“มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง สร้างประชาธิปไตย” นี่คือ คำขวัญวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2567

13 ม.ค. 67 ตรงกันวันเด็กแห่งชาติ เหล่าหนูๆ น้องๆ ต่างจดใจด้วยความตื่นเต้น

ทั่วประเทศจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย ส่งมอบของขวัญให้เด็กๆ

ในวันเด็กนี้ “เสือสมุทร” มีเรื่องราวดีๆ ของเด็กหญิงชั้น ป.4 เป็นเด็กดีซื่อสัตย์เก็บสร้อยข้อมือทองคำมูลค่ากว่า 7 หมื่นกว่าบาทคืนเจ้าของ

ชาวบ้านต่างแห่ชื่นชมเด็กเด็กดีที่มีความซื่อสัตย์เก็บสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท ได้ แล้วนำส่งคืนเจ้าของ

สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ ผู้ปกครอง พ่อ แม่ คณะครู เพื่อนนักเรียน และโรงเรียนเป็นอย่างมาก ต่างพากันยกย่องเชิดชูเยาวชนที่มีจิตใจดี มีคุณธรรม กันอย่างล้นหลาม

“เสือสมุทร” อยากเจอเด็กหญิงผู้ซื่อสัตย์ จึงออกเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 53 หมู่ 2 บ้านทะลุโนนม่วง ต.สำโรงตาเจ็น อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ พบกับ นางสมคิด พงษ์สุระ อายุ 56 ปี เจ้าของบ้าน กำลังเลี้ยงหลานอยู่ที่บ้าน พร้อมกับ ด.ญ.พรสุดา พงษ์สุระ หรือน้องใบเตย อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านสำโรงตาเจ็น เด็กดีที่เก็บทองคำได้

“น้องใบเตย” เล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 ม.ค. ในหมู่บ้านได้มีการจัดงานพิธีศพ หนูบังเอิญเก็บสร้อยข้อมือได้ แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นอะไร ไม่รู้ว่าเป็นทองคำ แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร ปกติหนูเก็บของได้ก็จะนำไปให้ครู หรือ ผอ.โรงเรียน ช่วยประกาศตามหาเจ้าของอยู่บ่อยครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน ได้นำส่งคืนเจ้าของเป็นที่เรียบร้อย

นางสมคิด ย่าของน้องใบเตย บอกว่า น้องใบเตย เป็นคนนิสัยดี เรียนพอใช้ได้ ได้คะแนนเกรด 3 เวลาอยู่ที่บ้านและโรงเรียน จะชอบช่วยงานบ้านผู้ปกครอง ทั้งเลี้ยงน้อง ล้างถ้วย ล้างจาน กวาดบ้าน ส่วนเวลาอยู่ที่โรงเรียนจะเป็นคนชอบช่วยคน ช่วยคุณครู เวลาเก็บสิ่งของได้ ก็จะเก็บไปคืนเจ้าของอยู่เสมอ ถือว่าเป็นคนซื่อสัตย์ ตนในฐานะผู้ปกครอง ก็รู้สึกปลื้มใจในความดี ความซื่อสัตย์ของหลานมาก อีกทั้งชาวบ้านที่ทราบข่าว ก็ต่างพากันแห่ชื่นชมกันทั้งหมู่บ้านและโรงเรียนก็ภาคภูมิใจในตัวน้องใบเตย

ว่าแต่เจ้าของทองคำเป็นใครเอ่ย และรู้สึกอย่างไรที่ “น้องใบเตย” เก็บทองได้มาส่งคืน

นายคูณ โพธิ์งาม อายุ 78 ปี เจ้าของสร้อยข้อมือทองคำที่ทำหล่น เล่าถึงความรู้สึกว่า วันเกิดเหตุ ตนได้ใส่สร้อยคอทองคำ 1 เส้น แหวนทองคำ 4 วง และสร้อยข้อมือทองคำที่หล่นหาย 1 เส้น หนัก 2 บาท ไปช่วยงานศพที่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดกัน

หลังเสร็จงานศพเครื่องเสียงภายในงานได้ประกาศตามหาผู้ที่ทำสร้อยข้อมือหล่นหาย ให้ติดต่อรับคืนได้ที่งาน ตนจึงเปิดแขนเสื้อขึ้นสำรวจดูสร้อยข้อมือของตนเอง ปรากกฎว่าหายไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในวันนั้นตนสวมเสื้อแขนยาวไปงาน คิดว่าแขนเสื้อน่าจะไปเกาะเอาตะขอสร้อยข้อมือจนตกหล่นร่วงลงกับพื้น ทำให้หล่นหายไม่รู้ตัว สักพักไม่นานก็มีคนประกาศว่าสร้อยข้อมือทองคำของใครตกให้มาแสดงตัวรับได้

ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าเป็นสร้อยข้อมือของใคร ไม่คิดว่าเป็นของตนเอง แต่พอมาสำรวจตัวเองดู ถึงรู้ว่าสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 2 บาท ของตนหล่นหาย จึงรีบไปแสดงตัวเป็นเจ้าของพร้อมขอรับสร้อยคืน แต่ในวันนั้นตนมีเงินติดกระเป๋าอยู่เพียง 300 บาท จึงได้มอบเงินจำนวน 200 บาท เป็นสินน้ำใจให้ผู้ที่เก็บได้ คือ น้องใบเตย ในเบื้องต้น และเมื่อวานนี้ก็ได้เดินทางไปมอบเงินเพื่อสมทบทุนการศึกษาในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ เพิ่มเติมอีก จำนวน 1,300 บาท และยังจะมอบให้เรื่อยๆ ตามโอกาสต่างๆ ต่อไป เพื่อส่งเสริมเด็กดี ที่มีความซื่อสัตย์ สมควรได้รับการยกยกชื่นชมเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคมต่อไป

อย่างไรก็ตาม คุณตาคูณ โพธิ์งาม ยังบอกอีกว่า ตนเริ่มแก่และอายุมากแล้ว ก็อาจจะมีความหลงๆ ลืมๆ บ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยใส่ทองลักษณะนี้ไปทำบุญใส่บาตรที่วัด และในขณะหยิบของใส่บาตรอยู่นั้น ก็เคยทำแหวนทองคำหล่นใส่ลงไปในบาตร โดยไม่รู้ตัว มาแล้วครั้งหนึ่ง จนต้องประกาศตามหากันวุ่น กระทั่งพระที่บิณฑบาตได้เทข้าวออกจากบาตร จึงพบว่าแหวนตกอยู่ในนั้น แล้วก็ได้รับกลับคืนเช่นกัน ถือว่ายังมีความโชคดีอยู่บ้าง อาจเพราะตนเป็นคนชอบสวดมนต์ไหว้พระและทำบุญบ่อยครั้งก็เป็นได้

ในความโชคดีของคุณตาคูณ ที่ได้สร้อยทองคืน เป็นอีกเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ของผู้เก็บที่เป็นเด็กหญิงวัยเพียง 10 ขวบ เรียนชั้น ป.4

“น้องใบเตย” นับเป็นต้นแบบของเยาวชนผู้มีจิตใจดี ซื่อสัตย์ที่ควรยกย่องอย่างยิ่ง.
…………………………………………………
คอลัมน์ “เรื่องราวดีๆ ของสังคม”
โดย “เสือสมุทร”
ขอบคุณข้อมูล “พิสิษฐ์ สิริวิริยะธนา” ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ จ.ศรีสะเกษ
อ่านเรื่องราวดีๆ ของสังคม ได้ที่นี่..