ปี 2023 กำลังจะผ่านพ้นไป แวดวงกีฬาโลกกำลังจะเดินทางเข้าสู่ปี 2024 ซึ่งว่ากันว่าจะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความคึกคักเพราะนอกจากโปรแกรมแข่งขันปกติของแต่ละชนิดกีฬาแล้ว ในปีหน้ายังจะมีทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ชิงชัยกันหลายรายการ
เรียกได้ว่ามีรายการใหญ่ให้ได้ลุ้นได้เชียร์กัน แทบจะตลอดทั้งปีเลยทีเดียว…
แน่นอนว่าทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นในปี 2024 คงหนีไม่พ้นมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอย่าง “โอลิมปิกเกมส์ 2024” ซึ่งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 26 ก.ค. ถึง 11 ส.ค. ซึ่งว่ากันว่าครั้งนี้จะเป็นโอลิมปิกเกมส์ที่เริ่ดหรูอลังการที่สุดครั้งหนึ่งตามสไตล์ของชาวเมืองน้ำหอม เอาแค่พิธีเปิดที่จะมีขึ้นกลางแม่น้ำแซน รวมถึงฉากหลังของสนามแข่งขันหลาย ๆ แห่งที่เจ้าภาพจัดไว้ก็น่าดูชมแล้ว
และที่น่าติดตามยิ่งกว่าก็คือผลงานของทัพนักกีฬาไทยใน “ปารีสเกมส์” ครั้งนี้ ว่าสุดท้ายแล้วชาวไทยจะได้เฮกับเหรียญทองเหมือนครั้งที่แล้วหรือไม่ และแน่นอนว่าเมื่อโอลิมปิกเกมส์จบลง ก็จะต่อกันด้วยกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ซึ่งจะชิงชัยกันที่กรุงปารีส ระหว่างวันที่ 28 ส.ค. ถึง 8 ก.ย.
ขยับมาที่วงการฟุตบอล โดยในเกมฟุตบอลลีกใหญ่ของยุโรปที่แฟนบอลตามเชียร์กันเป็นปกตินั้น มีวี่แววว่าหลายลีกจะขับเคี่ยวแย่งแชมป์กันอย่างสนุกไปจนถึงโค้งสุดท้ายก่อนจะปิดฤดูกาลในช่วงเดือนพฤษภาคม ขณะที่เกมในถ้วยยุโรปก็น่าจะสนุกตื่นเต้นไม่แพ้กัน โดยถ้วยใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น จะได้บทสรุปทีมแชมป์กันในรอบชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ในวันที่ 1 มิ.ย.
แต่นอกเหนือจากเกมลีกแล้ว ปี 2024 ยังเป็นปีที่มีทัวร์นาเมนต์ลูกหนังชิงแชมป์ทวีปแทบจะครบ เริ่มต้นตั้งแต่ศึกเอเชียน คัพ 2023 ที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 12 ม.ค. ถึง 10 ก.พ. ซึ่งทีมชาติไทยอยู่ในกลุ่ม F ร่วมกับซาอุดิอาระเบีย, โอมาน และ คีร์กิซถาน ขณะที่ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันยังมีศึกชิงแชมป์ทวีปแอฟริกา “แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์2024” ที่ไอวอรีโคสต์ ฟาดแข้งกันระหว่างวันที่ 13 ม.ค. ถึง 11 ก.พ.
ส่วนในช่วงเดือนมิถุนายน คอบอลก็จะได้เต็มอิ่มกับศึกชิงแชมป์แห่งชาติของ 2 ทวีปยักษ์ใหญ่ในวงการลูกหนัง ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวเช่นกัน โดยศึก “โกปา อเมริกา 2024” จะฟาดแข้งกันที่สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 20 มิ.ย. ถึง 14 ก.ค. ซึ่งจะมีความพิเศษตรงที่นอกจาก 10 ทีมในทวีปอเมริกาใต้แล้ว ยังจะมีทีมจากโซนคอนคาเคฟเข้ามาร่วมแจมด้วยเป็น 16 ทีม
อย่างไรก็ตาม ไฮไลต์ของวงการลูกหนังโลกในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า คงอยู่ที่ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2024” ซึ่งมี24 ทีมร่วมฟาดแข้งที่เยอรมนี ระหว่างวันที่ 14 มิ.ย. ถึง 14 ก.ค. ซึ่งมีหลายทีมที่อยู่ในข่ายลุ้นแชมป์ แน่นอนว่าเจ้าภาพอย่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี คือเต็งอันดับต้น ๆ เช่นเดียวกับทีมอย่าง ฝรั่งศส, อังกฤษ, สเปน หรือแม้แต่แชมป์เก่าอย่าง อิตาลี ก็ไม่อาจกาชื่อทิ้งได้แม้ฟอร์มช่วงหลังจะ 3 วันดี 4 วันไข้ก็ตาม
ขณะที่ในกีฬาเมเจอร์ประเภทอื่น ๆ เริ่มต้นที่ กอล์ฟ แฟนกีฬาชาวไทยจะยังคงได้ตามลุ้นตามเชียร์นักหวดวงสวิงของไทยใน แอลพีจีเอ ทัวร์ กันอย่างต่อเนื่อง นำทัพโดย “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล และนักกอล์ฟสาวไทยอีกมากมาย รวมถึงใน พีจีเอ ทัวร์ และ ลิฟ กอล์ฟ ที่มียอดนักหวดวงสวิงระดับโลกร่วมชิงชัยกันคับคั่งเช่นเคย
และนอกจากทัวร์นาเมนต์เมเจอร์และรายการตามปกติของทุกทัวร์แล้ว ในปี 2024 แฟนกอล์ฟจะได้เชียร์ทัวร์นาเมนต์ประเภททีม ทั้ง โซลไฮม์ คัพ ระหว่างทีมยุโรปกับสหรัฐ ซึ่งปีนี้จะดวลกันที่ โรเบิร์ต เทรนต์ โจนส์ กอล์ฟ คลับ ในรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 10-15 ก.ย. นอกจากนี้ยังมีศึก เพรสซิเดนท์ คัพ กอล์ฟทีมชายระหว่างทีมสหรัฐกับทีมรวมดาราโลก ซึ่งจะแข่งกันที่ รอยัล มอนทรีออล กอล์ฟ คลับ ในนครมอนทรีออล แคนาดา ระหว่างวันที่ 24-29 ก.ย.
ขยับไปที่วงการเทนนิส ในปี 2024 บรรดานักหวดลูกสักหลาดชื่อดังระดับโลกยังคงลงไล่ล่าความสำเร็จกันพร้อมหน้าโดยเฉพาะในแกรนด์สแลมทั้ง 4 รายการ ไล่ตั้งแต่ ออสเตรเลียน โอเพ่น 14-28 ม.ค. เฟรนช์ โอเพ่น 26 พ.ค. – 9 มิ.ย. วิมเบิลดัน 1-14 ก.ค. และ ยูเอส โอเพ่น 26 ส.ค. – 8 ก.ย.
สิ่งที่แฟนเทนนิสต้องจับตา คือผลงานของ โนวัค ยอโควิช ยอดนักหวดชาวเซอร์เบีย ว่าจะเดินหน้ายืดสถิติคว้าแชมป์แกรนด์สแลมเพิ่มเติมได้หรือไม่ ขณะที่คู่ปรับสำคัญอย่าง ราฟาเอล นาดาล จะฟิตกลับมาแข่งขันได้ต่อเนื่องแค่ไหนหลังเจ็บไปร่วมปี ไหนจะมีดาวรุ่งอีกมากหน้าหลายตาที่ขยับขึ้นมาเป็นคู่แข่ง เช่นเดียวกับในประเภทหญิง ที่มีนักหวดหลายคนที่ฝีไม้ลายมือไม่หนีกัน
ในแวดวงมอเตอร์สปอร์ต ศึก เอฟ วัน เป็นที่น่าจับตาว่าจะมีใครก้าวขึ้นมาทาบรัศมีของ แมกซ์ แฟร์สตัพเพน ที่คว้าแชมป์โลกปีที่แล้วไปครองแบบไร้คู่ต่อกรหรือไม่ และต้องไม่ลืมที่จะเชียร์ อเล็กซานเดอร์ อัลบอน นักซิ่งชาวไทย ขณะที่ในประเภท 2 ล้อ รุ่นโมโต จีพี น่าจะเข้มข้นยิ่งกว่าหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา ๆ มา หลังจากปีที่แล้วการลุ้นแชมป์ต้องเบียดกันจนถึงสนามสุดท้าย ขณะที่แฟน ๆ ชาวไทยต้องเอาใจช่วย “เจ้าก้อง” สมเกียรติ จันทรา ในรุ่นโมโต ทู รวมถึง “เจ้าก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ที่จะได้ลงบิดในรุ่นโมโต ทรี ด้วย
ส่วนอเมริกันเกมส์ เริ่มกันที่ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ซึ่งจะได้บทสรุปกันศึกซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 58 ซึ่งจะแข่งกันที่อัลลีไจแอนต์ สเตเดี้ยม ในนครลาส เวกัส รัฐเนวาดา ในวันที่ 11 ก.พ. ส่วนบาสเกตบอล เอ็นบีเอ รอบเพลย์อิน จะแข่งขันกันระหว่างวันที่ 16-19 เม.ย. ก่อนเข้าสู่ช่วงเพลย์ออฟ ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. เป็นต้นไป ขณะที่รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันเกมแรกในวันที่ 6 มิ.ย. และถ้ายืดเยื้อถึงเกมที่ 7 ก็จะแข่งกันในวันที่ 23 มิ.ย.
นอกจากนี้ยังมีกีฬาอีกหลายชนิดที่จะมีศึกใหญ่ให้แฟนกีฬาได้ติดตามเชียร์กันตลอดปี และเชื่อว่าตลอดทั้งปี 2024 แฟนกีฬาจะได้สัมผัสกับการเชียร์แบบครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะสนุกตื่นเต้น สมหวัง ผิดหวัง
เตรียมตัวให้พร้อม แล้วร่วมเชียร์ไปด้วยกันครับ…
ทีมข่าวกีฬาเดลินิวส์
