การตรวจวินิจฉัยพื้นฐาน จำเป็นต้องมีการตรวจร่างกายโดยละเอียดและควรรวมถึงการอ่านค่าความดันโลหิตและการคลำช่องท้องเพื่อประเมินการขยายตัวของตับ ม้าม หรือไต การตรวจอวัยวะเพศเป็นภาคบังคับและควรประเมินก้อนของลูกอัณฑะ ระบุสารคัดหลั่งจากท่อปัสสาวะ และความผิดปกติของต่อมลูกหมาก

การตรวจสอบวินิจฉัยง่าย ๆ อื่น ๆ อาจรวมถึงการส่องกล้องจุลทรรศน์ตรวจปัสสาวะ การเพาะเลี้ยงเชื้อของน้ำอสุจิ ระดับค่าพีเอสเอ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตรวจอัลตราซาวด์ทางทวารหนักและการตรวจชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากควรจะทำในกรณีที่ระดับ
พีเอสเอสูง หรือการค้นพบที่น่าสงสัยของต่อมลูกหมากหรือถุงน้ำเชื้อในระหว่างการตรวจทางทวารหนัก การทดสอบเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับประวัติและอาจรวมถึงการศึกษาการแข็งตัวของเลือดในกรณีที่มีรอยช้ำหรือมีเลือดออก

หลังจากดำเนินการศึกษาข้างต้นอย่างถูกต้องแล้ว มีผู้ป่วยเพียงไม่กี่รายที่ยังคงต้องได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อแยกแยะสาเหตุอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม การส่องกล้องท่อปัสสาวะยังมีประโยชน์ในการตรวจมะเร็งท่อปัสสาวะหรือกระเพาะปัสสาวะในผู้ป่วยที่เป็นเลือดออกด้วย นอกจากนี้ กรณีที่ซับซ้อน เช่น หลอดเลือดโป่งพองของท่อปัสสาวะ มักต้องมีการประเมินอย่างรอบคอบและอาจเกิดการแข็งตัวของเลือด นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่มีภาวะน้ำอสุจิเป็นเลือดแบบถาวรอาจได้รับประโยชน์จากการส่องกล้องตรวจถุงน้ำเชื้อทางท่อปัสสาวะ (transurethral seminal vesiculoscopy)

ในกรณีส่วนใหญ่ พบว่าภาวะน้ำอสุจิเป็นเลือดหายแล้วเมื่อพบผู้ป่วยไปตรวจในคลินิกระบบทางเดินปัสสาวะ หากผู้ป่วยไม่มีปัจจัยเสี่ยง ควรได้กลับจากโรงพยาบาลพร้อมคำอธิบายที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับสาเหตุของอาการ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงหรืออาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

การตรวจวินิจฉัยด้วยภาพทางรังสีวิทยา พบว่าการตรวจอัลตราซาวด์ทางทวารหนัก มีประโยชน์ในการวินิจฉัยโรคของต่อมลูกหมาก เช่นเดียวกับนิ่ว ซีสต์ ต่อมลูกหมากอักเสบ และการเปลี่ยนแปลงของการอักเสบ นอกจากนี้ยังใช้รักษาในบางกรณีที่มีซีสต์หรือฝีไหลออกมาและพบว่าเป็นสาเหตุของภาวะน้ำอสุจิเป็นเลือด ควรดำเนินการตรวจอัลตราซาวด์เร่งด่วนในกรณีพบก้อนของลูกอัณฑะ เนื่องจากอาจเป็นสาเหตุของเลือดของการหลั่งน้ำอสุจิเป็นเลือดได้

นอกจากนี้ยังอาจจะกล่าวถึงว่าบทบาทของการศึกษาด้วย การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สามารถให้ภาพความคมชัดสูง ควรได้รับการพิจารณาว่าเป็น “รูปแบบการประเมินที่เลือก” ในผู้ป่วยที่มีภาวะการหลั่งน้ำอสุจิเป็นเลือดถาวร นอกจากนี้การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ยังได้รับรายงานว่ามีความไวในการตรวจหาเลือดออกในถุงน้ำเชื้อในผู้ป่วยที่เป็นภาวะการหลั่งน้ำอสุจิ ในกรณีของภาวะการหลั่งน้ำอสุจิเป็นเลือดกลับเป็นซ้ำ การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อาจมีประโยชน์ในการหาสาเหตุ การตรวจสอบเพิ่มเติมใด ๆ ขึ้นอยู่กับผลการประเมินทางคลินิก

—————————————
ศ.น.ท.ดร.นพ.สมพล เพิ่มพงศ์โกศล