้ทำคะแนนสูงสุด ในทุก ๆ เกมยิงปืนที่เขาได้ไปเล่น แล้วมันก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ และวัยรุ่นหลายคน ที่ได้เห็นแล้วอยากจะเล่นให้เก่งเหมือนกับเขาบ้าง

ชื่อเสียงของคุณดิว ก็เริ่มทำให้เขากลายเป็น “อินฟลูเอนเซอร์ผู้เล่นตู้เกมยิงปืน” ที่หลายคนจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทุกครั้งที่มีตู้เกมยิงปืนเข้ามาใหม่ ๆ หรือมีประกาศจะนำเข้ามา เกมเมอร์หลายคนก็มักจะนึกถึงตัวเขาเป็นคนแรก แล้วพวกเขาก็ต่างรอคอยให้คุณดิวมาลองเล่นให้ดูเป็นขวัญตากันอีกครั้ง

ทำงานกับบริษัทตู้เกมครั้งแรก

หลังจากที่คุณดิวเริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในระดับหนึ่งกับตู้เกมแล้ว เขาก็ได้รับการติดต่อมาจาก บริษัทกาแล็กซี่ ที่เป็นหนึ่งในผู้นำเข้าและเปิดให้บริการเกมตู้ในประเทศไทย ให้ไปลอง ‘ฝึกงาน’ กับทางบริษัท โดยเขาได้กล่าวถึงประสบการณ์ในช่วงนี้ไว้ว่า “มันเป็นช่วงที่ผมได้ไปทดลองตู้เกมทั้งรูปแบบที่มีอยู่แล้ว รวมถึงตู้แบบใหม่ที่ยังไม่เคยเปิดให้บริการที่ไหนมาก่อนด้วย”

“ในตอนนั้นมันเป็นประสบการณ์ที่ชวนตื่นเต้นเอามาก ๆ เพราะผมก็มีโอกาสได้ไปดูงานตู้เกม ทั้งในและต่างประเทศ แล้วก็มีโอกาสได้ทดสอบเกมก่อนใคร เพื่อให้ผู้เล่นได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด หลังจากที่ตู้เกมมีการนำไปเปิดให้บริการจริง”

เมื่อคุณดิวได้เริ่มฝึกงานไปสักระยะหนึ่ง เขาก็ได้โอกาสในการทำงานเป็น Game Tester ของ บริษัทกาแล็กซี่ อย่างจริงจังมากขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น โดยตัวเขาเองก็ได้ผลักดันให้ตู้เกมอาร์เคดมีคุณภาพในการเล่นได้ดีขึ้น

Disruption ของวงการเกม

เมื่อกาลเวลาผ่านไป รูปแบบของเกมก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยมากขึ้น ในปัจจุบัน การมาของเกมคอนโซล เกมมือถือที่เล่นบนสมาร์ตโฟน หรือแม้แต่พีซีและ VR ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในวงการเกมมากขึ้น ทำให้ตู้เกมอาร์เคด เริ่มกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจน้อยลง ในขณะที่ตู้เกมหลายรุ่นที่คุณดิวเคยได้สัมผัส ก็เริ่มกลายเป็นของตกยุคไปอีกเช่นกัน

จากการเปลี่ยนแปลงนี้ มันก็เลยทำให้คุณดิวเริ่ม ‘ฉุกคิด’ ว่า วงการเกมตู้จะยังไปต่อได้จริง ๆ หรือไม่ โดยเขาก็ได้อธิบายในส่วนนี้ไว้ว่า “ผมยังเฝ้ารอเกมยิงปืนใหม่ ๆ อยู่ตลอด โดยผมก็ได้ติดตามทั้งจากในเว็บไซต์ของค่ายเกมไทย รวมถึงค่ายเกมในญี่ปุ่น โดยเว็บที่ผมเช็คเป็นประจำ ก็คือเว็บ arcadeheroes.com

“กระแสการมาของ VR มันก็ทำให้ตู้อาร์เคดเริ่มหายไปตามกาลเวลา ในขณะที่ตู้เกมอาร์เคดบางรูปแบบ ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นระบบคล้ายกับคอนโซล หรือ VR มากขึ้นแทน”

“บริษัทตู้เกมอาร์เคดในปัจจุบัน ก็เลยต้องปรับตัวกันใหม่ ด้วยการเอาระบบการเล่นแบบหยอดเหรียญนับเวลา รวมถึงระบบสะสมแต้ม เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกม แล้วเอาแต้มที่ได้ไปแลกของรางวัล มันก็กลายเป็นชาเลนจ์แบบใหม่ ๆ ที่ทางผู้ให้บริการก็หาทางปรับตัวมาโดยตลอด แต่ในส่วนของแนวเกมที่อยู่ได้จริง ๆ ก็จะเน้นไปที่เกมแนวตู้คีบของรางวัล เกมรถแข่ง หรือเกมเต้นเป็นส่วนใหญ่”

“ในยุคก่อน โซนตู้เกมอาร์เคด คือโซนที่ผู้คนมากมายใช้เป็นที่พบปะสังสรรค์กัน แต่ในปัจจุบัน กระแสการเล่นตู้เกมก็เริ่มจางหายไป เพราะผู้คนไปเล่นเกมผ่านแพลตฟอร์มอื่นกันเป็นส่วนใหญ่ แล้วเกมตู้ยิงปืนก็คือหนึ่งในเกมที่เริ่มหายไปตามกาลเวลา ผมเองก็ต้องยอมรับสภาพว่า ในปัจจุบัน ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว”

“มันมีบางแฟรนไชส์เกม ที่พยายามจะกอบกู้ชื่อเสียงกลับคืนมา เช่น เกม Time Crisis 5 และเกม House of the Dead: Scarlet Dawn ที่ทำออกมาใหม่ จากแฟรนไชส์ที่ผู้คนคุ้นเคย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดี ที่ทางค่ายก็พยายามจะเรียกกระแสเกมเหล่านี้กลับมาอีกครั้ง”

“แต่โดยส่วนตัวของผม ด้วยความที่กระแสของเกมเริ่มเปลี่ยนไป ผมก็เริ่มหันไปสนใจในด้าน VR มากขึ้น เพราะมันยังมีระบบการเล่นที่คล้าย ๆ กับช่วงที่ผมเคยเล่นตู้เกมยิงปืนอยู่บ้าง แล้วผมก็พยายามศึกษาเกี่ยวกับเกมพวกนี้มาโดยตลอด”

ต่อมา ในช่วงเดือนตุลาคม 2018 คุณดิวมีโอกาสได้เดินทางไปที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก โดยเขาบอกว่ามันคือ “ความฝันตั้งแต่วัยเด็ก ที่จะได้ไปประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อว่ามีตู้เกมเป็นจำนวนมาก โดยในตอนนั้น ผมก็มีโอกาสได้ไปทดลองเล่นเกม House of the Dead: Scarlet Dawn ก่อนที่ตัวเกมจะเข้ามาอยู่ในไทย ในอีกไม่กี่เดือนถัดมา”

“ซึ่งในตอนนั้น หลาย ๆ เกมที่ผมได้ไปลองเล่นที่ญี่ปุ่น มันยังเป็นช่วง Test อยู่เลย มันกลายเป็นประสบการณ์สุดแปลกสำหรับผม ที่ได้ไปทดลองเล่นเกมเหล่านี้ ก่อนที่เกมบางส่วนจะเข้ามาที่ไทย แล้วนี่ก็จะเป็นช่วงเวลาที่ผมจะไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน”

จากตู้เกม สู่การเล่น VR

ในช่วงที่ VR เริ่มมีกระแสมากขึ้นในเมืองไทย คุณดิวก็ได้มีโอกาสไปทดลองเล่นเกมตาม VR Center ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย โดยเขาก็เลือกที่จะเล่นเกมแนวยิงปืน เหมือนกับที่เขาคุ้นเคยมาแทบทั้งชีวิต โดยเขาก็รู้สึก ‘ติดใจ’ ตั้งแต่ครั้งแรก ๆ ที่ได้ลองเล่น เพราะเขาสามารถใช้ท่าทางในการควบคุมได้คล้าย ๆ กับตอนที่เขาได้เล่นตู้เกมยิงปืนเลย

หลายคนอาจคุ้นเคยกับคุณดิว ในอีเวนต์ “Man Versus VR” ของงาน Thailand Game Show ที่เขาจะได้ทดลองเล่นทั้ง HTC VIVE และ PlayStation VR ให้เหล่าเกมเมอร์ที่มาร่วมงาน ได้รับชมการเล่นกันแบบจุใจ โดยคุณดิวเองก็ได้อธิบายความรู้สึกในการเล่นครั้งนั้นว่ามันคือการ “เก็บประสบการณ์กับ VR แถมยังได้ทดสอบการเล่นด้วยตัวเอง โดยตัวผมก็ได้ใช้สกิลจากเกมตู้ กับ VR ได้มากขึ้นด้วย”

“กับ VR มันมีความต่างตรงที่ว่า ผมรู้สึกเหมือนถูกครอบหัวไว้ โดยผมก็จะต้องขยับร่างกายมากขึ้น ไม่เหมือนกับตอนที่เล่นเกมตู้ ที่ผมจะยืนอยู่ในพื้นที่ขอบตู้เท่านั้น แต่กับ VR ผมต้องขยับทั้งตัวและหัวไปพร้อม ๆ กัน มันดูมีฐานในการเล่นมากขึ้นกว่าเดิม แต่มันก็ยังมีข้อจำกัดว่า ผมจะต้องเดินไปตามขอบเขตที่ตัวเกมได้เซตเอาไว้ แค่การเคลื่อนไหวจะมีความสมจริงมากขึ้น”

การเล่น VR ของคุณดิว ก็ไม่ได้ทำให้ความสนใจในวงการตู้เกมหายไป เขายังคงติดตามข่าวสาร อัปเดตต่าง ๆ ในวงการอยู่เสมอ รวมถึงยังมีการไปออกอีเวนต์กับงานเกมใหญ่ ๆ หรือทำรีวิวอยู่หลายครั้ง แม้ว่ากระแสการเล่นเกมในยุคปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนก็ตาม

ด้วยความรักและอาลัยถึง

ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ คุณดิว ได้เผยเพิ่มเติมว่า เขาได้เปลี่ยนจากการเดินทางในสายเกม สู่การทำธุรกิจกับญาติของเขาแทน ภายในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ช่วงที่เกิดโรคระบาดโควิด-19 เขาก็ไม่ค่อยได้เล่นเกมบ่อย ๆ เหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้ตัดขาดจากวงการเกมไปเลยทีเดียว เพราะเขาก็ยังติดตามคอนเทนต์ครีเอเตอร์สายเกม บนแพลตฟอร์ม YouTube อยู่บ้าง

เขาเลือกติดตามครีเอเตอร์ที่เล่นเกมแนว Shooter อยู่หลายคน ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเขาได้ระบุว่า “ในปัจจุบัน สตรีมเมอร์ และ คอนเทนต์ครีเอเตอร์สายเกม เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการเกม การผลักดันกระแสวงการเกมในประเทศไทย ก็เกิดจากความร่วมมือกัน ระหว่างครีเอเตอร์เหล่านี้ รวมถึงเกมเมอร์ไทยทุกคนที่ให้การสนับสนุนกันอย่างต่อเนื่อง”

“หลายคนที่เคยเห็นผมเล่นในยุคก่อน ๆ อาจรู้สึกว่าผมบ้า หรือผมเป็นคนที่มีสติไม่ดี ผมเคยถูกผู้คนบางส่วนดูถูกในสิ่งที่ผมชอบหรือทำอยู่ ซึ่งผมเองก็พยายามที่จะไม่สนใจกับสิ่งเหล่านี้ แล้วก้มหน้าก้มตาทำสิ่งที่ตัวเองชอบต่อไป เพราะผมไม่สามารถไปห้ามความคิดใครได้ แรก ๆ ก็รู้สึกประหลาดใจ แต่หลัง ๆ ก็เริ่มชินแล้ว”

“เพราะหลังจากเล่นเกมเหล่านั้นจบลง ผมก็แค่กลับมาเป็น ดิว คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งที่ผมได้แสดงออกไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหน้าตู้เกม มันคือสิ่งที่เป็น Passion สำหรับผมมาตลอดจริง ๆ”

“ในยุคนี้ หนึ่งในครีเอเตอร์ไทยที่ผมติดตามอยู่เป็นประจำก็คือ คุณเบย์ ธนกฤต เชื้อวงษ์ เจ้าของช่อง Bay Riffer เพราะเขาเป็นคนที่มีสไตล์การเล่นเกมแนวเดียวกับผม แล้วผมเองก็เคยมีโอกาสไปคอมเมนต์ชื่นชม ผ่านโพสต์ส่วนตัวของเขามาบ้างแล้วด้วย”

ในขณะที่ทาง คุณเบย์ ก็เคยออกมาตอบรับสิ่งนี้ ด้วยการชื่นชมในความสามารถของ “คุณดิว” พร้อมกับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเกมเมอร์ที่มีความสามารถโดดเด่นเหนือใคร พร้อมกับมองว่าชายคนนี้คือ “ไอดอล” ของเขาอีกด้วย

แต่ในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2024 ก็เกิดเรื่องสุดช็อก! โดยทางผู้ใช้เฟซบุ๊ก นามว่า Rokung Damn ผู้ที่รู้จักกับคุณดิว ก็ได้ออกมาประกาศในสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิด ว่า คุณดิวได้เสียชีวิตลงแล้ว ซึ่งเหตุการณ์นี้ ก็ทำให้เกมเมอร์หลายคนที่ได้รู้จักกับเขา รวมถึงบริษัทค่ายเกม และสื่อเกมต่าง ๆ ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียในครั้งนี้

หลังจากนั้นไม่นาน คุณเบย์ ก็ได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของคุณดิว แล้วเขาก็ออกมาโพสต์แสดงความเสียใจ รวมถึงอธิบายถึงตัวตนของคุณดิวให้ทุกคนเข้าใจกันมากขึ้น ผ่านหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัว Thanakrit Chueawong โดยเขาได้อธิบายเพิ่มเติมว่าเขาเคยมีความคิดอยากจะชักชวนคุณดิวให้มาเข้าร่วม ‘โปรเจกต์เกม’ ที่เขาตั้งใจสร้างขึ้น แต่คุณดิวก็ต้องจากไปเสียก่อน พร้อมกับอธิบายว่าแนวคิดและตัวตนของชายคนนี้ คือ “ต้นแบบที่ดี” สำหรับเขาตลอดไป

นอกจากนี้ ก็ยังมีอีกหลายข้อความและคอมเมนต์ที่น่าสนใจจากแฟนคลับของคุณดิวอีกหลายท่าน เช่น

  • “วีรบุรุษ ไม่จำเป็นต้องสวมผ้าคลุม เพราะเขาสวมถุงมือไว้แล้ว ถุงมือระดับตำนาน”
  • “ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องปกติเลย ที่ต้องมาเห็นคนรู้จักทั้งในวัยเดียวกัน อายุมากกว่า หรืออายุน้อยกว่าต้องจากโลกไปในช่วงอายุนี้”
  • “ครั้งหนึ่งในชีวิต ได้ดวลกับคุณดิว กับตู้ HOTD3 ขวัญใจคนหนึ่งตลอดกาลของนักแม่นปืนตู้ Arcade Cabinet ที่แพรวพราวที่สุดในประเทศไทย”
  • “คนนี้คือตำนาน Gamer ในไทยเลย เป็นเรื่องเศร้าประจำวันนี้สุด ๆ”
  • “ขอบคุณที่เปิดโลก No Continue Cleared ให้ผม ทำให้การหยอดเหรียญเล่นเกมตู้ ไม่ใช่แค่การเล่นผ่าน ๆ ให้จบ แต่เป็นการเต็มที่กับการทำให้เหรียญนั้น มีคุณค่าในการเล่นมากที่สุด”
  • “เขาคือผู้ที่กล้าเล่น House of the Dead 4 จนจบ แบบถือปืนสองกระบอก อีกเกมที่จำได้ดีก็ Ghost Squad เขาคือที่สุดของความมันแห่งเกมตู้แล้วจริง ๆ”

และยังมีคอมเมนต์อีกหลายหมื่นครั้ง ที่ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียในครั้งนี้

ที่ผ่านมา คุณดิว เป็น “ไอดอล” ของเกมเมอร์หลายคน ตั้งแต่ยุคที่ตู้เกมอาร์เคดยังรุ่งเรือง จนถึงยุคที่ VR เริ่มเข้ามาตีตลาดในประเทศไทย หลายคนที่ได้เห็นภาพจำลีลา ฝีมือที๋โดดเด่น รวมถึงการวางตัวของเขา ก็เริ่มมีแรงบันดาลใจในการเล่นเกม หรือค้นหาความสำเร็จจากเกมกันมากขึ้น และยกย่องว่าเขาเป็น The Greatest Awesome Gamer in Thailand จริง ๆ

การสูญเสียคุณดิวไปในครั้งนี้ ก็ทำให้ผู้คนในวงการเกมได้ตระหนักในการใช้ชีวิตให้คุ้มค่ามากขึ้น เพราะชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน หากมีโอกาสในวันนี้ ก็ขอให้เริ่มทำในสิ่งที่ตนเองตั้งใจไว้ ก่อนที่จะไม่มีเวลาเหลืออีกต่อไป

ทาง เดลินิวส์ออนไลน์ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ คุณดิว รุ่งกิจ ทศานนท์ กับการสูญเสียครั้งใหญ่ ด้วยความรักและอาลัยยิ่ง และขอให้บทความนี้เป็น ‘อนุสรณ์’ ของชายคนนี้ตลอดไป

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก: Rungkit Tasanon, Rokung Damn, Thailand Game Show

——————————————–
THE GAMER LIFE Exclusive Content
คอลัมน์โดย:
ภาริช ต่อพิมาย (FLINT K.)
ติดตามเรื่องราวเจาะลึกชีวิต ไลฟ์สไตล์ คัลเจอร์ในโลกของเกมได้ที่: THE GAMER LIFE by FLINT K.