นี่เป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ในปัจจุบันเราสามารถชมภาพยนตร์ใหม่ ๆ มากมายโดยที่ไม่ต้องออกจากบ้าน ประสบการณ์การรับชมเปลี่ยนไปอย่างมาก และในแบบที่เราอาจไม่สามารถคาดเดาได้ทั้งหมด แต่การดูหนังในโรงภาพยนตร์ร่วมกับคนอื่นนั้น ถือเป็นประสบการณ์แบบดั้งเดิมที่ทรงพลังมากกว่า

แต่ไม่ว่าคุณจะดูภาพยนตร์ที่บ้านหรือที่โรงหนัง มันก็ยังคงเป็นสื่อบันเทิงที่มอบอารมณ์หลากหลายให้กับคุณได้ ความรู้สึกที่ได้จากการชมจะติดตามคุณไปในทุกที่

และนี่คือ 10 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของปี 2023 ที่ “หมีเช” แห่ง “ดูหนังกับหมี” คัดสรรมาด้วยความชื่นชอบส่วนตัว อาจจะถูกใจใครบางคน และไม่ถูกใจใคร ๆ อีกหลายคน แต่หวังว่าจะเป็นไกด์ให้สำหรับคนที่กำลังหาหนังดูในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2024 ได้มีช่วงเวลาดี ๆ ในการชมภาพยนตร์เหล่านี้ได้บ้าง ไม่มากก็น้อย

  1. Passages

ภาพยนตร์ดราม่าโรแมนติกฝรั่งเศสที่ไม่มีความโรแมนติกมากนัก เป็นหนังที่ชาญฉลาด ตลก เต็มไปด้วยเซ็กส์และการพูดคุย นำแสดงโดย ฟรานซ์ โรโกวสกี้ (Transit, A Hidden Life), เบน วิชอว์ (No Time to Die, Perfume: The Story of a Murderer) และ อเดล เอ็กซาร์โคปูโลส (Blue Is the Warmest Color, Orpheline) เรื่องราวของ โทมัส (ฟรานซ์ โรโกวสกี้) และ มาร์ติน (เบน วิชอว์) คู่รักชาย-ชายที่อาศัยอยู่ในกรุงปารีส แต่ชีวิตคู่เริ่มสั่นคลอน เมื่อโทมัสไปมีสัมพันธ์สวาทกับครูสาว อกาเธ่ (อเดล เอ็กซาร์โคปูโลส) จนกระทั่งมาร์ตินเริ่มไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่นบ้าง ทำให้โทมัสต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต ที่เขาไม่ได้เตรียมตัวหรือไม่เต็มใจที่จะรับมือกับมัน

  1. The Moon ปฏิบัติการพิชิตจันทร์

หนังอวกาศเกาหลีที่มีความทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก ด้วยทุนสร้างกว่า 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับการใช้เวลาถึง 7 เดือนในการเสกสรรค์ภาพยนตร์อวกาศไปเหยียบดวงจันทร์เรื่องนี้ ยานอวกาศ ชุดอวกาศ อุปกรณ์ต่าง ๆ ล้วนสมจริงสุด ๆ เพราะมีการซื้ออุปกรณ์หลากหลายอย่างมาจากนาซ่า เพื่อนำมาดัดแปลงให้เป็นของตัวเอง ถ่ายทำแบบ 4K ทั้งเรื่องด้วยเลนส์ 45 ตัวเพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ ถ้ามองในแง่ของความบันเทิงที่ต้องชมในโรงภาพยนตร์ “The Moon ปฏิบัติการพิชิตจันทร์” คุ้มค่าคุ้มราคาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการชมในโรง IMAX ขณะที่เนื้อเรื่องอาจมีทั้งที่ถูกใจและไม่ถูกใจ แต่โดยภาพรวมถือว่า “ยอดเยี่ยม” โดยเฉพาะพาร์ทของเส้นเรื่องการดิ้นรนอย่างถึงที่สุดจนเกินลิมิต เพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตอยู่ต่อไป ก็อาจช่วยสอนหรือกระตุ้นเตือนใครหลาย ๆ คนได้ไม่มากก็น้อย

  1. Long Live Love! ลอง ลีฟ เลิฟว์

ภาพยนตร์ไทยที่ครบเครื่องต้มยำของปีนี้ มีครบทุกรสชาติ ตลก ซึ้ง เศร้า น้ำตาแตก ดราม่า สะเทือนอารมณ์ กระชากอารมณ์ ฟีลกู๊ด มีครบจบในเรื่องเดียว ผลงานการแสดงของ ชมพู่ อารายา เอฮาร์เก็ต ประชันบทบาทกับ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ พร้อมด้วย เบคกี้–รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง และ ปีเตอร์-นพชัย ที่มาเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับหนังที่กำกับโดย มุก–ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ ผู้กำกับสาวจากซีรีส์สุดฮาในตำนาน “เนื้อคู่ประตูถัดไป” และ “เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร” ถือเป็นหนังเรื่องแรกของเธอที่ถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัว ๆ หนึ่งที่กำลังร้าวหนักหน่วงอยู่ และใกล้จะแตกสลายเต็มแก่ หนังรักที่ชวนทุกคนร่วมย้อนความทรงจำความรักผ่านรูปถ่าย เพื่อกลับไปพบกับจุดเริ่มต้นของความรัก หรือ เลิกรัก

  1. The Holdovers

เมื่อต้องมาเรียนช่วงปิดเทอมกับครูจอมเฮี้ยบ ภาพยนตร์คอมเมดี้ดราม่าอเมริกัน ผลงานกำกับโดย อเล็กซานเดอร์ เพย์น เขียนบทโดย เดวิด เฮมมิงสัน นำแสดงโดย พอล จิอาแมตติ, ดาไวน์ จอย แรนดอล์ฟ และ โดมินิก เซสซา เป็นหนังที่เล่าถึงเรื่องราวในอดีตเมื่อปี 1970 เกี่ยวกับครูสอนประวัติศาสตร์ผู้ฉุนเฉียวในโรงเรียนประจำ ที่นิวอิงแลนด์ ซึ่งถูกบังคับให้ดูแลนักเรียนจำนวนหนึ่ง ที่ไม่มีที่ไปในช่วงวันหยุดคริสต์มาส ทำให้เกิดความสัมพันธ์ดี ๆ ที่แสนอบอุ่นหัวใจขึ้น เป็นหนังแนวฟีลกู๊ดที่ดูเมื่อไหร่ก็ทำให้เรารู้สึกสบายใจได้รับการฮีลจากโลกอันโหดร้าย

  1. Perfect Days

หนังดราม่าญี่ปุ่นความยาว 123 นาที ที่แสดงโดย โคจิ ยากุโซะ, ยูมิ อะโซะ กำกับโดย วิม เวนเดอร์ส เป็นเรื่องราวของชายแก่คนหนึ่งที่ชื่อว่า ฮิรายามะ ซึ่งพอใจกับชีวิตที่เรียบง่ายในฐานะคนทำความสะอาดห้องนํ้าในโตเกียวผู้โดดเดี่ยว (แต่ไม่โดดเดี่ยว) นอกเหนือไปจากตารางชีวิตประจำวันอันเข้มงวดของเขาแล้ว เขายังพึงพอใจกับการได้ฟังดนตรีและอ่านหนังสือ เขารักต้นไม้ รวมไปถึงชอบถ่ายรูปพวกมัน ก่อนที่หลากหลายเหตุการณ์ จะเริ่มเปิดเผยอดีตของเขาขึ้นมาทีละนิด เป็นหนังที่เรียบง่าย กระตุ้นให้ผู้ชมรู้สึกซาบซึ้ง ตามสไตล์หนังญี่ปุ่นที่นิ่ง ๆ เรื่อย ๆ เหมือนสายลมที่พัดมาแตะผิวหนังของเราเพียงบางเบา ซึ่งให้ความรู้สึกสบายทั้งกายและใจอย่างบอกไม่ถูก

  1. Poor Things

ภาพยนตร์ตลกร้ายแฟนตาซีที่ดัดแปลงจากเรื่องราวสุดคลาสสิกของตัวละคร แฟรงเกนสไตน์ ที่ได้นางเอกคนดัง เอ็มม่า สโตน มารับบทตัวเอก ผลงานของผู้กำกับ ยอร์กอส ลานธิมอส โดย สโตน รับบทเป็น เบลล่า แบกซ์เตอร์ หญิงสาวอารมณ์เดือดดาล เซ็กซ์จัด รักอิสระ และเป็นแฟรงเกนสไตน์ หลังจากที่เธอพยายามกระโดดน้ำฆ่าตัวตายเพื่อหนีสามีที่ชอบทุบตีเธอ สมองของตัวอ่อนทารกในครรภ์ของเธอ จึงเข้าไปยึดสมองของเธอแทน หนังเล่าเรื่องราวของ เบลล่า จากเด็กสาววัยทารกไปสู่โสเภณียุควิคตอเรียน หนังเต็มไปด้วยเรื่องเพศและความแปลกประหลาด พร้อมด้วยการแสดงอันทรงพลังของ เอ็มม่า ทำให้เธอถูกคาดการณ์ว่า นี่อาจเป็นหนังที่ทำให้เธอได้ออสการ์ตัวที่ 2 ในฐานะนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม

  1. Anatomy of a Fall เขาบอกว่าเธอฆ่า

หนังอาชญากรรมกระตุกขวัญฝรั่งเศส ความยาวถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง ที่มีความดราม่ามากกว่าความระทึกขวัญ เป็นการสืบสวนหาตัวคนร้าย ซึ่งไม่ใช่แค่เจอคนร้าย แต่ทำให้เราได้รู้จักคนใกล้ตัวมากยิ่งขึ้น ได้รู้จักจิตใจของตัวเองมากขึ้น หนังนำเสนออย่างชาญฉลาด นางเอก แซนดร้า ฮีลเลอร์ แสดงได้อย่างทรงพลังกับบทผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรมสามีของตัวเอง โดยมีลูกชายตาบอดของเธอที่เป็นพยานเพียงคนเดียวในเหตุการณ์นี้ เป็นหนังที่บันเทิงสุด ๆ น่าตื่นตาตื่นใจ คว้ารางวัลหนังเมืองคานส์มาแล้ว และจะเดินหน้ากวาดรางวัลอีกมากมายอย่างแน่นอน

  1. Past Lives ครั้งหนึ่ง…ซึ่งคิดถึงตลอดไป

ถ้าอยากรู้ว่า “ความคิดถึง” จะบาดลึกเข้าไปในใจคนให้เจ็บได้ขนาดไหน Past Lives จะทำให้คุณได้อิน ซึ้ง ได้คิดถึงใครคนนั้นยิ่งกว่าเดิม ภาพยนตร์จากสตูดิโอดังแห่งยุคนี้ A24 ผลงานกำกับและเขียนบทเรื่องแรกของ เซลีน ซง ซึ่งเนื้อเรื่องอ้างอิงมาจากชีวิตส่วนตัวของเธอ คว้า 3 รางวัลจากเวที Hollywood Critics Association Midseason Film Awards ได้แก่ ภาพยนตร์อินดี้ยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม หนังสร้างจากคอนเซ็ปต์ของคำว่า IN-YUN (อิน-ยอน) ในภาษาเกาหลี ซึ่งเชื่อกันว่า โชคชะตาหรือพรหมลิขิตที่ทำให้คู่แต่งงานมารักกัน ผูกโยงมาจากความสัมพันธ์ที่เคยเดินสวนกันแต่ชาติปางก่อน และจะโยงใยกันต่อไปในอีก 8,000 ชาติภพ เป็นหนังรักฟีลกู๊ดที่จะทำให้เราอบอุ่นหัวใจ ซาบซึ้ง ดีงาม และทรงคุณค่าเหลือเกิน

  1. Killers of the Flower Moon

ผลงานของ มาร์ติน สกอร์เซซี ซึ่งดัดแปลงจากหนังสือสารคดี Killers of the Flower Moon: The Osage Murders and the Birth of the FBI ของ เดวิด แกรนน์ ที่ตีพิมพ์ในปี 2017 ว่าด้วยเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นจริงกับชาวอินเดียนเผ่าโอเซจ ในรัฐโอคลาโฮมา ช่วงทศวรรษ 1920 โดยเหล่าชนพื้นเมืองค้นพบบ่อน้ำมันใต้ดินจำนวนมหาศาล ทำให้พวกเขากลายเป็นชนพื้นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่ก็มีผู้คนภายนอกที่หวังจะเข้ามาตักตวงผลประโยชน์จากพวกเขา จนนำมาสู่เหตุฆาตกรรมที่ชาวโอเสจเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ FBI จากวอชิงตัน ดี.ซี. ต้องมาสืบคดีดังกล่าว หนังยิ่งทวีคูณความน่าดู เมื่อได้นักแสดงนำอย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ มาประชันบทบาทกับ โรเบิร์ต เดอ นีโร เป็นหนังที่สนุก เล่าเรื่องได้น่าสนใจ และมีการแสดงที่ทรงพลังของสุดยอดฝีมือ แถมยังเปิดเผยให้เราได้เห็นจิตใจอันเลวร้ายของมนุษย์ที่สุดแสนจะน่ากลัว

  1. Fallen Leaves โรงหนัง คนเหงา เรา 2 คน

หนังรักโรแมนติกดราม่าของฟินแลนด์ นำแสดงโดย อัลมา โพสตี และ ยุสซี วาเตเนน กำกับโดยบรมครู อากิ เคาริสมากิ หนังเล่าเรื่องราวของคนเหงาชนชั้นแรงงาน 2 คนที่บังเอิญมาเจอกันในคืนหนึ่ง และเกิดความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน มันคือ “รักแรกพบ” ที่พวกเขาไม่เคยได้เจอมาก่อน ก่อนที่ทั้งคู่จะไปเดตกันที่โรงหนังด้วยการดูภาพยนตร์ของ จิม จาร์มุช โดยเธอให้สัญญากับเขาว่า “ถ้าได้เจอกันอีกครั้ง ฉันจะบอกชื่อคุณ” แต่อะไรหลาย ๆ อย่างไม่เป็นใจกับความรักครั้งนี้เลย โชคชะตาเหมือนเล่นตลก ทั้งคู่พลาดโอกาสที่จะได้เจอกันครั้งแล้วครั้งเหล่า นี่คือหนังเทพนิยายของชนชั้นแรงงาน ที่เรียบง่ายแต่สุดแสนทรงพลัง ช่วยปลอบประโลมและโอบกอดผู้ชมที่ต้องเผชิญหน้ากับโลกอันแสนโหดร้าย น่าเบื่อ และเศร้าสร้อย แต่ก็ยังมีแง่มุมที่สวยงามและแสนสุขให้เราได้ชื่นชมบ้างไม่มากก็น้อย

“หมีเช” ดูหนังกับหมี