เรื่องราวของหนุ่มใหญ่เมืองคอนสู้ชีวิต แต่เจอชีวิตสู้กลับ พยายามตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินเร่ขายเฉาก๊วยและน้ำหวาน หวังเก็บเงินซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัยให้ดี แต่กว่า 20 ปี ก็ยังไม่สามารถทำความฝันให้เป็นจริงได้ ต้องทนอยู่บ้านไม้เก่าผุพัง จะเดินไปทางไหน ต้องระวังผนังและพื้นไม้จะทรุดพังลงมา
นายทวี สวัสดี อายุ 59 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านหัวพาน หมู่ 8 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ฐานะยากจน ประกอบอาชีพพ่อค้าเร่ ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างขายเฉาก๊วยและน้ำหวาน อาศัยอยู่ตัวคนเดียวในบ้านหลังเก่าของพ่อแม่ ซึ่งปัจจุบันบ้านชำรุดทรุดโทรมทั้งหลัง จนแทบจะไม่สามารถอาศัยกันแดดกันฝนได้ เวลาแดดร้อนหรือฝนตก ก็ต้องหาที่หลบให้วุ่น
แต่ด้วยความที่ “ทวี” เป็นคนขยันสู้ชีวิต ทุกวันเขาจะทำเฉาก๊วย เตรียมอุปกรณ์ขึ้นรถให้พร้อมสรรพ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างเร่ไปขายตามตรอกซอกซอยที่มีบ้านเรือนอาศัย ชาวบ้านก็จะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี บางคนก็อุดหนุนกินเฉาก๊วยเย็นๆ คลายร้อน “ทวี” บอกว่า รายได้แต่ก็ละวันก็แค่พอกินไปวันๆ เดี๋ยวนี้ตั้งแต่หลังโควิดมา ก็ขายไม่ดี แต่ก็ต้องทนทำไป ดีกว่าอยู่เฉยๆ หลังขายเสร็จก็จะต้องไปซื้อของมาทำเฉาก๊วย โดยจะทำทุกอย่างช่วงตอนกลางคืน พอวันรุ่งขึ้นก็ออกไปเร่ขาย เป็นอย่างนี้มา 20 กว่าปีแล้ว
ต่อมา นายวิฑูรย์ หัสภาคย์ นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย น.ส.ปาณัสม์ หัสภาคย์ หรือ “น้องคลีน” อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นนักธุรกิจสาวใจบุญจากสหรัฐอเมริกา เจ้าของกิจการร้านอาหารไทย ร้านบุญศรีไทยคิชเช่น เมืองนอร์โค่ และร้านครายอิ้งไทเกอร์ เมืองอีทเวลล์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายวิฑูรย์ หัสภาคย์ และนายไพฑูรย์ อินทศิลา สื่ออาวุโส ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอำพร กัลปหา ปลัดเทศบาลตำบลโพธิ์เสด็จ ร่วมกันเดินทางไปที่บ้านของทวี หลังทราบข่าวความยากลำบาก เพื่อยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
“ทวี” เล่าว่า เมื่อ 20 ปีก่อน ตนไปทำธุรกิจส่วนตัวและมีครอบครัวที่กรุงเทพฯ มีลูก 1 คน แต่ไม่นาน ก็ถูกเพื่อนที่ร่วมทำธุรกิจโกงเงินไปกว่า 5 แสนบาท จึงตัดสินใจพาครอบครัวกลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่ ต่อมาภรรยาได้แยกทาง และพาลูกกลับบ้านที่ภาคอีสาน และพ่อก็ไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกเลย ติดต่อกับภรรยาก็ไม่ได้ ตนจึงอยู่คนเดียวมาตลอด ขายเฉาก๊วยเลี้ยงพ่อแม่ กระทั่งพ่อแม่เสียชีวิตลง ได้ยกที่ดินให้ 1 งานเศษ ส่วนบ้านของพ่อแม่ยกให้เป็นของน้องชาย แต่น้องชายไปมีครอบครัวอยู่ที่อื่น จึงอนุญาตให้ตนอยู่อาศัยในบ้าน
“ตนพยายามที่จะเร่ขายเฉาก๊วยเพื่อเก็บเงินสร้างบ้านใหม่หลังเล็ก ๆ ในที่ดินของตนเอง เพียงเพื่อได้อาศัยซุกหัวนอน แต่หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 การค้าขายย่ำแย่สุด ๆ กำไรที่ได้จากการขายน้ำ ขายเฉาก๊วย แทบไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย แม้ตนจะพยายามประหยัด ไม่เที่ยวเตร่ ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทุกชนิด
โดยตนกินข้าววันละมื้อเท่านั้น ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตนก็เก็บเงินได้ไม่กี่พันบาท ไม่สามารถสร้างบ้านใหม่ได้ บางทีก็คิดน้อยใจในโชคชะตา แต่ไม่เคยย่อท้อ มุมานะทำงานหามรุ่งหามค่ำ และคิดว่า เมื่อไม่สามารถสร้างบ้านใหม่หลังเล็ก ๆ ได้ตนก็เก็บสะสมกระดาษลังมากั้นเป็นฝาผนังบ้าน เพื่อกันแดดกันฝนและอยู่ไปวัน ๆ จนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของชีวิต”
ด้านนายวิฑูรย์ หัสภาคย์ กล่าวว่า ตนให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนเป็นอย่างมาก ครอบครัวไหนเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบ และแจ้งให้ตนทราบ เพื่อหาช่องทางในการช่วยเหลือ หากมีช่องทางของทางราชการ ที่จะจัดงบประมาณลงไปเยียวยาช่วยเหลือได้ ก็จะเร่งดำเนินการทันที หากไม่มีงบประมาณ ต้องระดมธารน้ำใจจากภาคเอกชนหรือประชาชน เข้าช่วยเหลือตามความเหมาะสม
โชคดีที่ “น้องคลีน” ลูกสาวของตน เดินทางกลับมาบ้านพอดี และตามปกติน้องคลีนและเพื่อน ๆ ทั้งในเมืองไทยและสหรัฐอเมริกา ก็อยากจะทำบุญช่วยเหลือผู้ยากไร้ จึงตกลงกันว่า จะร่วมกับทางชมรมนักข่าว/สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรรมราช และเทศบาลตำบลโพธิ์เสด็จ สร้างบ้านใหม่ให้นายทวีใหม่ โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด ขณะนี้ตนได้ให้วิศวกรและฝ่ายช่างโยธาของเทศบาลฯ ช่วยออกแบบและกำหนดจำนวนวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างแต่ละชนิด และจะเร่งดำเนินการก่อสร้างบ้านให้นายทวีให้แล้วเสร็จโดยเร็ว คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน คงจะเสร็จสมบูรณ์ เข้าอยู่อาศัยได้อย่างแน่นอน
ขณะที่ “น้องคลีน” กล่าวว่า สำหรับผู้เดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยในพื้นที่ ต.โพธิ์เสด็จ ทราบจากคุณพ่อว่ามีอยู่หลายเคส แต่เคสนี้ถือว่ารุนแรงและเร่งด่วนมากที่สุด จึงตัดสินใจช่วยเหลือในเคสนี้ก่อน ส่วนเคสอื่น ๆ จะทยอยช่วยเหลือไปเรื่อย ๆ ตามกำลังและความแหมาะสม ส่วนตนจะอยู่ในเมืองไทยอีกกว่า 2 เดือน เพื่อเคลียร์เรื่องส่วนตัวและธุรกิจ และจะถือโอกาสเก็บข้อมูลในการช่วยเหลือผู้ยากไร้ใน ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อร่วมกับเพื่อนคนไทยในสหรัฐอเมริกา ช่วยเหลือกันต่อไป
หลังได้รับข่าวดีที่เกินฝัน “ทวี” ถึงกับยกมือไหว้ท่วมหัว กลั้นน้ำตาจากความดีใจเอาไว้ไม่อยู่ พร้อมกับกล่าวว่า “ตนดีใจมากที่นายวิฑูรย์ และน้องคลีน ลูกสาว นำคณะเข้ามาช่วยเหลือสร้างบ้านใหม่หลังเล็ก ๆ ให้ตนได้อยู่อาศัยช่วงบั้นปลายของชีวิต ตนดีใจมากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้”
สำหรับผู้ใจบุญท่านใดที่ต้องการร่วมโครงการ เสพติดความดี-ธุรกิจบุญ เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือก่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้นายทวี สวัสดี และผู้ยากไร้เคสต่อ ๆ ไป สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ นายไพฑูรย์ อินทศิลา โทร. 08-1676-1299
คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : ไพฑูรย์ อินทศิลา จ.นครศรีธรรมราช
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..