อภิปรายงบประมาณปี 2567 ที่เพิ่งจบไป  พรรคก้าวไกลรักษาคุณภาพคับแก้วเช่นเดิม ติเพื่อก่อ ทำการบ้านมาดี ไม่ตีโวหารไปเรื่อยเปื่อย เกิดดาวสภาหน้าใหม่หลายคน เช่น ชยพล สท้อนดี สส.กทม. ที่อภิปรายการพัฒนากองทัพ ทำให้รู้ว่า สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็น สุทิน ดาวน์น้อย เพราะตั้งงบซื้ออาวุธแบบดาวน์น้อยผ่อนนาน

ที่น่าตะลึงคือ ข้อมูล “ทีโออาร์” การจ้างเอกชนกู้เรือรบหลวงสุโขทัยที่ยังจมอยู่ก้นทะเล ปรากฏว่า ใครที่มารับงานถูกกำหนดให้ต้องซ่อมปรับปรุงให้ซากเรือมีสภาพใกล้เคียงกับของเดิม ไทยแลนด์โอนลี่ มิน่าไม่มีเอกชนไหนสนใจ สส.ชยพลถึงพูดกลางสภา ไม่รู้กองทัพเรือซ่อนอะไรไว้ ทั้งที่ทหารเรือเสียชีวิตเกือบ 30 คน  นั่นสินะ

ยังมี พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.ปากน้ำ ที่อภิปรายวิกฤติศรัทธาตำรวจได้ถึงแก่น กลายเป็น “ไวรัล” ฟังทั้งบ้านทั้งเมือง จนอดีตตำรวจ พล.ต.อ.เอก อังศนานนท์ ยังยกนิ้วให้ สส.เชียงใหม่ ภัทรพงค์ ลีลาภัทร์ ที่ล้มบ้านใหญ่เพื่อไทย พูดถึงทฤษฎีตึก 5 ชั้น แก้ฝุ่นพิษ PM 2.5 ได้น่าสนสุด ๆ พอ ๆ กับ เอกราช อุดมอำนวย, ภคมน หนุนอนันต์ สส.ฝีปากกล้า

อาจเป็นรูปภาพของ 4 คน และ ห้องข่าว

แต่พอมาถึง กรรมาธิการวิสามัญศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน ที่ชื่อยาวเหยียด สั้น ๆ คือ คณะกรรมการโครงการแลนด์บริดจ์ บอกตรง ๆ ผิดหวังเลย รองหัวหน้าพรรค ศิริกัญญา ตันสกุล นำทีม สส.ก้าวไกลอันมี จุลพงศ์ อยู่เกษ  ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ และ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์  ที่เพิ่งสร้างผลงานสุดเจ๋งเปิดโปง 14 จุดพังสถานีหมอชิต 2  ทำ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นั่งไม่ติด ลุกขึ้นจี้ให้แก้ไขด่วน จนชาวบ้านยกมือสาธุ หรือล่าสุด เปิดประเด็น “โซนนิ่ง” ที่ดินแบบเอื้อเจ้าสัวเป็นหลัก ที่ดินชาวบ้านให้เป็นพื้นที่รับน้ำ 3 ทศวรรษ ได้ใจคน กทม. เต็ม ๆ แต่มาสร้าง “ดราม่า” เหมือนคนร้อนวิชา

ไม่ได้ดั่งใจก็ลาออกทุกที

เพราะพูดก็พูดเหอะ ผลศึกษาของสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กับของสภาพัฒน์ที่คณะกรรมาธิการแลนด์บริดจ์ของสภา มี นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.เพื่อไทย เป็นประธาน เอามาหารือนั้น ยังไงก็เป็นแค่ผลศึกษา แม้จะชี้ว่าคุ้มค่าการลงทุน ผลตอบแทนสูงกว่า 17%  เรือจะมาใช้มาก สร้างงาน สร้างเงิน เป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ อะไรต่าง ๆ นานา ก็ใช่ว่าผู้ที่จะมาลงทุนต้องเชื่อทั้งหมด เค้าย่อมมีผู้เชี่ยวชาญมาศึกษาเองว่าคุ้มค่าแค่ไหน เงินลงทุนมันไม่ใช่แสนล้าน เป็นล้านล้าน แถมในพื้นที่ ระนอง หรือชุมพร ที่ตั้งแลนด์บริดจ์ ใช่ว่าทุกคนจะเห็นด้วย มีไม่น้อยคัดค้านว่า ทำลายสิ่งแวดล้อม ข้อมูลพวกนี้แหกตากันไม่ได้หรอกยุค AI ครองโลกอย่างนี้

เหตุผลที่ไหม ศิริกัญญา บอกต้องลาออกประท้วง เช่น ขอข้อมูลจาก สนข.ไม่ได้ ผลศึกษาของ สนข. กับสภาพัฒน์ต่างกัน  รายงานไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่น่าเชื่อถือ ประมาณการรายได้ไม่ชัดเจน ท่าเรือไม่ได้ออกแบบสำหรับสินค้าเทกอง หรือ…จึงไม่อยากเป็น “ตรายาง” รับรองความถูกต้องให้ผลการศึกษานี้

4 สส.ก้าวไกล ลาออก กมธ.แลนด์บริดจ์ ชี้ รายงานการศึกษาโครงการ

มองยังไงน้ำหนักก็ไม่ถึง โครงการจะล้มหรือเจ๊งยังไง รัฐบาลนั่นแหละต้องรับผิดชอบ เมื่อเป็นฝ่ายค้านก็ออกมาฟ้องประชาชนให้รู้ หรือให้ที่ประชุมบันทึกไว้ ก้าวไกลคัดค้านเป็นหลักฐานก็เพียงพอแล้ว หรือเอาไปอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ยังได้ ไม่งั้นสภามีกรรมาธิการตั้ง 35 ชุด ผลศึกษาชุดไหนไม่เห็นด้วย ก็ต้องยกพวกออกอีก มันใช่หรือ

เรื่องนี้ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ควรเอาเป็นกรณีศึกษานะ ทำแล้วได้ใจประชาชนหรือเสียมวลชนแน่กลายเป็นถ่วงความเจริญชาติ ระวังจะเดินซ้ำรอยพรรคเก่าแก่  เก่งค้านทุกโครงการ ให้ทำจริงกลับไม่ได้เรื่อง

ใด ๆ พรรคเพื่อไทย สมัย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร “อภิมหาโปรเจกต์ 2 ล้านล้าน” เคยทำได้ดีมาก ๆ ข้อมูลเป็นเล่ม ๆ จัดอีเวนต์เดินสายโรดโชว์สื่อสารให้ประชาชนเข้าใจทั้งประเทศ ใน กทม.จัดที่ศูนย์ราชการ มีคนเป็นแสนเข้าชมตื่นตาตื่นใจ ถือปากกา ดินสอ ถ่ายรูป ทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงจำลอง กลายเป็น “กระแส” ทั้งเมือง โครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อไทย ก็ควรทำเช่นนั้นบ้าง หรือคิดว่า สลับขั้วเปลี่ยนข้างแล้ว ทุกอย่างมันจะง่ายดายไปหมด

ยังไงก็ปลายทางคงไม่เหมือนโครงการ 2 ล้านล้าน คิดอย่างนั้นใช่หรือเปล่า?!?

————
ดาวประกายพรึก