ในฐานะผู้นำเข้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก อินเดียค่อย ๆ หันเข้าหาชาติตะวันตก ขณะที่สหรัฐพยายามกระชับความสัมพันธ์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ด้วยความหวังที่จะควบคุมอิทธิพลของจีน โดยดึงอินเดียออกจากการพึ่งพารัสเซียแบบดั้งเดิม
สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (เอสไอพีอาร์ไอ) ระบุว่า รัสเซียมีสัดส่วนการจัดหาอาวุธให้อินเดียอยู่ที่ 65% ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.1 ล้านล้านบาท) แต่สงครามในยูเครน เร่งให้เกิดการผลักดันการกระจายฐานอาวุธของประเทศ
ด้านผู้สันทัดกรณีและเจ้าหน้าที่รัฐกล่าวว่า แม้รัฐบาลมอสโกยื่นข้อเสนอ และเรียกร้องอย่างเปิดเผย ให้อินเดียยกระดับความสัมพันธ์ด้านกลาโหม แต่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย มุ่งความสนใจไปที่การผลิตภายในประเทศ ด้วยเทคโนโลยีของชาติตะวันตก
ขณะที่กระทรวงกลาโหมอินเดียคาดการณ์ การใช้จ่ายเกือบ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.5 ล้านล้านบาท) สำหรับคำสั่งซื้อด้านกลาโหมในทศวรรษหน้า
อย่างไรก็ตาม การยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับสหรัฐ จะทำให้จีนเกิดความกังวล ยิ่งไปกว่านั้น อินเดียต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับรัสเซีย ในฐานะผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุด และผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ปี 2565 เนื่องจากการระงับการค้าดังกล่าว จะผลักดันรัฐบาลมอสโกให้เข้าใกล้รัฐบาลปักกิ่งยิ่งขึ้น เพราะจีนเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักเพียงแห่งเดียวของรัสเซีย
“การซื้ออาวุธทำให้มีอิทธิพล และการปิดกั้นรัสเซีย ทำให้พวกเขาเข้าหาจีน” นายนันดาน อุนนิกฤษณัน นักวิเคราะห์ และผู้สันทัดกรณีด้านรัสเซีย จากสถาบันวิจัยผู้สังเกตการณ์ ซึ่งเป็นคลังสมองในกรุงนิวเดลี กล่าว “การค้ากับรัสเซียในด้านพลังงานและด้านอื่น ๆ จะช่วยให้อีกฝ่ายอยู่ห่างจากจีนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”
ด้านนางสวัสติ ราว ผู้สันทัดกรณีด้านยูเรเซีย จากสถาบันมาโนฮาร์ ปาร์ริการ์ เพื่อการศึกษาและการวิเคราะห์ด้านกลาโหม กล่าวว่า “เมื่อสงครามในยูเครนยืดเยื้อ มันจึงเกิดคำถามว่า รัสเซียจะสามารถจัดหายุทโธปกรณ์และอะไหล่ให้พวกเราได้หรือไม่”
นอกจากนี้ อินเดียกำลังจับตามองเครื่องบินไอพ่นของฝรั่งเศส สำหรับเรือบรรทุกเครื่องบินล่าสุด ตลอดจนต้องการสร้างเรือดำน้ำด้วยเทคโนโลยีของฝรั่งเศส, เยอรมนี หรือสเปน และสร้างเครื่องบินรบที่ใช้เครื่องยนต์ของอเมริกาและฝรั่งเศสด้วย
“แนวร่วมพหุภาคีของอินเดียจะคงอยู่ต่อไป เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซีย และสร้างสมดุลกับชาติตะวันตก แต่มันจะไม่ใช่การกระจายที่เท่าเทียมกัน” ราว กล่าวทิ้งท้าย.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
