แม้จะมีมรสุมในชีวิตจนต้องเข้าเรือนจำและห่างจากลูกชาย น้องเรซซิ่ง ไปบ้าง แต่เมื่อได้กลับมาเริ่มต้นใหม่หนุ่มหล่อหน้าตี๋ เบนซ์ อัครกิตติ์ อดีตสามีของดาราดัง แพท ณปภา ก็ไม่พลาดใช้ประสบการณ์เป็นบทเรียน ใช้เวลาดูแลและอยู่กับคนที่รักให้เต็มที่ โดยเป้าหมายหลังจากนี้คือการทำเพื่อคนอื่นและสังคม โดยเขาได้เปิดใจกับ yimyim ถึงโหมดของการเป็น “ลูก” และการเป็น “พ่อ” ของตัวเองให้รู้ด้วย ไม่อยากให้พลาดเลยไปดูกันจ้า

ทักทายแฟนๆ เดลินิวส์ออนไลน์สักหน่อย?
สวัสดีพี่ๆ แฟนๆ เดลินิวส์ทุกท่านนะครับ และขอสวัสดีปีใหม่ย้อนหลัง ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆ ตลอดปีนี้เลยนะครับ

เบนซ์ เรซซิ่ง ณ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
ในตอนนี้ก็ถือว่าปรับตัวได้ดีขึ้นเยอะมาก มีแผนไอเดียจะทำธุรกิจหลายอย่าง แต่หลักๆ คงจะเป็นงานที่เกี่ยวกับรถ เพราะว่าชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่อยากทำคืออยากจะจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคม ซึ่งอยากจะเชิญชวนทุกๆ ท่านมาร่วมกันทำบุญบริจาคเพื่อมอบความสุขให้กับคนอื่นที่ด้อยโอกาส เวลาว่างก็จะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้เวลากับเขาเต็มที่ มันเป็นความสุขที่หาได้ง่ายๆ ใกล้ๆ ตัวเรา ความตั้งใจอีกอย่างหนึ่งก็เป็นการศึกษากฎหมายต่อ เพราะมีความตั้งใจอยากจะช่วยเหลือคนที่ไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย แล้วต้องมีคดีความ ซึ่งเราประสบมาเองกับตัว เลยเข้าใจว่าคนที่มีปัญหานั้นมีความทุกข์ขนาดไหน ถ้าหากใครต้องการปรึกษา ก็ทักมาหาได้เลยนะครับ ยินดีมากๆ ครับ

ชินหรือยังกับความแปลกใหม่ที่เกิดขึ้น ได้ไปทำในสิ่งที่ชอบและอยากทำ?
ในช่วงแรกๆ นี้ ก็ยังแอบวุ่นอยู่ เพราะว่ายังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องจัดการ ทั้งในเรื่องส่วนตัว และในเรื่องเอกสารของคดีความ แต่ถ้าหากพอมีเวลา ก็อยากจะไปขี่รถออกทริปตามต่างจังหวัด ส่วนการแข่งขันนั้น ตอนนี้ก็เน้นไปในทางขี่ออกกำลังกายเป็นกิจกรรมมากกว่า คงไม่ได้เน้นขี่แข่งขันเอาจริงเอาจังแบบตอนสมัยวัยรุ่นแล้ว

ในฐานะลูก ตอนเด็กๆ วันเด็กทำอะไร ช่วยเล่าบรรยากาศวันเด็กในอดีตให้ฟังหน่อย?
ตอนเด็กๆ ก็จะมีไปร่วมกิจกรรมกับโรงเรียนบ้าง หรือไปตามสถานที่ยอดฮิต เช่น ไปดูการแสดงโชว์เครื่องบินที่กองทัพ หรือไม่ก็ไปทำเนียบรัฐบาล ได้ไปเยี่ยมชมห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี ไม่แน่ใจว่าเด็กสมัยนี้ยังชอบไปสถานที่แบบนั้นอยู่ไหม เพราะว่าเด็กสมัยนี้โตเร็วมาก มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่เหมือนในยุคสมัยที่เรายังเป็นเด็ก

ส่วนใหญ่ตอนเด็กฝันอยากเป็นอะไร เพราะอะไร?
สำหรับผมนั้นชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์มาตั้งแต่อนุบาลเลย แต่ที่บ้านก็ห้ามขี่มาโดยตลอด จนสุดท้ายเมื่อได้มาขี่นั้น เราก็ลงสนามเลยเพราะว่าเราใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแข่งรถจักรยานยนต์อยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่เคยสร้างเรื่องหรือปัญหาใดๆ ที่ทำให้ที่บ้านต้องหนักใจ เพราะการแข่งขันในสนามนั้นค่อนข้างเซฟตี้ ปลอดภัยกว่า มีชุดและอุปกรณ์ที่มาตรฐาน ซึ่งเชื่อว่าอาจจะมีน้องๆ อีกหลายคน ที่ชื่นชอบอยากจะเป็นนักแข่งรถจักรยานยนต์ หากมองว่าเป็นกีฬา ผมว่าเป็นอีกกีฬาหนึ่งที่ฝึกให้มีสมาธิและความอดทน รวมทั้งสร้างเสริมทักษะเพื่อนำไปปรับใช้ในการขับขี่รถบนท้องถนนในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย แต่ไม่แนะนำให้ไปซิ่งแข่งรถกันบนท้องถนนนะครับ เพราะว่ามันสร้างปัญหาให้กับสังคมและผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ การเคารพกฎกติกาจราจรเป็นสิ่งที่เราสามารถกระทำได้ง่ายที่สุดและใกล้ตัวที่สุด

โตมายังอยากเป็นสิ่งนั้นไหม เพราะอะไร?
เอาจริงๆ พอโตมาเราก็ได้ทำตามความฝันนั้นแล้ว ชัยชนะที่ภูมิใจที่สุดในชีวิตคือการได้ไปแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์ในประเทศมาเลเซีย และได้รับชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้ไปโบกธงชาติไทยบนโพเดียม ซึ่งเป็นคนไทยคนเดียว ณ ขณะนั้น ที่ได้ชัยชนะในรายการแข่งขันนี้ ซึ่งทำให้เราเป็นที่รู้จักในวงการมากขึ้น


พอได้มาเป็นพ่อ รู้สึกอย่างไรบ้าง?
เพิ่งจะเข้าใจในวันที่เรามีลูก ที่พ่อแม่เคยห้ามเรามาโดยตลอดที่ไม่ให้ขี่มอเตอร์ไซค์ เพิ่งจะเข้าใจในวันนี้ว่าความรักความห่วงใยนั้นมันมีมากมายมหาศาล ในวันนี้ผมก็คิดไม่ต่างจากคุณพ่อคุณแม่ผมในอดีตที่ไม่อยากให้ลูกขี่มอเตอร์ไซค์ เพราะว่ามันเป็นอะไรที่อันตรายมากๆ เนื้อหุ้มเหล็ก พร้อมที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อหากเราประมาท ต่อให้เรามีทักษะดีแค่ไหน มันก็ยังมีตัวแปรความเสี่ยงเข้ามาหาเราได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นเราต้องมีสติรู้เท่าทันความคิดตัวเองอยู่เสมอและไม่ประมาท

ความรู้สึกแรกตอนเห็นหน้าลูกตอนเขาเกิด และปัจจุบันเป็นแบบไหน?
มันเป็นภาพที่สุดแสนจะประทับใจมากที่สุดในชีวิต ผมได้มีโอกาสเข้าไปในห้องคลอดด้วย ซึ่งมันนับว่าเป็นวินาทีที่เราดีใจที่สุด น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นเราก็เฝ้าคอยเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมที่สุด เราไม่เคยคิดเลยว่าเราจะสามารถรักคนคนหนึ่งได้มากมายขนาดนี้ ตั้งแต่เรายังไม่เคยเห็นหน้าด้วยซ้ำ ซึ่งในวันนี้น้องเรซซิ่งอายุกำลัง 7 ขวบ ซึ่งโตเร็วมาก แล้วก็มีความละม้ายคล้ายกับผมในหลายๆ อย่าง จนหลายๆ คนทักว่าเป็นฝาแฝดกันหรือเปล่า ผมก็มองว่ามันน่ารักดีนะครับ ไม่ว่าเขาจะชื่นชอบสิ่งไหน ทำอะไร ผมก็จะส่งเสริมเขา และให้เขาตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด

วางอนาคตลูกไว้อย่างไร?
ในตอนนี้ส่วนมากคุณแพทจะเป็นคนจัดการดูแลทั้งหมด ทั้งในเรื่องการเรียนและกิจกรรม เมื่อมีเวลาว่างเราก็จะมาจอยกัน หากเขาอยากไปเที่ยวไหน ทำอะไร ผมก็จะออฟเฟอร์ทุกอย่าง ช่วยกันสร้างความสุขและพลังบวกให้กับน้องเรซซิ่ง ซึ่งอีกไม่นานนี้ เขาก็คงจะโตเป็นวัยรุ่น เราควรจะวางรากฐานให้ดีตั้งแต่ตอนนี้

แพลนวันเด็กปีนี้ 67 มองอย่างไร จะทำอะไรกับเรซซิ่งไหม?
ส่วนตัวผมเองนั้น ได้จัดงานกิจกรรมรวมกลุ่มรถจักรยานยนต์การกุศล ซึ่งจะนำน้องๆ ที่ด้อยโอกาสหรือเป็นเด็กกำพร้าจากศูนย์สร้างโอกาสเด็กพระราม 8 (ครูเชาว์) ได้มีโอกาสมาเดินชมรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์สวยๆ งามๆ รวมถึงการจัดงานประมูลสินค้าจากผู้ร่วมงาน ซึ่งรายได้ทั้งหมดจะนำไปบริจาคให้แก่มูลนิธิฯ ครับ

สิ่งที่คาดหวังให้ลูกได้มากที่สุดในชีวิตของความเป็นพ่อคืออะไร?
ก็คงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก อยากให้เป็นคนดีของสังคม ตั้งใจร่ำเรียนหนังสือ เพื่อที่จะได้มีอนาคตที่สดใส รวมทั้งมีอาชีพการงานที่มั่นคง

ในฐานะพ่อคนหนึ่ง ห่วงอะไรลูกที่สุด?
ห่วงในทุกๆ สิ่ง ซึ่งเราก็จะคอยเฝ้าคอยดูอย่างห่างๆ ทั้งในเรื่องกิจกรรม และสังคมกลุ่มเพื่อนฝูง ถ้าเขาอยู่ในสังคมแบบไหน เขาก็จะซึมซับสิ่งนั้นนั้น เพราะฉะนั้นเราควรให้เขาอยู่ในสังคมและบรรยากาศที่ดี เพื่อที่เขาจะได้ซึมซับสิ่งดีๆ เหล่านั้นติดตัวไปด้วย

เป็นตัวแทนพ่อทั่วประเทศ อวยพรวันเด็กหน่อย?
ขออวยพรให้น้องๆ ทุกคน เป็นเด็กดีที่น่ารักของพ่อแม่ ตั้งใจเรียนหนังสือ กตัญญูกตเวที ไม่ข้องเกี่ยวกับอบายมุข โดยเฉพาะการพนันและยาเสพติด ผมว่าเท่านี้พ่อแม่ทุกคนก็ดีใจแล้วครับ

จัดเต็มเรื่องราวในแง่มุมของความเป็นลูกและพ่อของหนุ่มหล่อ “เบนซ์ เรซซิ่ง” จริงๆ และเชื่อว่าหนุ่มเบนซ์น่าจะทำให้หลายคนเห็นความสำคัญของการใช้เวลาว่างกับครอบครัวได้ดีมากๆ ยังไงใครยังไม่มีแพลนไปเที่ยวไหนกับครอบครัว ก็สามารถใช้ไอเดียหนุ่มเบนซ์ไปกระชับความสัมพันธ์กันได้เลยจ้า แล้วพบกันสัปดาห์หน้าค้า


คอลัมน์ “1 Day With ซุปตาร์”

โดย yimyim