ผู้หญิงเมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกมักไม่มีความสุข และยังอาจเจ็บปวดจึงทำให้เกิดความกลัวได้ ระยะหลังแต่งงานใหม่ ๆ ในช่วงอายุ
20 ปี การร่วมเพศจะบ่อยที่สุด คินเซ่ย์ รายงานว่า โดยเฉลี่ยหญิงชายจะร่วมเพศกันประมาณ 2-6 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งการร่วมเพศมักจะเริ่มต้นโดยฝ่ายชาย ผู้ชายในวัยนี้จะมีความต้องการทางเพศมาก ตื่นตัวเร็วและหลั่งไว จึงทำให้บางครั้งฝ่ายหญิงไม่ถึงจุดสุดยอดทางเพศ

จากการศึกษาของมาสเตอร์และจอห์นสันในผู้หญิงชาวอเมริกัน พบว่า ผู้หญิงจะมีการตอบสนองทางเพศเร็วและรุนแรงที่สุดระหว่างปลายอายุ 30 ปี ถึงต้นอายุ 40 ปี โดยเฉพาะผู้หญิงที่เคยมีลูกแล้วน้ำหล่อลื่นจากช่องคลอดจะเกิดขึ้นทันทีที่ถูกกระตุ้นทางเพศและอาจมีความสุขสุดยอดติดต่อกันได้หลาย ๆ ครั้งในการร่วมเพศครั้งหนึ่ง ๆ การศึกษาของคินเซ่ย์ก็พบว่าหญิงในวัยนี้มีอัตราการนอกใจสามีมากกว่าทุกวัย ยิ่งในสามีที่มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศแล้วไม่มีการฟื้นฟูที่ถูกต้อง ชายกลุ่มนี้จึงมีความเสี่ยงสูงที่ภรรยาอาจนอกใจได้ตลอดเวลา สอดคล้องกับประสบการณ์ของแคปแพลน ที่พบว่าหญิงในวัยนี้สนใจกิจกรรมทางเพศเพิ่มขึ้นและถึงจุด
สุดยอดทางเพศได้ง่ายเมื่อเทียบกับวัยอื่น

เหตุผลก็คือการเปลี่ยนแปลงทางเพศของผู้หญิงไม่ขึ้นอยู่กับชีววิทยาของร่างกาย แต่ขึ้นอยู่กับความมั่นใจในชีวิตสมรสและประสบ
การณ์ทางเพศ ซึ่งผู้หญิงในวัยนี้จะมีความเป็นตัวของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องเพศมากขึ้น ในขณะที่อายุระหว่าง 45-55 ปี ซึ่งเป็นวัยหมดประจำเดือน ทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว การลดลงของฮอร์โมนเพศดังกล่าวจะทำให้ช่องคลอดเหี่ยว ขาดความยืดหยุ่นและน้ำหล่อลื่นช่องคลอดน้อยลงทำให้การร่วมเพศเจ็บปวดและไม่มีความสุข อารมณ์เพศและการตอบสนองทางเพศขึ้นกับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนแต่การทำงานของฮอร์โมนนี้จะถูกขัดขวางโดยฮอร์โมนเพศหญิง
เอสโตรเจน

สำหรับผู้หญิงฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนส่วนใหญ่สร้างจากต่อมหมวกไต เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงมากจะทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนทำงานได้ดีขึ้น จึงอาจทำให้หญิงวัยหมดประจำเดือนบางรายมีความต้องการทางเพศดีขึ้น ชายอีดีจึงไม่ควรประมาทเรื่องการแข็งตัวหากพบว่าการแข็งตัวลดลงควรรีบฟื้นฟูกับแพทย์เพื่อให้สามารถตอบสนองทางเพศแก่ฝ่ายหญิงได้ ก่อนที่จะถูกฝ่ายหญิงที่แข็งแรงทางเพศดีกว่าหรือสาวกว่าทอดทิ้งได้

———————
ดร.อุ๋มอิ๋ม