ในช่วงวันวาเลนไทน์แบบนี้ คนไม่มีคู่ก็อาจจะเหงาหงอยไปบ้าง หรือคนมีคู่ก็อาจจะมีกิจกรรมร่วม แต่แน่นอนว่ายังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลายๆ คนอาจจะยังเขินอายอยู่ อย่าง “การช่วยตัวเอง (Masturbate)” เป็นกิจกรรมหนึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นของมนุษย์ ซึ่งเป็นไปตามกลไกการเจริญเติบโตของมนุษย์ สามารถทำได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง

ซึ่งในปัจจุบันสังคมถูกเปิดกว้างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสื่อต่างๆ หรือแม้กระทั่งการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับเพศศึกษา ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่จะได้รับข้อมูลเพื่อมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของเรานั่นเอง แตกต่างจากสมัยก่อน ที่เรื่องเพศนั้นถูกมากว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ที่ไม่สามารถพูดสู่สังคมภายนอกได้ มิเช่นนั้นอาจถูกมองว่า มีการหมกมุ่น หรือพูดเรื่องที่น่าเกลียดหรือหยาบคายในสังคม

วันนี้ “พี่หมอกุ๊กไก่” จะมาพูดคุยถึงประโยชน์ของการช่วยตัวเองกัน โดยการช่วยตัวเองถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้น ซึ่งประโยชน์ในการช่วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการปลดปล่อยความต้องการทางเพศ ช่วยลดเครียด ทำให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนั้นทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนั้น ยังช่วยเพิ่มสมรรถภาทางเพศ และในผู้ชาย การช่วยตัวเองช่วยทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกด้วย เป็นต้น

นอกจากประโยชน์ของการช่วยตัวเองที่มีการกล่าวไป หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยเรื่องความถี่บ่อยครั้งแค่ไหนถึงจะดี โดยทั่วไปความถี่ของการช่วยตัวเอง ในทางการแพทย์ไม่ได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจนถึงจำนวนครั้งต่อสัปดาห์ หรือต่อเดือน แต่มีการสำรวจถึงความถี่ของการช่วยตัวเองในเพศชาย โดยมีรายงานว่า 1 ใน 4 ของเพศชายมีอายุระหว่าง 18 ถึง 59 ปี มีความถี่ในการช่วยตัวเองน้อยครั้งต่อเดือน ต่อสัปดาห์ นอกจากนั้นมีประมาณ 20% ที่ช่วยตัวเอง 2 ถึง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และน้อยกว่า 20% ที่มีการช่วยตัวเองมากกว่า 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่ง อาจกล่าวได้ว่าการช่วยตัวของเพศชายที่มากกว่า 4 ครั้งต่อสัปดาห์ มีความถี่ในปริมาณที่สูง

ในส่วนของผู้หญิงไม่ได้มีรายงานถึงปริมาณความถี่ของการช่วยตัวเอง แต่มีการพูดถึงที่แตกต่างออกไปจากผู้ชายนั้นคือ ผู้หญิงสามารถช่วยตัวเองโดยมีความถี่เท่าไหร่ก็ได้โดยที่ไม่ต้องกังวลถึงความถี่ที่มากจนเกินไป แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ความถี่อาจจะขึ้นอยู่แต่ละบุคคล เนื่องจากว่าในละบุคคลมีปัจจัยต่างๆ ที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็น ฮอร์โมน อารมณ์ ความเครียด การออกกำลัง อาหารที่รับประทาน สภาวะแวดล้อม การตอบสนองของแต่ละบุคคลจึงแตกต่างกัน ทำให้การช่วยตัวเองบ่อยก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้เสียหายแต่อย่างไร

แต่มีข้อที่ควรคำนึงคือ หากมีการช่วยตัวเองมากจนเกินไป อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันในเรื่องของพละกำลังที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นขัดขวางหน้าที่การงาน ชีวิตทางสังคม เนื่องจากหลังจากที่มีการช่วยตัวเองเสร็จแล้ว ร่างกายจะมีการอ่อนเพลีย ซึ่งหากช่วยตัวเองจำนวนบ่อยครั้งในแต่ละวัน จะส่งผลต่อเรื่องพละกำลังในการดำเนินชีวิต และจากสาเหตุนี้เอง สามารถส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันให้อ่อนแอลงได้เช่นเดียว

อีกประการหนึ่งที่ควรระวังนั่นคือ การบาดเจ็บของน้องชายหรือน้องสาว แน่นอนที่สุดการช่วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้ชายและผู้หญิง มักมีจะเกิดการเสียดสีเกิดขึ้นส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บและเป็นแผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีความถี่จำนวนมากยิ่งมีความเสี่ยงของการบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น และหากดูแล รักษาไม่ดี อาจสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อเกิดขึ้นได้อีกด้วย

ดังนั้น ความถี่ของการช่วยตัวเองนั้น ไม่ได้มีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงการได้รับประโยชน์มากที่สุด แต่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลเป็นหลัก โดยข้อแนะนำที่ดีที่สุดนั้นคือควรทำให้พอดีกับร่างกายของตนเอง ในทางกลับกัน การช่วยตัวเองมากจนเกินไปอาจยิ่งส่งผลมากกว่า เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน โดยทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียจนกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มให้อ่อนแอลงหากร่างกายมีการอ่อนเพลียมากจนเกินไป..

……………………………………………………………………
คอลัมน์ : Ladies Bible
โดย หมอกุ๊กไก่-แพทย์หญิง ณัฐชญา ไมตรีเวช