หลังจากผู้กำกับชื่อดัง “จอห์น วู” ฝากผลงานสุดยอดแอ๊คชั่นระห่ำอย่าง Face/Off, Broken Arrow รวมถึง Mission: Impossible 2 เขาก็หันไปทำหนังจีนชนิดจริงจัง อย่างเช่น The Crossing (2015), Reign of Assassins (2010) และ Red Cliff 2 (2009) ล่าสุด ผู้กำกับชาวฮ่องกง ก็หวนคืนผลงานแวดวงฮอลลีวูดในรอบ 20 ปี โดยจับมือกับ “เบซิล ไอวานิค” โปรดิวเซอร์จากสุดยอดหนังแอ๊คชั่น John Wick ทุกภาค มาร่วมงานหนังแอ๊คชั่นในช่วงฉลองเทศกาลคริสต์มาสอย่าง Silent Night หรือที่มีชื่อไทยแบบเดือด ๆ ว่า “…ยิงแมร่งให้เหี้ยน…”

เรื่องย่อ Silent Night ตัวหนังมีความยาว 104 นาที บอกเล่าเรื่องราวของ “ไบรอัน ก็อดร็อค” (รับบทโดย โจแอล คินนาแมน) พ่อผู้สูญเสียลูกชายที่โดนลูกหลง แก๊งมาเฟียไล่ยิงถล่มกันบนถนนหน้าบ้านพัก “ไบรอัน” วิ่งตามพวกมันไปเพื่อจะเอาคืน แต่กลับกลายเป็นว่า เขาโดนหัวหน้ามาเฟียยิงเผาขน กระสุนเจาะคอทำลายกล่องเสียงถาวร ไม่สามารถเปล่งเสียงเป็นคำพูดได้อีกต่อไป หลังจากเขาหายดี “ไบรอัน” เลือกที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นมือสังหาร ตามล่าฆ่ายกแก๊ง สางแค้นเอาคืนพวกมันให้สาสม

จุดแข็ง ขึ้นชื่อว่าพระเอกใช้เสียงไม่ได้ การพูดก็เลยแทบจะไม่มี นักแสดงต้องใช้สีหน้าอารมณ์ในการถ่ายทอดมากกว่าปกติ ซึ่ง “โจแอล คินนาแมน” สามารถตีบทแตกได้ดีเยี่ยม ทั้งสีหน้าแววตา ท่าทาง ยิ่งในช่วงการสูญเสียลูกชาย บอกเลยว่า ดำดิ่งหดหู่ใจสุด ๆ ในส่วนของพาร์ทแอ๊คชั่น ถ้าขึ้นชื่อว่า “จอห์น วู” เป็นต้องโชว์งานละเอียดอยู่แล้ว นักแสดงต้องไปเรียนดริฟต์รถ ยิงปืน ก่อนจะจัดวางมุมกล้องสวย ๆ เอาใจคอหนังแอ๊คชั่น สำหรับตัวละคร “ไบรอัน ก็อดร็อค” เป็นคนธรรมดาไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ เจ็บเป็นตายเป็น การนำเสนอจึงออกมาในลักษณะของการฝึกฝนร่างกายจิตใจ พร้อมกับการเล่าเรื่องในลักษณะ Flashback (เรื่องในอดีตของลูกชาย) ตัดสลับกันไปมาซึ่งจะเป็นพาร์ทแรกของหนัง ขณะที่โหมดแอ๊คชั่นเดือด…เลือดท่วมจอ ซิ่งรถไล่ยิงไปจนถึงบุกถล่มรังโจร จะไปจัดหนักในช่วงหลังล้วน ๆ

จุดอ่อน เพราะการสื่อสารโดยไม่ใช้เสียง เชื่อว่ามีผู้ชมหลายท่าน อาจเกิดความรู้สึกอึดอัด ไม่อินกับบทของตัวเอก เรื่องนี้ต้องตั้งใจดู หรือใช้สมาธิในการรับชมพอสมควร ดูแล้วก็ต้องคิดตามไปด้วย ท้ายที่สุดเรื่องราวของ Silent Night (2023) อาจถูกตั้งคำถามว่า “..ทำไมตำรวจไม่จับมาเฟีย?…” ตรงนี้มันสะท้อนภาพของสังคมเมืองที่มีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะในต่างประเทศที่เหตุอาชญากรรมค่อนข้างจะมาก ยิ่งถ้าคนก่อเหตุเป็นมาเฟียพื้นที่ก็ยิ่งจับกุมยากเข้าไปอีก หนังเรื่องนี้ก็เลยกลายเป็นกระบอกเสียงอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้ภาพชัดขึ้น เมื่อเหยื่อกลายเป็นผู้ล่าเสียเอง ตำรวจเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ต้องแอ๊คชั่นให้มากกว่าเดิม มิเช่นนั้นก็จะมีศาลเตี้ยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

4/5 ตามปกติช่วงฉลองเทศกาลคริสต์มาส จะมีแต่หนังแนวอบอุ่นหัวใจ แต่คราวนี้กลับกลายเป็นดำดิ่งหดหู่ใจ สะท้อนสังคมอเมริกัน เป็นสิ่งที่กล้าท้าทายตลาดอย่างยิ่งยวด ภาพรวมของหนัง ยังคงเป็นการโชว์ฉากแอ๊คชั่นคม ๆ แบบสโลโมชั่นตูมตามบึ้มบั้ม! ไปพร้อม ๆ กับบทของนักแสดงหนุ่ม ที่ยอมแบกทุกสิ่งไว้คนเดียว ถือเป็นอีกผลงานหนึ่งของ “จอห์น วู” ที่คาดว่าจะเป็นหนังขึ้นหิ้งได้ไม่ยาก.

———————————————

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพ จากเว็บไซต์ Youtube และ Lionsgate Movies