ฟัง .ธนพร ศรียากูล นักวิชาการลือชื่อ วิเคราะห์การเมืองกับ หมาแก่ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ แล้ว บอกเลย น่าตื่นตาตื่นใจดีแท้ ดร.ธนพร ชี้เปรี้ยงว่า ถึงเวลานี้ไม่มีใครกล้าหักหลัง โทนี่ วู้ดซัม อีกแล้ว เพราะโทนี่ เป็นคน “มีเส้น” ไปซะแล้ว ขณะพรรคเพื่อไทยก็มีอำนาจรัฐ ได้เป็นนายกฯ ใครอยากล้ม ก็ล้มไม่ได้ จึงทำอะไรก็ได้ และแยกทางกับพรรคก้าวไกลเด็ดขาดไปแล้ว “วันนี้โทนี่ต้องประนีประนอมกับอำนาจอนุรักษ์เพื่อปูทางให้น้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้กลับบ้าน ต้องเดินทางนี้ทางเดียว ไม่มีทางเลือกอื่น” อ.ธนพร สรุปเส้นทางเดินทักษิณ ชินวัตร

ส่วนที่ศาล รธน. จะชี้ชะตาคดีพรรคก้าวไกลหาเสียงแก้ม.112 เป็นการล้มล้างการปกครองนำไปสู่การยุบพรรคหรือไม่ วันพุธที่ 31 ม.ค. 67 นั้น อ.ธนพร ฟันธง ตอนแรกมองว่า โดนยุบแน่ แต่ตอนนี้เชื่อว่า ไม่ใช่แล้ว แม้เดิมชนชั้นนำจะ “เซตซีโร” การเมือง
ก็ยึดอำนาจเลย เช่น ปี 49 และ 57 แต่มันลงทุนสูงเกิน จนไม่คุ้มเสีย แผนจึงเปลี่ยนเป็นเก็บก้าวไกลไว้เป็นฝ่ายค้านให้มีที่มีทางในสภา เหมือนการกำจัดศัตรูพืชด้วยชีวภาพ

ให้ระบบการเมืองจัดสมดุลกันเอง แต่มีรั้วกั้นก้าวไกลไว้ ภาพลักษณ์ก็ดี โลกมองไทยเป็นประชาธิปไตย สมประโยชน์ทุกฝ่าย อีก 4 ปีข้างหน้า อุ๊งอิ๊งจะเป็นนายกฯ แน่นอน ก้าวไกลจึงไม่ได้รอแค่ 4 ปี แต่ต้องรอ 8 ปี และจะเป็น รบ.ได้ต้องได้เกิน 250 ที่นั่งเท่านัั้น เพราะเค้า set ไว้แล้ว” 4 ปีจากนี้ก็จะมีแต่ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน เมื่อพรรค ปชป. พร้อมจะร่วมรัฐบาล พรรคไทยสร้างไทยก็แตกแล้ว เหลือแค่พรรคเป็นธรรมร่วมเป็นฝ่ายค้านด้วยกันเท่านั้น

เห็นด้วยเลย มองได้ปรุโปร่ง วิเคราะห์ได้ถึงแก่น ซึ่งจะว่าไปการเมืองที่ไหน ๆ ก็เหมือนกัน ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร ผลประโยชน์ลงตัว ประชาชนก็เป็นแค่เบี้ย ก็ไม่รู้เพราะเหตุผลข้างต้นหรือไม่ บรรดาองค์กรอิสระตาม รธน. ไม่ว่า สภาพัฒน์, แบงก์ชาติ, กฤษฎีกา, ... และล่าสุดผู้ตรวจการแผ่นดินสภา จึง ร่วมด้วยช่วยยำ พรรคเพื่อไทยผ่านโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ขณะ 98 สว. ลากตั้ง จู่ ๆ ยื่น “ญัตติซักฟอก” รบ.เศรษฐา ทวีสิน อ้าง 7 ข้อทำเสียหาย แต่ดูแล้วมีข้อเดียว หมั่นไส้ชั้น 14 เป็นเทวดา ไม่ติดคุกแม้วันเดียว ประเด็นอื่น ข้ออ้างล้วน เช่น ไม่แก้โครงสร้างพลังงาน, กู้เงินมาแจก ฯลฯ แต่ 10 ปี “ตู่” ไม่ทำไรเลย สว.ลากตั้งไม่เดือดร้อนนะ เศรษฐาอยู่มาแค่ 4 เดือนจะเป็นจะตาย

ทั้งหมดนี้ ส่งผลน่าคิด หนึ่ง ทำไมองค์กรอิสระทั้งหมด แปรสภาพเป็น “รัฐอิสระ” ไม่ขึ้นกับ รบ.เศรษฐา ตอนอยู่กับ รบ. 3 ป. องค์กรอิสระพวกนี้ไม่เคยหืออือ พรรคพลังประชารัฐตอนชู “ตู่” เป็นนายกฯ หาเสียงแล้ว ไม่ทำตามสัญญาซักนโยบาย สุภา ปิยะจิตติ เสาหลัก ป.ป.ช. เคยชี้ไม่ตรงปก จี้ กกต.ตรวจสอบมั้ย

มองเป็นอื่นยาก องค์กรอิสระ องค์กรที่มีเจ้าของ สิ่ง “ตกค้าง” จากระบอบเก่า ลุกขึ้นสั่งสอน “เพื่อไทย” เพื่อปรามให้รู้ อย่าเหลิง อย่าบังอาจล้ำเส้น อย่าคิดว่าฝ่ายอนุรักษ์ไร้น้ำยา ต้องเอาเพื่อไทยไว้กำจัดก้าวไกลเพราะไม่มีทางเลือก ก็แค่เปิดการแสดงเล็กน้อย นโยบายเรือธง แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ยังแทบล้มไม่เป็นท่าเลย

น่าคิด สอง คือ ทักษิณ ชินวัตร กำลังจะได้พักโทษปลายเดือนกุมภาฯนี้ เป็นไปได้หรือไม่ ทั้งหมดนี้คือส่งสัญญาณเตือนไว้ อย่าซ่ามาก อย่าคิดจะเป็นพยัคฆ์เสียบปีก แย่งชิงประชาชนเหมือนตอนโชว์ “อาจสามารถโมเดล”

ทั้งที่จริง ๆ แล้ว อย่าว่าแต่ เพื่อไทย ซึ่งอ่อนแสงลงมากเลย แม้ตอนฟูเฟื่องสุดขีดเป็นไทยรักไทยและพลังประชาชน ทักษิณ ก็ไม่เคยคิดเป็นปฏิปักษ์กับอำนาจ “อนุรักษ์” แม้แต่น้อย แต่ยังโดนยุบทั้ง 2 พรรค เพื่อไทยหรือจะเดินซ้ำรอยเดิม หรือการตระบัดสัตย์สลับขั้ว ยังไม่พอเป็นที่ไว้ใจเต็มร้อย จึงต้องเปิดการแสดงให้สำเหนียกเป็นระยะ ๆ

สุดท้าย กลับมาที่คดี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้น “ไอทีวี”ที่จอดำมา 17 ปี ผิดหรือไม่ คำวินิจฉัย ศาล รธน. ออกมาตั้งแต่เมื่อวาน พุธ 24 ม.ค. แล้ว อ.สุขุม นวลสกุล ฟันธงไว้ รอดแน่ เพราะมีเรื่องอื่นให้เล่นอีกแยะ ที่จริงรอดไม่รอดก็ไม่มีอะไร ถ้ารอดพิธาก็กลับเข้าสภาเป็นอีกกำลังเสริมพรรคก้าวไกล ด้วยบุคลิกที่โดดเด่น มีเสน่ห์มัดใจคน แต่ไม่มีผลเปลี่ยนการเมืองใน 4 ปีนี้

นี่คือ โจทย์หินพรรคก้าวไกลที่ต้องเผชิญ

——————–
ดาวประกายพรึก