“ลืมอดีต เริ่มต้นอะไรใหม่ๆ และให้อภัยตัวเอง…ที่ผ่านมาถึงจะเจ็บ แต่ต้องก้าวผ่านมันไป เริ่มต้นใหม่ต้องเจอสิ่งที่ดีกว่า”

ยังคงถูกจับตามองเป็นพิเศษ ในคดีที่ ด.ช. วัย 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงห้างพารากอน ที่มีผู้เสียชีวิตหลายราย ซึ่งล่าสุดทางคณะพนักงานสอบสวน ไม่สามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการได้ทัน จึงต้องงดการสอบสวนไว้ก่อน ทำให้ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง มีคำสั่งให้มีการควบคุมตัวถึงเพียงเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธ.ค. 66

ทำให้สถานพินิจกรุงเทพมหานคร ไม่มีอำนาจควบคุมตัวเด็กได้ กระทั่งมีการปล่อยตัวเด็กชายจากการดูแลของแพทย์สถาบันกัลยาณ์ให้กับผู้ปกครอง ก่อนที่ผู้ปกครองจะให้สถาบันกัลยาณ์ดูแลเด็กต่อ

กระแสวิพากษ์วิจารณ์ตอนนี้คือ การที่เด็กอายุเกิน 12 ปี แต่อายุยังไม่ถึง 15 ปีบริบูรณ์ การถูกตัดสินโทษจึงเป็นไปตามที่กฎหมายของไทยกำหนด แม้ว่าการกระทำผิดนั้นจะรุนแรงก็ตาม ดังนั้นจึงอยากจะเปิดข้อกฎหมายให้ดูกันชัดๆ อีกครั้งว่า บทลงโทษช่วงอายุแต่ละช่วง มันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 29) พ.ศ. 2565 ที่มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 2565 บัญญัติให้แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา 2 มาตรา ได้แก่ มาตรา 73 วรรคหนึ่ง และมาตรา 74 ดังนี้

มาตรา 73 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี กระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด เด็กนั้นไม่ต้องรับโทษ” (มาตรา 73 วรรคหนึ่ง ใหม่ เป็นการแก้ไขเกณฑ์อายุเด็ก จากเดิมบัญญัติให้เด็กอายุไม่เกิน 10 ปี กระทำผิดไม่ต้องรับโทษ เป็นอายุไม่เกิน 12 ปี)

มาตรา 74 บัญญัติว่า เด็กอายุกว่า 12 ปีแต่ยังไม่เกิน 15 ปี กระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด เด็กนั้นไม่ต้องรับโทษ แต่ให้ศาลมีอำนาจที่จะดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(1.) ว่ากล่าวตักเตือนเด็กนั้นแล้วปล่อยตัวไป และถ้าศาลเห็นสมควรจะเรียกบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลที่เด็กนั้นอาศัยอยู่มาตักเตือนด้วยก็ได้

(2.) ถ้าศาลเห็นว่าบิดา มารดา หรือผู้ปกครองสามารถดูแลเด็กนั้นได้ ศาลจะมีคำสั่งให้มอบตัวเด็กนั้นให้แก่บิดา มารดา หรือผู้ปกครองไป โดยวางข้อกำหนดให้บิดา มารดา หรือผู้ปกครองระวังเด็กนั้น ไม่ให้ก่อเหตุร้ายตลอดเวลาที่ศาลกำหนด ซึ่งต้องไม่เกิน 3 ปี และกำหนดจำนวนเงินตามที่เห็นสมควร ซึ่งบิดา มารดา หรือผู้ปกครองจะต้องชำระต่อศาลไม่เกินครั้งละ 10,000 บาท ในเมื่อเด็กนั้นก่อเหตุร้ายขึ้น แต่ถ้าเด็กนั้นอาศัยอยู่กับบุคคลอื่นนอกจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง

และศาลเห็นว่าไม่สมควรจะเรียกบิดา มารดา หรือผู้ปกครองมาวางข้อกำหนดดังกล่าวข้างต้น ศาลจะเรียกตัวบุคคลที่เด็กนั้นอาศัยอยู่ มาสอบถามว่าจะยอมรับข้อกำหนดทำนองที่บัญญัติไว้สำหรับบิดา มารดา หรือผู้ปกครองดังกล่าวมาข้างต้นหรือไม่ก็ได้ ถ้าบุคคลที่เด็กนั้น อาศัยอยู่ยอมรับข้อกำหนดเช่นว่านั้น ก็ให้ศาลมีคำสั่งมอบตัวเด็กให้แก่บุคคลนั้นไปโดยวางข้อกำหนดดังกล่าว

(3) ส่งตัวเด็กนั้นไปยังสถานศึกษา หรือสถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะนำทางจิต หรือสถานที่ซึ่งจัดตั้งขึ้น เพื่อฝึกและอบรมเด็ก ตลอดระยะเวลาที่ศาลกำหนด แต่ไม่ให้เกินกว่าวันที่เด็กนั้นจะมีอายุครบ 18 ปี

ในกรณีที่ศาลมอบตัวเด็กให้แก่บิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลที่เด็กนั้นอาศัยอยู่ตาม (2) ศาลจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติเด็กนั้น เช่นเดียวกับที่บัญญัติไว้ในมาตรา 56 ด้วยก็ได้ ในกรณีเช่นว่านี้ ให้ศาลแต่งตั้งพนักงานคุมประพฤติหรือพนักงานอื่นใดเพื่อคุมความประพฤติเด็กนั้น

ในกรณีที่เด็กนั้นไม่มีบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง หรือมีแต่ศาลเห็นว่าไม่สามารถดูแลเด็กนั้นได้ หรือในกรณีที่เด็กอาศัยอยู่กับบุคคลอื่น นอกจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง และบุคคลนั้นไม่ยอมรับข้อกำหนดดังกล่าวใน (2) ศาลจะมีคำสั่งให้มอบตัวเด็กนั้น ให้อยู่กับบุคคลหรือองค์การที่ศาลเห็นสมควร เพื่อดูแล อบรม และสั่งสอนตามระยะเวลาที่ศาลกำหนดก็ได้ ในเมื่อบุคคลหรือองค์การนั้นยินยอม

คำสั่งของศาลดังกล่าวใน (2) (3) วรรคสอง และวรรคสามนั้น ถ้าในขณะใดภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนดไว้ ความปรากฏแก่ศาลโดยศาลรู้เอง หรือตามคำเสนอของผู้มีส่วนได้เสีย พนักงานอัยการ หรือบุคคลหรือองค์การที่ศาลมอบตัวเด็กเพื่อดูแล อบรม และสั่งสอน หรือเจ้าพนักงานว่าพฤติการณ์เกี่ยวกับคำสั่งนั้นได้เปลี่ยนแปลงไป ก็ให้ศาลมีอำนาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำสั่งนั้น หรือมีคำสั่งใหม่ตามอำนาจในมาตรานี้

สำหรับที่หลายฝ่ายมองว่ากฎหมายที่ใช้กับเด็กที่ก่อเหตุความรุนแรงมีอัตราโทษเบา และเกรงว่าผู้เสียหายจะไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น ทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาบอกแล้วว่า ตำรวจได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการหยิบยกแบบอย่างของต่างประเทศมาศึกษาเพื่อปรับลดอายุของผู้กระทำผิดให้ต่ำลง จากอายุ 15 ปี เหลือ 12 ปี เรื่องนี้จะมีการหารืออย่างจริงจัง เพราะปัจจุบันการก่อเหตุอาชญากรรมในเด็กมีความรุนแรงมากขึ้น มีการเลียนแบบโซเชียลมากขึ้น และผู้ก่อเหตุก็มีอายุที่น้อยลงเรื่อยๆ

คงต้องติดตามกันต่อไปว่าคดีนี้จะจบลงแบบใด หรือจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เชื่อว่าจะอยู่ในความสนใจของประชาชนอย่างใกล้ชิด เพราะเหตุการณ์ระทึกขวัญนี้ มันเกิดขึ้นในห้างหรูกลางเมือง สร้างความแตกตื่น ขวัญผวา และยังกระทบถึงภาพลักษณ์ของประเทศ ที่สำคัญมันมีความสูญเสียที่ไม่อาจเอากลับคืนมาได้ด้วย..แล้วคุณล่ะ เห็นด้วยหรือไม่ที่จะมีการปรับลดอายุนี้!!!

ข่าวสารตำรวจ

เยี่ยมจุดตรวจ
พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ อรัณยกานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม เดินทางมาตรวจเยี่ยม จุดตรวจจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ของ สภ.หนองฮี โดยมี พ.ต.ท.ศรายุทธ ศรีมัญจาบุรี สวญ.สภ.หนองฮี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด รอรับการตรวจเยี่ยม ณ จุดตรวจหน้า สภ.หนองฮี ต.หนองฮี อ.ปลาปาก จ.นครพนม พร้อมแนะนำกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เน้นการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ กวดขันวินัยจราจรใน 10 ข้อหาหลัก และให้บริการประชาชนด้วยความสุภาพ ก่อนมอบสิ่งของเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานในจุดตรวจ

คุมเข้มอุบัติเหตุช่วงปีใหม่
พ.ต.อ.จรุงศักดิ์ จำรูญ ผกก.4 บก.ทล.ขอนแก่น พ.ต.ท.ศิวกริช ศิษย์บุญรัตน์ รอง ผกก.4 บก.ทล. ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของสารวัตรทั้ง 5 สถานีอีสานตอนบน ให้ดำเนินการดูแลพี่น้องประชาชนเดินทางกลับอย่างปลอดภัย เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการดื่มไม่ขับ ถูกจับแน่นอน เทศกาลปีใหม่ปีนี้พบว่ามีประชาชนเดินทางกลับมาบ้านที่ภาคอีสานเพื่อมาฉลองกับครอบครัวและญาติจำนวนมาก โดยเฉพาะถนนสายหลัก ได้แก่ ถนนมิตรภาพ มีสภาพการจราจรหนาแน่นตลอดทั้งวันทั้งคืน จุดหลักที่หน่วยบริกาตำรวจทางหลวงบ้านไผ่ สนธิกำลังจากหน่วยต่างๆ เช่น ตำรวจทางหลวง สภ.บ้านไผ่ แขวงการทาง อาสากู้ภ้ยทางหลวง และรถกู้ชีพจากโรงพยาบาลบ้านไผ่ พร้อมอยู่ตลอดเวลา พี่น้องประชาชนในภาคอีสานเห็นการปฏิบัติหน้าที่ พ.ต.ท.ศิวกริช ศิษย์บุญรัตน์ รอง ผกก.4 บก.ทล.ขอนแก่น พร้อมผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น อำนวยความสะดวกในช่วงเทศกาลปีใหม่ ไม่รู้จักเหนื่อย จะใช้เวลาช่วงสั้นๆ จะรับประทานข้าวกล่องกัน

ตรวจเยี่ยมจุดบริการ
ฐิติลักษณ์ คำพา รอง ผวจ.ชลบุรี พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี สมศักดิ์ จุฑาวงศ์กุล นายอำเภอบ้านบึง พ.ต.อ.สมชาย ทิวงษา ผกก.สภ.บ้านบึง ร่วมตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนสายเลี่ยงเมืองบ้านบึง ถนนบานบึง-แกลง พร้อมมอบอาหารและเครื่องดื่มให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำนันผู้ใหญ่บ้าน และจิตอาสา ที่อยู่ประจำจุดต่างๆ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย

สวัสดีปีใหม่
ร้อยตำรวจเอกหญิง ฐาปนีย์ มหาพชราอรุณใหม่ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย นางเกษสินี โชติกเสถียร รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพชรบุรี และหัวหน้ากลุ่มงานสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพชรบุรี ได้เข้าพบ พล.ต.ต.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี เนื่องในวารดิถีขึ้นปีใหม่ ในการนี้ได้ประสานงานการขับเคลื่อนภารกิจต่าง ๆ ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นให้เป็นไปโดยสุจริต โปร่งใส และชอบด้วยกฎหมาย.

ทำบุญวันขึ้นปีใหม่
ที่ สภ.เมืองระยอง จ.ระยอง พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยอง และข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองระยอง ร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ และร่วมทำบุญเนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2567 ข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองระยอง ได้นิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ทำบุญโรงพักเนื่องในวันขึ้นปีใหม่เพื่อความเป็นสิริมงคล และสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการตำรวจ หลังเสร็จสิ้นพิธีการทางสงฆ์ ข้าราชการตำรวจพร้อมด้วยผู้ที่มาร่วมงานได้ร่วมรับประทานอาหารแลกเปลี่ยนความคิดเห็น นอกจากนี้ทาง พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยอง ยังให้โอวาทแก่ข้าราชการตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ บริการประชาชนดั่งญาติมิตร ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตัว เพื่อเข้าถึงประชาชน เหมือนตำรวจอยู่ที่ไหนประชาชนอุ่นใจที่นั่น

*******************************

คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป