โดดเด่นและน่าจับตามองจนแฟนๆต้องไดเร็คท์ข้อความมาให้ yimyim เพื่อให้ออกไปคว้าตัว 4 หนุ่มหล่อสุดฮอตอย่าง เบสท์ ชลสวัสดิ์ เตียววณิชกุล , นันทวัฒน์ ไพบูลย์ภัทรธน (เอิร์ธ) , วิน ศุภวิชญ์ ประธานชัยมงคล และ ดัง ธีระทัศน์ อิงคะประสิทธิ์ มาร่วมพูดคุยเปิดตัวตนและความเป็นตัวเองของพวกเขาให้แฟนๆรู้จัก ซึ่งบอกเลยหนุ่มๆอนาคตไกลมาก เพราะฝีมือและเสน่ห์เฉพาะตัวที่พร้อมยึดใจแฟนๆ ทำให้หลายคนต้องหันมาสนใจพวกเขาจริงๆ และถ้าแฟนๆไม่เชื่อต้องทำความรู้จักจ้าแล้วจะหลงรักพวกเขาแน่นอน
ทักทายแฟนๆสักหน่อย?
สวัสดีครับ พวกเรา Viu Talent
อยากให้ทุคนเนะนำตัวแบบไม่ธรรดาให้แฟนๆทราบสักหน่อย?
ดัง “แนะนำตัวแบบไม่ธรรมดาใช่ไหมครับ แค่ชื่อ ดัง ก็ไม่ธรรมดาละ(ยิ้ม)”
วิน “สวัสดีครับ ผมชื่อวินครับ แต่มันไม่ธรรมดาตรงที่เพื่อนผมแนะนำตัวต่อจากผมครับ”
เอิร์ธ “แค่นี้ก็ไม่ธรรมดาแล้วหรอ สวัสดีครับผมชื่อ เอิร์ธ นันทวัฒน์ ก็แค่นี้ก็ไม่ธรรมดาละ สุดท้ายต้องแบบเป็นที่น่าจดจำเลยนะ”
เบสท์ “สวัสดีครับ เบสท์ ชลสวัสดิ์ ก็เป็นศิลปินอยู่ที่ Viu Talent แล้วก็เป็นพี่ๆของน้องๆนะครับ แล้วก็เป็นที่รักของผู้ชมด้วยครับ”
ทุกคนมาร่วมโปรเจ็คท์นี้ได้ยังไง เล่าที่มาที่ไปหน่อย?
เหมือนโปรเจคนี้มันเป็นโปรเจคที่ทาง Viu เนี่ยนะครับ ก็จะมีการพัฒนาศิลปินแล้วก็ทำ management ก็เลยมีการเชิญชวนพวกเราทุกคนมาลองเทส มาลองแคสต่างๆว่าเรามีความสามารถอะไรบ้าง เขาก็จะเรียกคนที่สนใจมาพัฒนาต่อ ทั้งเรื่องการร้องเพลง การเต้น รวมถึงการแสดงด้วย ก็เลยเป็นการรวมตัวของพวกเราครับ
ตอนที่เราไปแคสติ้งเนี่ย ยากไหม?
เบสท์ “ถามว่ายากไหม คือความไม่รู้มากกว่า ว่าเราควรจะทำอะไรดี เพราะว่าเขาก็เปิดโอกาสให้กับทุกๆคน อยากจะมาแสดงความสามารถในด้านอะไรต่างๆ อย่างพวกเราเนี่ยน่าจะฟังร้องเพลงกันหมดเลย
ดัง “ได้ข่าวพี่เต้นเก่งไม่ใช่หรอครับ”
เบสท์ “ผมก็ไม่ค่อยเก่งหรอกครับ แค่พื้นฐานทั่วไป”
พอมาอยู่ในค่าย Viu Talent แล้วเราได้มีการฝึกนู่นนี่นั่น มีการฝึกอะไรบ้าง ?
เบสท์ “อย่างที่ว่ามาตอนแรกเลย คือทุกอย่างครับ ทั้งงานแสดง ร้อง เต้น ล่าสุดคือถ่ายเรื่องนี้มามีเรียนเยอะแยะมากๆ”
คิดว่าเสน่ห์ของตัวเองคืออะไร?
เบสท์ “ผมก็คิดว่า เสน่ห์หรือผมก็คิดว่าแต่ละคนก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน ซึ่งถ้าถามว่าตัวเองมีเสน่ห์ยังไงรู้สึกว่าผมเป็นคนที่สามารถคุยได้กับทุกคน ถึงแม้ว่าปกติจะไม่ค่อยได้คุย แต่ที่จริงผมเป็นคนที่สามารถปรับจูนเข้าหาทุกคนได้ สามารถเข้ากับคนอื่นง่ายแล้วผมก็เป็นคนที่จริงใจครับ”
เอิร์ธ “ถ้าส่วนตัวที่ผมชอบก็ ตา ครับ เพราะว่าสายตามันหลอกกันไม่ได้”
วิน “ทำตัวไม่ถูกเลย ตอนที่ผมหัวเราะหรือยิ้มนะครับ เพราะปกติผมเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยจะยิ้มเท่าไหร่”
เบสท์ “ก็ผมคิดว่าของวินเนี่ย ถ้าได้เห็นวินยิ้มวินขำเนี่ยจะเซอร์ไพร์สเพราะไม่ได้จะเห็นง่ายๆ แต่ถ้าสนิทกันแล้วจะเห็นประจำ แล้วคุณจะมองว่ามันเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์(ยิ้ม) จริงๆเสน่ห์ของน้องดัง คือรักยิ้มของน้องดังครับ เพราะนี้เป็นคนเดียวที่รักยิ้มแบบว่า ส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบคนมีรักยิ้มครับ รู้สึกมันน่ายัก มันน่าย้ากกก”
เริ่มรู้จักเราแล้ว เราพูดผลงานเรานิดนึงตอนนี้เรามีผลงานอะไรที่ได้ติดตามกันบ้าง?
เอิร์ธ “เร็วๆนี้ก็จะมีซีรีส์ครับก็กำลังจะออนแอร์แล้ว 13 มีนาคมเวลา 21.00น. ออนแอร์ทุกวันพุธนะครับ ดูได้ที่ Viu เท่านั้น ซีรีส์ชื่อว่า Close Friend โคตรแฟน 3 โซจูบอมบ์!ครับ”
ดัง “แล้วตอนนี้เราก็มีเพลงใช่ไหมชื่อเพลงว่า ใกล้ขนาดนี้ ซึ่งมี MV ที่ปล่อยไปแล้วด้วย”
พูดถึงผลงานเพลงบ้างดีกว่า เล่าถึงผลงานเพลงกับซิงเกิ้ลแรกของทุกๆคนเป็นยังไงกันบ้าง ?
วิน “ก็ตื่นเต้นครับ”
เบสท์ “แล้วก็ดีใจที่พอออกมาแล้วแล้วมันออกมาได้ดี เพราะเรารู้สึกว่าเราค่อนข้างซักซ้อมกับการเพลงนี้ระยะเวลาสักพักนึงเลยเพราะว่าพวกเราก็มีซ้อมร้องเพลง ซ้อมฟีลลิ่ง ต่างๆเพรราพวกเราก็อยากทำให้มันออกมาดี”
งั้นต้องบอกว่าพวกเราไปเรียนเรื่องของการร้องเพลงเพิ่มเติมมาใช่ไหม เป็นอย่างไรบ้าง ?
เบสท์ “จริงๆถ้าถามว่ามันยากไหม จริงๆก็ไม่ได้มีทั้งความง่ายหรือความยาก มันก็อยู่ที่ความตั้งใจ แล้วก็ผมมองว่าการที่เราไปเรียนเหมือนเราได้อัพสกิลด้วย แล้วเราก็มีความสุขได้กับการไปเรียนด้วย แล้วเราก็เหมือนกับร้องคาราโอเกะกัน ซึ่งส่วนของผมมันเป็นความยากของฟีลลิ่งมากกว่า เพราะเหมือนกับที่เราต้องร้องเพลงอะไรออกไปเราก็ต้องได้ฟีลลิ่งนั้น แต่ถ้าเหตุการณ์นั้นที่ช่วงนั้นเราไม่ได้มีฟีลลิ่งนั้นอยู่ พยายามบิ้วขึ้นมาเอง พยายามนึกย้อนถึงตอนเด็กๆอะไรอย่างนี้ แบบว่าร้องมาแล้วรู้สึกถึงคนคนนึงประมาณนั้นครับ”
ดัง “ผมคิดว่าการร้องก็มีส่วนนึง ผมก็มีปัญหาเรื่องหูเพี้ยนนิดนึง แล้วเหมือนพอครูช่วยปรับจูนให้ก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ก็มีปัญหาส่วนฟีลลิ่งอารมณ์ เพราะเพลงของเราเป็นเพลงแบบอารมณ์น่ารักสดใส”
เบสท์ “น่ารักสดใสยังไงให้น่ารักขนาดนี้ มันต้องมีความแมนด้วยไม่ได้แบ้วเกิน ตรงกลางอะไร เป็นช่วงที่เราต้องมาตีโจทย์กันช่วงสักซ้อมแล้วว่าเราอยากจะสื่อสารเพลงนี้ให้ออกมาแบบไหน”
เล่าบรรยากาศในการถ่ายทำเอ็มวีให้กับหน่อย เห็นว่าน่ารักมากๆ เป็นอย่างไรเอ่ย?
เบสท์ “จริงบรรยากาศเอ็มวีก็เป็นมู้ดที่ค่อนข้างจะสนุกนะ แล้วก็ได้มีการดูเบรคดาวและสตอรี่บอร์ดมาก่อนว่าแบบจะมีอะไรเกิดขึ้น ว่าแบบเราต้งเตรียมตัวอะไรไว้บ้างเล่นสไตล์ไหน
วิน “ผมให้2คำครับ วุ่นวายครับ ก็เหมือนจะมีฉากนึงที่จะสนุกสนานอะไรอย่างนี้ ผมก็เล่นปกติ สักพักก็มีหมอนตกมาใส่หัวเพราะผมก็วุ่นวายใช้ได้ฉากนั้น แล้วพอหลังซีนคัทปั๊บก็จะมีขนมบนโต๊ะ แล้วก็ถามทีมงานตลอดว่า อันนี้กินได้ไหมครับ ก็แอบหยิบมากินเรื่อยๆ”
ดัง “ผมรู้สึกแฮปปี้ เอนจอยในกองนะ สนุกสนานเฮฮากันมาก แต่พอสั่งคัทปุ๊บ ลงแล้วก็หลับแล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่ก็คือเหมือนตอนนั้นมีงานมาก่อนก็คืองานยุ่งพอเหมือนมากองก็สภาพ แล้วก่อนหน้าวันถ่ายMVผมไม่สบาย แล้วผมเป็นต่อมทอมซิน ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ แล้วหน้าก็บวมเป่งออกมาข้างนึง ต้องใช้เวลาเกือบ 2 สัปดาห์กองก็ต้องเลื่อนไป ต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่ตอนที่ผมยังถ่ายหน้าผมยังบวมอยู่เลยนะข้างนึง”
พอเราเข้ามาเป็น T-pop แล้ว มีไอดอลใครที่เรายึดเป็นแบบอย่างบ้างไหม ?
เบสท์ “ส่วนตัวคิดไม่ออก มีคนนึงมีแน่นอนครับ(ยิ้ม)”
วิน “ ผมชอบพี่ Jeff Satur ครับ คือผมรู้สึกว่าเขาร้องเพลงเก่งแล้วเสียงเขาดูแข็งแรง แล้วก็ดูประวัติเขามาแล้วแบบว่า เขาเคยล้มมาก่อนทำเพลงไม่ดัง แล้วก็มาดังแล้วก็รู้สึกว่าเขามีความพยายามดีแล้วเสียงเขาดี ผมอยากร่วมงานกับเขานะ แต่ขออัพสกิลก่อน”
เบสท์ “จริงๆผมก็คิดไม่ออก เพราะเหมือนทุกคนก็เป็น inspiration สำหรับผม ดูตัวเองเก่งขึ้นทุกแหละแต่ว่าถ้าแบบว่าส่วนตัวที่ชอบจริงๆเลย ที่ว่าเห็นเขาเป็นไอดอล เขาก็คือศิลปินต่างชาติคนนึงก็คือ ฟูจิอิ คาเซะ ผมรู้สึกสไตล์เพลงอะไรต่างๆของเขาเป็นแนวเพลงที่ผมชอบ”
เอิร์ธ “จริงๆ ถ้าพูดถึงศิลปินที่ผมชอบ ก็ชอบเพลงของ จริงผมก็ชอบหลายคนเลย แต่ที่ชอบคือวงของ Tattoo Colour พี่ดิมกับพี่รัฐฟังมาแต่เด็กครับ”
จริงๆความฝันของเราแต่ละคนคืออะไรกันแน่ ความฝันแรกของเราเลยช่วยเล่าให้ฟังหน่อย ?
เบสท์ “จริงๆความฝันแรกของผมก็คือการเป็นศิลปินแล้วก็นักแสดงนี่แหละครับ ผมแน่วแน่มาตั้งแต่เด็กครับ นั่นคือสิ่งที่ผมอินแล้วก็ชอบผมรู้สึกว่าถ้าผมทำอะไรที่ผมไม่ชอบทำได้ไม่เต็มที่ แต่ถ้าเราทำอะไรที่ตัวเองชอบ เราจะทำได้เกิน100% ก็คือเราทำได้เต็มที่เกินกว่าลิมิตของตัวเองไป ก็เลยคิดว่าอาชีพที่ตัวเองทำอยู่นี่ยก็คือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว”
เอิร์ธ “จริงๆผมก็อยากเป็นนักแสดงครับ ศิลปิน ก็เรียกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าสำหรับผมนี่แหละครับ ก็เป็นการเดินทางตามความฝันครับ”
วิน “จริงๆตอนเด็กๆผมก็ไม่ได้คิดมาทำงานเกี่ยวกับวงการบันเทิงเลย ก็ชอบเล่นกีฬาตั้งแต่เด็กๆ ก็มีโอกาสได้เห็นเรื่องแรกเลยที่ได้เห็นการทำงานว่าเขาทำงานกันยังไงก็ฮอร์โมนครับ ของพี่ย้ง ก็รู้สึกว่าแต่ละคนดูทุ่มเท และพอมีโอกาสได้มาทำก็เหมือนเป็น Challenge ใหม่ ก็กำลังสึกษาอยู่ครับว่าการทำงานในด้านวงการเป็นยังไง จริงๆก็ยังตบไม่ได้เหมือนกันนะว่าจะเหมาะกับเรารึป่าว แต่ผมก็รู้สึกแฮปปี้นะที่ได้ทำงานออกมา ได้ร้องเพลง ได้แสดง ก็รู้สึกแฮปปี้ครับ”
ดัง “ส่วนผมคล้ายๆวินเลย ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้มาทำในจุดๆนี้ เพราะว่าส่วนมากยุ่งกับงานสะส่วนใหญ่เพราะผมทำธุรกิจส่วนตัวด้วย แต่พอได้รับโอกาสมาผมรู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ดี ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถได้มา ก็คือโอกาสเนี่ยผมมองว่าถ้าผมรับมาแล้ว ผมได้ลองทำแล้ว ผมอยากทำให้มันเต็ม100% แล้วถ้าสมมติปุ๊บเขาให้โอกาสมาแล้วผมไม่เต็มที่กับมัน ผมรู้สึกว่ามันแย่กับตัวเขาแล้วก็แย่กับตัวเองด้วย วงการบันเทิงเนี่ยผมก็จะไปให้สุดทางเหมือนกันครับ”
เหมือนทุกคนก็ประสบความสำเร็จอีกขั้นนึงแล้ว แฟนๆรายล้อมแล้วมีอะไรอยากจะบอกเขาไหม ?
เบสท์ “ก็ขอบคุณครับที่เขาคอยสนับสนุนเรา ถึงแม้ว่าเราจะออกผลงานอะไรออกมา แล้วก็ยังสนับสนุนเราอยู่ เป็นกำลังใจให้เราในการทำงานต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็อยากจะมีโอกาสได้เจอกับพวกเขาบ่อยๆ เพราะว่าเราก็อยากจะตอบแทนกับสิ่งที่พวกเขาช่วยเหลือเรามาตลอด ก็ไว้มาเจอกันเยอะๆนะครับ”
เอิร์ธ “ ก็ดีใจครับที่มีคนชอบพวกเราเยอะขนาดนั้น ก็พยายามทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด”
วิน “เอาจริงๆถ้าพูดก็คืออยากขอบคุณแหละครับ อยากขอบคุณ วันนี้เราประสบความสำเร็จจริงๆ เป็นที่รู้จักเยอะๆ ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนก็อยากจะทำผลงานหรือแบบมีอะไรตอบแทนแฟนคลับต่อไป เพราะว่าเขาก็เสียเวลาเนาะมาดูเรา เขาต้องแบบนั่งรถมาเสียเวลาเดินทาง เสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็รู้สึกสนับสนุนมากๆครับที่สนับสนุนหรือซัพพอร์ต”
ดัง “ผมก็รู้สึกขอบคุณแฟนคลับทุกท่านที่คอยสนับสนุนพวกเรา ก็คือพวกเราพยายามที่จะทำผลงานที่จะออกมาเรื่อยๆ ให้มีคุณภาพ ที่แบบว่าสมกับการรอคอยครับ ฝากพวกเราไว้ด้วยนะครับ”
แหม.. อ้อนเก่ง น่ารักและมีเอ็นเนอจี้ขนาดนี้ ไม่หลงรักไม่ได้แล้ว ยังไงก็ฝากแฟนๆติดตามผลงานของหนุ่มๆด้วยนะคะ เชื่อว่าพวกเขาจะเป็นกำลังสำคัญ เป็นดาวดวงที่เปล่งประกาย ในวงการบันเทิงในอนาคตแน่นอน
————————–
คอลัมน์ “1 Day With ซุปตาร์”
โดย “yimyim”