เราชาวจีนต่างตระหนักถึงสิ่งที่เรียกว่าสันติภาพ เราจะทำงานกับประชาชนนานาชาติอย่างใกล้ชิดเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของมนุษยชาติ สร้างประชาคมมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกัน และสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้นเพื่อทุกคน ณ เวลานี้ที่บ้านเรือนหลายล้านหลังสว่างไสวในยามค่ำคืน ขออวยพรให้ประเทศของเราเจริญรุ่งเรือง ขออวยพรให้โลกพานพบสันติและความสงบสุข ขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดสี่ฤดูกาล ประสบความสำเร็จ และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงตลอดปีใหม่นี้” บางช่วงบางตอน สุนทรพจน์วันปีใหม่ 2567 ของ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำสาธารณรัฐประชาชนจีน เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง ได้อวยพรให้ไว้ช่วงเดือน ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา

โดยรายละเอียดเนื้อคำอวยพรปีใหม่ของ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สาระสำคัญเกี่ยวกับความเชื่อมั่น คุณภาพชีวิตของประชาชน และวิสัยทัศน์ระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้นำจีนกล่าวถึงความมุ่งมั่น และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในประเทศ ต่อการพัฒนาบ้านเมืองให้มีความเป็นสมัยใหม่ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน และความร่วมมือกับประชาคมโลก ในการทำให้โลกเป็นสถานที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้นในปี 2567

ประธานาธิบดีจีน กล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศอยู่บนเส้นทางมั่นคงของการฟื้นตัว กลไกอุตสาหกรรมใหม่ที่มีการนำมาประยุกต์ใช้ มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนา และช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตรของจีนมีสถิติการเก็บเกี่ยวสูงสุดเป็นปีที่ 20 ติดต่อกัน แม้ต้องเผชิญกับแรงเสียดทานและความผันผวนจากทั้งภายในและภายนอก แต่พัฒนาการซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน ให้เกิดขึ้นกับเป้าหมายการพัฒนาของจีน

ในด้านการพัฒนาภูมิภาค ผู้นำจีนเน้นยํ้าความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในการฟื้นฟูภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน การพัฒนาเมืองใหม่ “สงอัน” คืบหน้าไปอย่างรวดเร็วตามแผนการ เช่นเดียวกับพัฒนาการของเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่นํ้าแยงซี และเขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ซึ่งเต็มไปด้วยโอกาสของการพัฒนา

นอกจากนี้ ผู้นำจีนกล่าวถึงความสำคัญของการคิดค้น การค้นพบ และการพัฒนาทางเทคโนโลยีของประเทศ เช่น เครื่องบินโดยสาร ซี919 ที่สามารถให้บริการเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มรูปแบบ เรือสำราญขนาดใหญ่ที่จีนออกแบบและประกอบเองทุกขั้นตอน ให้บริการเที่ยวปฐมฤกษ์ ภารกิจเสินโจวสำหรับสถานีอวกาศเทียนกง ยังคงเดินหน้าต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง และเรือดำนํ้าเฟิ่นโต้วเจ่อ ที่สามารถลงไปสำรวจร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา (ทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก) ซึ่งเป็นจุดทะเลลึกที่สุดของโลก

ขณะเดียวกัน เน้นยํ้าความสำคัญและยกย่องเชิดชูประวัติศาสตร์จีน ซึ่งมีมายาวนานหลายพันปี ว่าเป็นรากฐานความแข็งแกร่งของพลเมืองจีนทุกหมู่เหล่าในปัจจุบัน ซึ่งมีความสามัคคี ความเป็นนํ้าหนึ่งใจเดียว และจิตวิญญาณของการต่อสู้ เพื่อร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ นำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีร่วมกัน พร้อมทั้งเน้นยํ้านโยบายของรัฐบาล ในการให้ความสำคัญกับเด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ มากเป็นพิเศษ

ในส่วนของบทบาทและความร่วมมือของจีนบนเวทีโลก นอกจากการพัฒนาภายในประเทศ จีนแสดงบทบาทด้วยความรับผิดชอบ ในฐานะเป็นหนึ่งในประเทศขนาดใหญ่ของโลก ผู้นำจีนกล่าวถึงการประชุมสุดยอด ร่วมกับผู้นำกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียกลาง และการประชุมตาม กรอบความร่วมมือหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ซึ่งมีผู้นำนานาประเทศเข้าร่วม นอกจากนั้น ผู้นำจีนเดินทางเยือนหลายประเทศ เพื่อเข้าร่วมการประชุมนานาชาติ และการพบหารือกับมิตรประเทศ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรดั้งเดิมและการแสวงหามิตรภาพใหม่

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวทิ้งท้ายด้วยการยืนยันว่า จีนเป็นประเทศที่รักสันติ และไม่เคยมีความคิดสร้างความขัดแย้งกับฝ่ายใด จีนจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มกำลังกับประชาคมโลก ในการสร้างสันติสุข และทำให้โลกใบนี้เป็นสถานที่ดีขึ้นในทุกด้านสำหรับมนุษยชาติ ที่จะอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบ.

ภัทราพร ไพบูลย์ศิลป : เรื่อง
XINHUA : ภาพ

รัฐบาลยกระดับสัมพันธ์ไทย-จีน ดีเดย์ 1 มี.ค. 67 ‘วีซ่าฟรีถาวร’

ก้าวย่างสำคัญในปีมังกร 2567 นับเป็นการตอกย้ำ ประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของชาวจีน ก่อนหน้านี้ วันที่ 29 ม.ค. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้พบปะกับ นายหวัง อี้ กรรมการกรมการเมืองคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและ รมว.ต่างประเทศจีน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกฯเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า ได้มีการประชุมชั่วโมงกว่าพูดคุยกันในหลายมิติ โดยมีการเซ็นสัญญาระหว่าง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ เกี่ยวกับเรื่อง วีซ่าฟรีของทั้งสองประเทศ เพื่อเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างสองประเทศ เริ่มต้นวันที่ 1 มี.ค.2567

นับเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ที่ทั้งสองประเทศมีให้กันและมิตรภาพที่มีต่อกันมา ซึ่งปีหน้าจะครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน จะเรียนเชิญ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน มาเยือนประเทศไทยด้วย เพื่อรักษาการแลกเปลี่ยนระดับสูง และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในด้านต่าง ๆ ผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น”.

คำอวยพรเทศกาลตรุษจีน ‘หาน จื้อเฉียง’ เอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย

เทศกาลตรุษจีนกำลังจะมาถึง ในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ ผมขอส่งคำอวยพรและความปรารถนาอย่างจริงใจมายังเพื่อน ๆ ทุกสาขาอาชีพในประเทศไทย

ในปีที่ผ่านมา การทูตของจีนมีบทบาทสำคัญ และนำกระแสโลกในด้านการส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใหญ่ได้พัฒนาเชิงบวก และการทูตแบบประเทศใหญ่ที่มีลักษณะเฉพาะของจีนได้รับการพัฒนาอย่างรอบด้าน การประชุมสุดยอดความร่วมมือระหว่างประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ครั้งที่ 3 ได้ประสบความสำเร็จ

ขณะที่ ความร่วมมือฉันมิตรระหว่างจีนไทยได้พัฒนาอย่างรอบด้าน การร่วมกันสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีน-ไทยได้กลายเป็นฉันทามติของประชาชน จากการเยือนไทยครั้งประวัติศาสตร์ของ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อปี พ.. 2565, กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯเยือนจีนครั้งที่ 50 ในปีที่ผ่านมา และ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทยได้เดินทางไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หลังเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง และทำงานร่วมกับผู้นำของจีนเพื่อร่างพิมพ์เขียวใหม่สำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปยังประเทศจีนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเพียงแค่การส่งออกทุเรียนสดก็มีมูลค่าสูงถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การลงทุนของบริษัทจีนในประเทศไทยได้พัฒนาอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งทำคุณูปการต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการจ้างงานของไทย

การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและวัฒนธรรมได้ฟื้นตัวอย่างรอบด้านหลังผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างทั้งสองประเทศมีจำนวนเกือบ 4 ล้านคน ในช่วงต้นปีใหม่ พ.ศ. 2567 ทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงยกเว้นวีซ่าซึ่งกันและกัน จีนและไทยกำลังจะเข้าสู่ “ยุคฟรีวีซ่า” จีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันด้วยการเชื่อมโยงทางภูมิประเทศ เป็นญาติสนิทที่ผูกพันกันด้วยสายเลือด และเป็นหุ้นส่วนที่ดีด้วยการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน เราเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในอนาคตอันสดใสของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

เทศกาลตรุษจีน ถือเป็นประเพณีดั้งเดิมอันเก่าแก่ที่สุด มีชีวิตชีวาที่สุด และมีความหมายมากที่สุดในวัฒนธรรมจีน และยังเป็นเทศกาลที่ชาวจีนและชาวไทยได้เฉลิมฉลองร่วมกัน การฉลองเทศกาลตรุษจีนร่วมกันถือเป็นการเน้นย้ำความชัดเจนของคำว่า “จีนไทยมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” กระต่ายหยกร้องรำอำลาปีเก่า มังกรทองผงาดสู่ฟ้าฉลองปีใหม่

ปีมังกรเป็นสัญลักษณ์แห่งความเข้มแข็งและความเจริญรุ่งเรือง ผมขออวยพรให้ชาวจีนและชาวไทยจงโชคดี มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงในปีมังกร ขออวยพรให้โลกมีสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง ขอให้จีน-ไทยเจริญรุ่งเรือง มิตรภาพจีน-ไทยยั่งยืนสถาพร.